เน็ตทำวัยรุ่นติดเซ็กซ์

เน็ตทำวัยรุ่นติดเซ็กซ์
สสส. แฉเน็ตทำวันรุ่นติดเซ็กซ์ศึกษาอยุธยาสั่งปิดปากร.ร.สสส.
แฉเน็ตทำวันรุ่นติดเซ็กซ์ศึกษาอยุธยาสั่งปิดปาก ร.ร.
สสส.-เอแบคโพล แฉเด็กไทยหมกหมุ่นเรื่องเพศ 61% ดูภาพโป๊
เกือบ 70% ฮิตโหลดรูปเปลือย วีดีโอโป๊ไว้ดู รับภาพผ่านทางเมล์
ขณะเดี่ยวกันเคยมีเพศกับคนรู้จักทางเน็ต 13% เต็มใจ 37% และไม่เต็มใจ
24% โดยที่พ่อแม่ไม่ทราบเรื่องว่าลูกดูเซ็กซ์ออนไลน์

แฉอีกเด็กนักเรียนสาวชอบเป็นนางโชว์ผ่านเน็ต เตรียมผลักดันให้วันที่ 9
ก.พ.50 เป็นวันอินเตอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติแฉเด็กไทยหมกมุ่นสื่อลามก
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.49
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงเรื่อง เด็ก :
เซ็กซ์ออนไลน์ โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า
จากการที่ สสส. ร่วมกับสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
สำรวจความคิดเห็นเรื่อง การใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กไทย อายุ 15-24 ปี
ในเขต กทม. จำนวน 1,464 คน พบว่า เด็กอายุไม่ถึง 12 ปี
เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตถึง 20.8% เด็กอายุ 13-15 ปี เริ่มใช้มากที่สุด
45.3% โดยเด็กอายุน้อยที่สุดที่เริ่มใช้คือ 5 ขวบ
เวลาที่เด็กนิยมใช้อินเตอร์เน็ตคือ 20.01-24.00 น.
ซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนของเด็กในวัยเรียน

เมื่อถามผู้ปกครองว่าทราบหรือไม่ว่าดูอะไรในอินเตอร์เน็ตบ้าง 44.8%
ระบุว่าไม่ทราบ และมีเพียง 12.6% เท่านั้น ที่ดูแลการใช้ ในส่วนของครู
อาจารย์นั้นกว่า 33.1% ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกศิษย์ใช้อินเตอร์เน็ต
ที่สำคัญกลุ่มตัวอย่างซึ่งรวมถึงเด็กอายุ 15 ปี เคยดูภาพโป๊
เปลือยทางอินเตอร์เน็ตสูงถึง 61.6% ซ้ำร้าย 68.4%
ยังดาวน์โหลดภาพและวีดีโอโป๊ด้วย อีก 14.1%
ขอรับภาพกับวีดีโอโป๊ผ่านทางเมล โดย 66.7% จะชวนเพื่อนมาดูด้วย ขณะที่
16.8% จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ระหว่างดูภาพโป๊ อีก
16.8% สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ส่วน 12.5%
พูดคุยกับแฟนหรือเพื่อนต่างเพศ และ 5.9% มีเพศสัมพันธ์
โดยเด็กยอมรับว่าเมื่อดูแล้วเกิดความต้องการทางเพศ 24.4%

ซึ่งเกินครึ่งคือ 54.8% บอกว่า
เพื่อนคือผู้แนะนำให้รู้จักเว็บโป๊ในอินเตอร์เน็ต ขณะที่ภาพโป๊เปลือย
การมีเพศสัมพันธ์ของดารานักร้อง กลายเป็นเรื่องธรรมดา 62.6%
เคยเห็นภาพที่เจ้าของตั้งใจแอบถ่ายหลุดออกมา แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าเด็ก
10.6% คิดว่าภาพโป๊มีประโยชน์ โดย 67.5%
บอกว่าเป็นการเรียนรู้เรื่องเพศ และ 54.9%
ยอมรับได้กับการมีสื่อลามกทางอินเตอร์เน็ต ทพ.กฤษดา
กล่าวเด็กรับเคยมีเพศกับคนรู้จักทางเน็ต

รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่าง 85.4%
เคยพูดคุยกับคนแปลกหน้าทางอินเตอร์เน็ต ซึ่ง 28.5% พูดคุยเรื่องเพศกัน
โดยผู้หญิงประมาณ 2 คนใน 100 คน
จะนัดเจอกับคนแปลกหน้าที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ตทุกครั้ง คิดเป็น 1.9%
และ 13.2% มีเพศสัมพันธ์กัน เป็นไปอย่างเต็มใจ 37.6% ไม่เต็มใจ 24.8%
ไม่แน่ใจ 37.6%

ดังนั้นเด็กที่ตอบว่าไม่เต็มใจและไม่แน่ใจที่ร่วมกันแล้วมีถึง 75.2%
อาจถูกข่มขืน ล่อลวง ทั้งนี้ เด็ก 15.7%
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียนระบุว่า เคยใช้อินเตอร์เน็ตประกาศหาคู่
ขณะที่ 45.6% เล่นเกมออนไลน์ เป็นการที่ไม่เหมาะสมอย่างเกมเปลื้องผ้า
7.4% เกมดักฉุดหญิงสาว 5.3% อีกทั้งมีการเข้าไปเว็บที่เนื้อหารุนแรง
ฆาตกรรม 56.2% ฆ่าตัวตาย 32.1% เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ 23.8%
ทำระเบิด 16.4%แฉอีกเล่นเน็ตจนเป็นนางโชว์

นายศิระ สัจจินานนท์ อายุ 19 ปี กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
กล่าวว่า มีเด็กสาวมัธยมต้นคนหนึ่ง เป็นเด็กเรียนดี ครอบครัวอบอุ่น
ผู้ปกครองติดอินเตอร์เน็ตให้ในห้องนอน เพื่อหาข้อมูลทำการบ้าน
พอเวลาผ่านไป ก็เริ่มใช้โปรแกรมสนทนา คุยกับคนแปลกหน้า
เข้าไปห้องสนทนาเรื่องเพศ ที่มีการแลกภาพเปลือยดูกัน
แล้วถูกยั่วยุจากคู่สนทนา ให้ซื้อกล้องหรือเว็บแคม
จากเด็กนักเรียนก็เลยกลายเป็นนางโชว์ โป๊ เปลือยขึ้นเรื่อยๆ
จนสำเร็จความใคร่ให้คู่สนทนาดู แล้วก็หารายได้ผ่านบัตรเติมเงิน
ต่อมาเด็กผู้หญิงคนนี้ถูกวางยานอนหลับ
แล้วข่มขืนถ่ายวีดีโอเก็บไว้ข่มขู่ให้ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย
และบังคับให้ขายบริการ

นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเตอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเปิดเว็บไซต์รับแจ้งเบาะแสเว็บไม่เหมาะสมที่
http://cyber.police.go.th/webreport/ มาตั้งแต่ปี 2545
ในปีที่ผ่านมาได้รับแจ้งถึง 10,646 เว็บไซต์ ในจำนวนนี้ เกือบ 80%
เป็นเว็บไซต์ลามก ขายบริการทางเพศ หรือวัตถุทางเพศ
ทั้งยังพบว่ามีคนเล่นเกมมาราธอน 86 ชั่วโมง จนเสียชีวิตหน้าจอ
อีกรายอายุ 28 ปี เล่นติดต่อกัน 50 ชั่วโมง ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในอีก 3
ชั่วโมงต่อมาดันวันอินเตอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ
สสส. มูลนิธิอินเตอร์เน็ตฯ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
เครือข่ายครอบครัวฯ และภาคี
จึงร่วมกันพัฒนาทางออกสำหรับปัญหาภัยอินเตอร์เน็ตอย่างยั่งยืน
โดยมีทั้งการสนับสนุนให้ครอบครัวใช้เครื่องมือเช่น ปลาวาฬบราวเซอร์
ในการป้องกันการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก
และยังมีการจัดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์
(www.thaisafenet.org)
โดยให้ความรู้และรณรงค์การใช้อินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์
ให้แก่ ครู ผู้ปกครอง และเยาวชน ให้รู้เท่าทันสื่อชนิดนี้
และผลักดันให้วันนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้า คือวันที่ 9 ก.พ. 2550 เป็น
วันอินเตอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ หรือ National Internet Safety Day
นางศรีดา กล่าวสพท.เขต 1 สั่งรูดซิบปากคลิปสยิว

สำหรับกรณีที่มีคลิปวีดีโอการร่วมเพศของเด็กนักเรียนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ระบาดในโทรศัพท์มือถือ
และกลายเป็นซีดีเอ็กซ์แพร่ระบาดในตลาดมืดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานได้ติดต่อไปที่สำนักงานพื้นที่การศึกษา (สพท.) เขต 1
จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ปรากฎว่า
นางสาวศศิธร วงษ์เมตา ผอ.สพท.เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา ติดภารกิจ
แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่า
หลังจากมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งรายงานข่าวว่า
มีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ได้ออกมาปฏิเสธว่าเด็กนักเรียนสาวไม่ใช่เด็กที่ปรากฏในคลิปวีดีโอดังกล่าว
และยืนยันว่าเด็กนักเรียนหญิงยังอยู่ครบไม่มีเด็กคนใดลาออกหรือหายไป
ซึ่งทาง ผอ.สพท.เขต 1
เห็นว่าการใช้วีธีตอบโต้ทางหน้าหนังสือพิมพ์ในลักษณะนี้
ยิ่งจะสร้างความเสียหายแก่โรงเรียนมากยิ่งขึ้น
และความเข้าใจผิดเพิ่มมากยิ่งขึ้นจึงขอให้
ผอ.โรงเรียนหยุดโต้ตอบให้เป็นข่าวต่อไป
และให้ใช้วิธีหาทางแก้ไขปัญหาจะดีกว่าวอนตำรวจกวดขันสื่อลามก
นายสมเกียรติ มนต์ประเสริฐ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/4
หมู่ 8 ต.นครหลวง อ.นครหลวง
เปิดเผยว่าตนเองก็มีลูกสาวเรียนอยู่ในระดับขั้นมัธยมเช่นกัน
รู้สึกมีความเป็นห่วงกังวลทั้งตัวลูกสาว
และวัยรุ่นในขณะนี้มักมีพฤติกรรมผิดไปจากวัยรุ่นยุคก่อน
ไม่มีความละอายแก่ใจ
บางคร้งจะเห็นวัยรุ่นหญิงชายในชุดนักเรียนโอบกอดกันตามท่ารถ
สวนสาธารณะและตามห้างสรรพสินค้า มันเป็นเรื่องน่าอาย
ในกรณีข่าวที่เกิดขึ้นยังไม่เห็นว่ามีหน่วยงานใด
หรือผู้บริหารโรงเรียนโรงเรียนหนึ่งออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ถ้าเป็นอย่างนี้เชื่อว่าความเสียหายจะตกอยู่กับนักเรียนทุกคนที่เป็นวัยรุ่น
อยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
และทราบขณะนี้มีวีดีโอคลิปประเภทนี้ออกมาอีกหลายชุด
เพราะฉะนั้นตำรวจน่าจะเข้ามาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความก็ตาม
ที่มา : บ้านเมือง (Th)