AIDS

โรคเอดส์ – AIDS
โรคเอดส์ในปัจจุบัน เป็นโรคที่ร้ายแรงและไม่สามารถ
รักษาให้หายขาดได้ และสถานการณ์เอดส์ในเมืองไทย
ก็อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง ทางเราจังจัดทำหน้าเว็บนี้ขึ้นมา
เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความน่ากลัวของโรคร้ายตัวนี้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย
หากมีข้อผิดพลาดหรือบกพร่องประการใด
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

โรคเอดส์ป้องกันได้

โรคเอดส์ป้องกันได้
โรคเอดส์ป้องกันได้

ผมคิดว่าอ่านก่อนศึกษาก่อน ป้องกันตัวเองก่อน
ที่เราจะเป็น ย่อมดีกว่าเราเป็นแล้วค่อยมาอ่านนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีเซ็กส์ที่ปลอดภัย เพื่อคนไทยห่างไกลเอดส์ครับ

เพศศึกษา(การ์ตูน)
เอดส์ ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด

เอดส์ ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด(เป็นเรื่องจริงจาก ทางบ้านนะครับ)
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งผมเองก็ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะใกล้ตัวได้ขนาดนี้ นั่นก็คือเรื่องของโรคเอดส์ …. ผมเองก็เป็นคนนึงที่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีแฟนคบกัน เลิกกัน แล้วก็มีแฟนใหม่ ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานกับเพื่อน โดยที่ไม่เคยคิดถึงว่าจะมีเรื่องราวร้าย ๆ ว่ามันจะสามารถเกิดขึ้นกับตัวเราได้

เพราะผมเองก็เรียนอยู่ในมหาลัยเอกชนชื่อดัง (ขอสงวนนามไม่บอกนะครับ) มีสังคมและกลุ่มเพื่อนที่ดี เที่ยวกลางคืนกันบ้าง ตามสถานที่ ที่วัยรุ่นทั่วไปเค้าไปกัน (แถวทองหล่อ เอกมัย สุขุมวิท)

จนกระทั่งวันนึง ผมก็ได้พบกับ ผู้หญิงคนนี้ ซึ่งเธอเองก็เป็นคนน่ารัก ยอมรับนะครับว่าเจอกันในที่เที่ยว ซึ่งครั้งนั้นเธอไปเที่ยวในงานวันเกิดของเพื่อน แล้วเราก็ได้รู้จักกัน จนสนิทสนมและก็ได้คบหากัน ซึ่งหลังจากนั้น เราก็มีอะไรกัน ตามประสาคนทั่วไป … เราคบกันโดยที่ ป้องกันบ้างไม่ได้ป้องกันบ้าง ด้วยถุงยางอนามัย เพราะผมเองมั่นใจในตัวผมก็เพราะว่า ผมเองเป็นคนที่ตรวจเลือดประจำปีอยู่แล้ว และปรกติจะเป็นคนที่ป้องกันตัวตลอดอยู่แล้ว

และผมเองก็เชื่อใจเธอ เพราะเธอเองเป็นคน อ่อนหวาน น่ารัก เรียบร้อย และไม่ใช่ ญ ประเภท ที่เที่ยวกลางคืนอย่างช่ำชอง จึงทำให้ผมไว้วางใจในตัวเธอ (ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ อย่างมาก อยากให้ทุกท่านได้รู้ไว้เป็นอุทาหรณ์)…

แต่ส่วนใหญ่ ผมจะป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัยมากกว่า ประมาณ ร้อยละ 90 เพราะไม่อยากเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และไม่อยากให้เธอทานยาคุมเพราะว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพเธอในระยะยาว (อย่างน้อยนี่ก็คือความคิดของผม) ผมคบกับเธอได้เกือบปี

จนกระทั่งมีอยู่คืนนึง ซึ่งผมนั้นได้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วก็ไปหาเธอตามปรกติ ซึ่งคืนนั้นผมยอมรับว่าผมเมา เพราะปรกติผมจะไม่ค่อยดื่มเหล้า เพราะเป็นคนคออ่อน จึงทำให้ขาดสติ และไม่ได้ป้องกันกับเธอในคืนนั้น และได้สัมผัสกับประจำเดือนเธอ …

แล้วในวันรุ่งขึ้นซึ่งผมจำได้ว่าเป็นวันเสาร์ ซึ่งไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด จึงมีเหตุที่ทำให้ผมนั้น รู้สึกเป็นกังวลใจอย่างมาก (รู้สึกไม่สบายใจแบบแปลก ๆ ในวันนั้น) ผมจึงได้ชวนเธอไปตรวจเลือดกัน ซึ่งเธอเอง ก็ยอมไปตรวจแต่โดยดี เพราะคิดว่าไม่มีอะไร โดยที่ผมเองไม่ได้ตรวจด้วย ….

ผมพาเธอไปตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ไปเจาะเลือดปรกติ เจาะ Anti-HIV และรอรับผล … วันนั้น ผมเองก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ความกังวลยังมีอยู่อย่างไม่ขาดหาย แต่ผมคิดว่าผมฟุ้งซ่านทำไมเนี่ย เพราะโดยนิสัยส่วนตัวนั้นผมเองก็เป็นคนที่ชอบคิดมากอยู่แล้ว

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกิน 1 ชม. แล้ว สังเกตว่าทำไมมันนานผิดปรกติ ผมจึงพาแฟนเข้าไปถามนางพยาบาล ปรากฏว่าคำตอบที่ได้รับ ทำให้ผมรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ ตอนนี้ ทางแล็ปเค้าต้องนำเลือดไปปั่นเพื่อที่จะตรวจยืนยันผล (เพราะตอนที่ผมเคยตรวจคือ ตรวจแล้วก็รอรับผลเลย ไม่เคยมีการยืนยัน) ซึ่งตอนนั้นผมก็เริ่มกังวลแต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะผมเองก็ไม่เคยตรวจที่นี่ และคิดว่าอาจเป็นเรื่องของระบบ

จนกระทั่งผลเลือดออกมาหลังจากรอผลเป็นระยะเวลา เกือบ 3 ชม. โดยที่แฟนผมเข้าไปนานผิดปรกติ จนเธอเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก และเธอก็ได้บอกผมว่า กลัวมั้ย ทำใจดี ๆ นะ ………….ผลเลือดออกมาเป็น บวก …

ณ วินาทีนั้น ผมรู้สึกช็อคเหมือนสายฟ้าฟาด ตัวชา และมึนไปหมด แต่ก็ฝืนพูดกับเธอไปว่า อย่ามาล้อเล่นน่า บ้าเหรอ จะติดมาจากไหน (ตอนที่พิมพ์อยู่นี้ผมยังจำความรู้สึกของวันนั้น และทุก ๆ ถ้อยคำที่เธอกล่าวมาได้) … แต่เธอก็บอกว่ามันเป็นเรื่องจริง ซึ่งดูจากสีหน้าแล้วจะรู้ได้เลยครับว่าไม่มีทางล้อเล่นแน่นอน

ซึ่งวินาทีนั้นผมเสียใจมาก ตอนแรก ๆ คิดด้วยว่า ผมเองเป็นคนที่อาจทำให้เธอติด หรือถึงจะไม่ใช่ก็ตาม แต่ผมก็เคยมีอะไรกับเธอโดยที่ไม่ป้องกัน จึงคิดว่าคงจะไม่รอดแน่นอน ผมจึงตัดสินใจขับรถออกจากรพ. ซึ่งตอนนั้นเรา 2 คนก็ได้นั่ง เงียบ ๆ อยู่ในรถ โดยที่ผมได้แต่ขอโทษเธอ จนกระทั่งผมลองมาคิดไตร่ตรอง ว่าผมเองก็ได้ตรวจเลือดครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้มา เป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะได้มาคบกัน และคิดว่ามันเป็นไปได้เหรอที่ว่าเราเป็นตัวต้นเหตุ

ณ วินาทีนั้น ผมจึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปรพ.เดิม เพราะยังไงความจริงก็คือความจริง ผมจึงขอเจาะเลือดด้วย ปรากฏว่าหลังจากรอผลเพียงแค่ 30 นาที หมอก็ได้เรียกตัวผมเข้าไปแล้วบอกว่า ผลเลือดผมเป็นปรกตินะ

ตอนแรกผมงงมาก ผมจึงถามหมอว่าเป็นไปได้ยังไง หรือว่าคุณหมอตรวจแฟนผมผิดพลาด และผมเองก็ได้เล่าความเสี่ยงให้หมอฟัง (แต่หมอผู้ที่ดูผลเลือดของผมและแฟน เป็นหมออายุรกรรมนะครับ ไม่ใช่หมอด้านโรคติดเชื้อ) คุณหมอก็ตอบว่า ทางแล็ปเค้าได้ตรวจยืนยันแล้ว ไม่น่าจะผิดพลาด

แล้วเค้าก็ได้อธิบายว่า การที่มีอะไรกับผู้ติดเชื้อนั้น โดยที่ไมได้ป้องกัน ถือว่าเป็นความเสี่ยง(สูง) ซึ่ง คุณอาจติดหรือไม่ติดก็ได้ ซึ่งตอนนั้นผมก็พูดไรไม่ออก เพราะว่าผมพึ่งมีอะไรกับเธอไปเมื่อวาน และสัมผัสประจำเดือนเธอเต็ม ๆ ….

หลังจากที่นั่งซักพัก ผมจึงนึกขึ้นมาได้ว่า โดยปรกติ จะมียาต้าน(ที่ผู้ติดเชื้อทานกัน) ซึ่งเค้าให้ทานภายใน 24 ชม. นับจากความเสี่ยงที่มี โดยส่วนใหญ่แพทย์จะจ่ายให้ผู้หญิงที่ถูกกระทำชำเรา หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ถูกเข็มทิ่มตำ (ในต่างประเทศเรียกว่า PEP) ผมจึงได้ถามคุณหมอว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะจ่ายยาให้ผมเพื่อที่จะทานป้องกัน

เพราะผมได้สัมผัสกับเลือดเธอเต็ม ๆ คุณหมอก็ได้บอกว่า ไม่มีประโยชน์เพราะผมเอง ไม่ได้ป้องกันกับเธอประมาณ 1-2 ครั้ง ในช่วง 3 เดือนก่อนที่ จะมาตรวจ … ผมจึงได้เถียงกับคุณหมอว่า ก่อนหน้านั้น ผมเองก็ไม่ได้ป้องกัน จึงอาจเป็นไปได้ว่า 1-2 ครั้งนั้น ที่ไม่ได้ป้องกันล่าสุด ถือว่าอาจจะไม่ติด แต่ครั้งล่าสุด ซึ่งผมได้สัมผัสกับเลือดเต็ม ๆ นั้น ถือว่ามีความเสี่ยงมาก

จึงอยากให้หมอจ่ายยาต้านให้ผม และคุณหมอจึงได้ตัดสินใจโทรปรึกษาหมอด้านโรคติดเชื้อ และได้ตกลงจ่ายยาต้านให้กับผม (อาจเป็นเพราะเป็น รพ.เอกชน … เพราะโดยปรกติ รพ.รัฐ จะไม่จ่ายยาต้านให้คนปรกตินะครับ)

ผมเองก็ได้ทานยาเป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง (จริง ๆ หมอเค้าให้ทานแค่ 28 วันน่ะครับ) ในช่วงเวลาที่จะรอผลเลือดในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า เป็นสิ่งที่ทรมานจิตใจผมอย่างที่สุด แทบไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้ จะใกล้ตัวเราขนาดนี้

เป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนชีวิตที่สุด ๆ จริง ๆ ในเรื่องของความประมาท เพราะผมเองก็ศึกษาในเรื่องพวกนี้มาพอสมควร และคิดว่าการที่เราอยู่ในสังคมเช่นนี้ คบผู้หญิงโดยดูเพียงแค่ภายนอก รูปร่างหน้าตา สถานะ เลยทำให้คิดว่าน่าจะเป็นคนที่สะอาดปลอดโรค เป็นสิ่งที่คิดผิดมหันต์ จนกระทั่ง ระยะเวลาผ่านไป เธอเองก็เริ่มทำใจได้ ในขณะที่ตัวผมเอง ก็เครียดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความฟุ้งซ่าน ทำงานแทบไม่ได้ (บางครั้งก็อาศัยเรื่องงานนี่แหละครับ ที่ทำให้มันลืม ๆ ไปบ้าง)

จนกระทั่ง หลังจากนั้น 6 และ 10 สัปดาห์ ผมก็ได้ไปตรวจแบบ Rapid test ที่คลินิกนิรนาม (ซึ่ง มันยังไม่ถึงเวลาแต่ผมก็ดันทุรังไปตรวจ เพราะฟุ้งซ่านมาก ๆ ) ผลออกมาเป็นลบ แต่ก็เท่ากับว่าเสียเงินฟรี เพราะมาเร็วไป และผมเองก็ได้ไปตรวจ PCR มาตอนระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันที่หยุดยาต้าน ตามที่เคยมีหมอแนะนำไว้ (ผมหาหมอด้านโรคติดเชื้อหลายคนมาก) ผลออกมาเป็นลบ ซึ่งก็ทำให้รู้สึกเบาใจได้อย่างมาก

เพราะว่าเป็นการตรวจหาเชื้อในกระแสเลือดโดยตรง แต่มีคุณหมอบางท่านก็บอกว่ายังเบาใจไม่ได้ เพราะว่าผมเป็นเคสที่ ทานยาต้านป้องกัน (โดยปรกติ แทบจะถือได้ว่า 100% แล้วนะครับ เพียงแต่ผมเป็นเคสที่ได้รับยาต้าน) ประกอบกับ PCR นั้น ไม่ใช่การตรวจซึ่งใช้ในการวินิจฉัย คุณหมอจึงได้นัดผมมาตรวจอีก นั้นก็คือ ตอน 3 เดือนนับจากหยุดยาต้าน (นี่คือโทษของการหา หมอหลายคน เวลาทับซ้อนกันครับ) เพราะหมอบางคน ก็บอกว่า 3 เดือน และ 6 เดือน นับจากเสี่ยง บางคนก็บอกว่า 3 เดือน 6 เดือน นับจากหยุดยา ….

สรุปก็คือ ผมทำตาม หมอทั้ง 2 ท่านที่แนะนำ และทำตามคำแนะนำของ CDC (กรมป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ของอเมริกา) คือ ตรวจ 3 เดือน 4 เดือนครึ่ง และ 6 เดือน โดย ผลที่ 4 เดือนครึ่งของผม ทั้ง PCR Antibody P24Antigen ผลออกมาเป็นลบหมด และผลเลือดที่ 6 เดือนครึ่ง คือ PCR และ Antibody นั้น ผลก็ออกมาเป็นลบ ก็ทำให้โล่งใจเป็นอย่างมาก อยากบอกว่าความรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เลยนะครับ (จริง ๆ นะ) มองท้องฟ้า มองหมา มองต้นไม้ มองผู้คน มองอะไรต่าง ๆ รู้สึกดีไปหมด รู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ว่าชีวิตนั้นมีค่าขนาดไหน

เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนใจเย็นลงมาก ๆ แล้วครับ จากที่เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อน อืม … ขออธิบายเรื่องตรวจเลือดนิดนึง เพื่อความเข้าใจอะครับ โดยปรกติที่เราไปตรวจ HIV นั้นหมอเค้าจะให้ตรวจแบบ หา Antibody นั่นคือ ภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นต่อเชื้อ HIV โดยมากรอ 3 เดือน ซึ่งหากผลเป็นลบ ก็หมายความว่าไม่เจอภูมิคุ้มกัน หรือว่าอาจมาตรวจเร็วไป ซึ่งภูมิยังไม่ได้สร้าง ….

ส่วนการตรวจ PCR นั้น เป็นการตรวจหาเชื้อในกระแสเลือดโดยตรง ตรวจได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป (หมอบอก) ตรวจได้ตามรพ.ใหญ่ ๆ ที่มี Lab PCR เท่านั้น ค่าตรวจค่อนข้างแพง ความไวสูง หากได้ผลบวกอาจช็อคได้ และไม่ได้นับเป็นการตรวจแบบวินิจฉัย (ถ้าผลออกมาเป็นลบ ก็ถือว่าแนวโน้มดี) ข้อดีคือรู้ผลเร็ว ไม่ต้องรอ 3 เดือน สำหรับคนที่เครียดมาก ๆ (แต่ยังไงหมอเค้าก็จะนัดมาตรวจยืนยันด้วย Antibody ที่ 3 เดือนอยู่ดีล่ะครับ) ข้อเสียอีกอย่างคือผลอาจคลาดเคลื่อนได้ หากมีการทานยาต้านป้องกัน เพราะยาต้านจะไปฆ่าเชื้อในกระแสเลือด แม้ผู้ติดเชื้อที่ทานยาต้าน ยังอาจสามารถตรวจออกมาผลเป็นลบได้

ส่วนแฟนของผมนั้น หลังจากที่รู้ผลเลือดผ่านไปอีกเดือน เธอก็เริ่มออกอาการโดยที่มีอาการเป็นไข้บ่อย และ พอผ่านไปซักพัก ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะป่วยด้วยโรคปอดอักเสบ (อาการแทรกซ้อนของคนที่ติดเชื้อ) เนื่องจาก CD4 ของเธอหรือระดับภูมิคุ้มกันเธอต่ำมาก ซึ่งตอนนั้นผมสงสารเธอมาก เพราะเธอต้องออกจากงาน และแถมยังป่วยหนัก และเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของเธอและผมก็ว่าได้

เพราะตอนนั้นผมเองก็เครียดมาก ไม่สามารถปรึกษาใครได้ ผมเองก็ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะคนในครอบครัว แค่คิดก็ทุกข์มากแล้ว นอกจากคนในเว็บของผู้ติดเชื้อ ซึ่งทุกวันนี้ ก็อยากขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจและที่ปรึกษาให้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน …. พอผ่านไปได้ประมาณ 2 เดือน แฟนผมก็อาการดีขึ้น เพราะโรคแทรกซ้อน ไม่หนักมาก ถือว่ายังโชคดี ประกอบกับเธอได้รับยาต้านแล้ว ซึ่งก็ทำให้เธอแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ทุกวันนี้ ก็กลับเป็นเหมือนปรกติ แต่ก็ยังมีอาการเศร้าหมอง เป็นบางครั้ง เพราะว่าเธอยังคงต้องกินยาจำนวนมาก (ยาวัณโรค เพื่อป้องกันวัณโรคแฝง + ยาต้าน) ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เธอท้อบ้าง แต่ตอนนี้ก็เริ่มไม่เป็นไรแล้ว เข้มแข็งขึ้นมากพอสมควร

ของผมเอง แต่ในช่วงเวลาที่มืดมิดของผมนี้ ผมได้เรียนรู้สิ่ง ๆ หนึ่งซึ่งอยากบอกให้ท่านผู้อ่าน ได้รับรู้เอาไว้ เพราะเท่าที่เคยอ่าน หนังสือธรรมมะ (จากที่ไม่เคยแตะมาก่อน) และได้คุยกับคนหลาย ๆ คน ก็คือ ว่าในช่วงระยะเวลาที่เรารู้สึกว่าชีวิตเรา กำลังจะถึงจุดจบ เราจะนึกถึงอดีต และเรื่องที่เราเคยทำมา เพราะมันทำให้เราเห็นภาพอย่างชัดเจนเลยว่า เรื่องราวบางอย่างที่เราหลงไปกับภาพมายาของมัน วัตถุ แสงสี เสียง ความทะเยอะทะยาน ทั้งหลายนั้น มันหายไปหมดในพริบตา

ผมแทบไม่เคยคิดถึงสิ่งเหล่านี้ สิ่งเดียวที่ผมนึกถึงในเวลาที่ รู้สึกแย่ที่สุด ท้อแท้ที่สุด เพราะตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่รอดแน่นอน และอาจอยู่ได้อีกไม่นาน (ตอนนั้นฟุ้งซ่านมาก ๆ เลยครับ ชนิดที่ใครไม่เจอกะตัวเองคงนึกภาพไม่ออก) สิ่งที่ผมนึกถึงนั้นก็คือ ครอบครัวของผม โดยเฉพาะคุณแม่ เป็นความรู้สึกผิดอย่างที่สุด รู้สึกเหมือนตัวเองอกตัญญูอย่างมาก ว่าบางครั้งเราเคยพูดจาไม่ดีกับท่าน ทำให้ท่านผิดหวังในบางเรื่อง ดื้อบ้างตามประสาวัยรุ่น และสิ่งที่นึกถึงรองลงไปก็คือเรื่องที่อยากทำในชีวิต และเรื่องที่เราเคยทำแล้วทำไม่ดี ทำไม่เต็มที่ ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

เพราะคิดว่าเรายังมีวันพรุ่งนี้ และมีเวลาอีกเหลือเฟือ (พึ่งค้นพบสัจธรรมเลยครับ ว่าความตายนั้นอยู่ใกล้ตัวมาก ๆ ไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าวันพรุ่งนี้จะมาถึงจริงหรือเปล่า) ประกอบกับ ได้เจอได้พูดคุยกับผู้ติดเชื้อบางท่าน ซึ่งถ้าเดินสวนกัน เราไม่มีทางได้รู้เลยครับ ว่าเค้าคนนั้นติดเชื้อ เพราะแฟนผมนั้น ทุกวันนี้ ยังอุตส่าห์มีคนมาจีบ โดยที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรนะครับ

แต่ก็มีคนนึง ซึ่งรู้ว่าเธอนั้นเป็นอะไร เพราะเป็นคนคนแรก ที่เธอบอกว่าเธอป่วยด้วยโรคนี้ และเธอก็บอกว่าเค้าเป็นคนดีไว้ใจได้ ไอผมเองก็สงสัยมานานแล้วว่า มันมีไรในกอไผ่ป่าววะ จนตอนหลังเธอก็บอกว่า คนคนนี้ มาชอบเธอนานแล้วแต่เธอคิดแค่เพื่อน และ ช คนนี้ยังเคยมาขอคบกับแฟนผม (ทุกวันนี้เราก็ยังคบกันอยู่นะครับ และเค้าก็รู้นะครับว่าเรายังคบกัน แต่เราไม่ได้มีอะไรกันแล้ว ไม่กล้าอะ) เลยทำให้รู้สึกว่า ในโลกนี้ยังอุตส่าห์มีคนดีขนาดนี้หนอ รู้ทั้งรู้ว่าแฟนผมเป็นอะไร ยังมาขอคบกันดื้อ ๆ ทำเอาผมยอมรับเลยครับ ว่าคนดีขนาดนี้ยังมีหลงเหลือ

จะว่าไป ตลอดหลายเดือนที่เข้าออกเว็บ เกี่ยวกับโรคเอดส์ทั้งไทยและเทศ เพื่อหาข้อมูลก็ได้พบว่า เรื่องพวกนี้มันอยู่ใกล้ตัวจริง ๆ และกลุ่มของผู้ติดเชื้อนั้น เริ่มเด็กลงเรื่อย ๆ และมีทุกชนชั้นสังคม และต่อไปนี้เป็นเรื่องราวต่าง ๆ (ของผู้ที่โชคดีนะครับ คือมีไรกับผู้ติดเชื้อแล้วตัวเองไม่ติด) คนแรกที่ผมได้รู้จักนั้น คือคุณนิกกี้ (อายุ 25 ปี) เค้าเคยมาตอบคำถามให้ผม ในเว็บ aidsaccess ซึ่ง เค้าเองก็เป็นคนที่มีแฟนเป็นผู้ติดเชื้อ ไม่ได้ป้องกัน กันเป็นเดือน จนกระทั่งแฟนเค้าไปตรวจสุขภาพแล้วตรวจเจอ

แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ผ่านพ้นไปได้ แต่ก็ต้องทรมานอยู่ 1 ปี เต็ม ๆ กับการรอลุ้นผลเลือด …. คนที่สองนั้น คือคุณ oh ซึ่งเป็นหนุ่มวัยกลางคน (อายุประมาณ 32-33 ปี) โดยคุณ oh นั้น ได้ซื้อบริการจากเด็ก Pirch และประมาทไม่ได้ใช้ ถุงยางอนามัยด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบได้ (อาจเพราะเห็นว่าเด็กมันเอาะ อะป่าวก็ไม่รู้) สุดท้ายหลังจากนั้น 2-3 วันแก เกิดไม่สบายใจ พาเด็กคนนั้นไปตรวจเลือด ปรากฏว่าเจอแจ็คพ็อตครับ นั่งเครียดไป อีก 3 เดือนเหมือนกัน แถมหมดค่าตรวจไปเป็นหมื่น เพราะแกเล่นตรวจ PCR ที่รพ.กรุงเทพไป 3 รอบ (รอบละไม่ต่ำกว่า 3000 บาท)

จะว่าไปผมเองก็เสียค่าตรวจเลือดเป็นหมื่นเหมือนกันมั้งครับ เพราะไหนจะ PCR 2-3 รอบ แล้วไหนจะตรวจ ไวรัสตับ A B C ไหนจะภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบ A และ B … ซิฟิลิส … มะเร็งไทรอยด์ .. มะเร็งอื่น ๆ ที่สามารถใช้เลือดตรวจได้ ระดับน้ำตาล ระดับไขมัน คุณภาพเม็ดเลือด ที่ตรวจนี่เพียงเพื่อเหตุผลเดียวนะครับ คือว่ากังวลร่างกายเราปรกติหรือเปล่า เพราะสภาพร่างกายมีผลต่อความเร็วในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะโดยปรกติ Antibody ต่อเชื้อ HIV สร้างเร็วสุดตั้งแต่ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป ตรวจพบได้ที่ 8 สัปดาห์

แต่ที่เค้าบอกกัน 3 เดือนนี่ คือเพื่อให้ครอบคลุมคนส่วนใหญ่อะครับ (ประมาณ 99%) และ 6 เดือน เพื่อที่จะชัวร์ 100% (บางข้อมูลบอกว่าต้อง 1 ปี ไม่รู้ข้อมูลเก่าอะป่าว) แต่เอาเป็นว่า CDC และหมอด้านโรคติดเชื้อที่ผมเคยปรึกษาบอกว่า 6 เดือน … มาต่อกันกับคนที่ 3 ที่ผมรู้จักนั่นก็คือ คุณเป็ด อายุตอนนี้ ประมาณ 22 ปี เรียนมหาลัยรัฐชื่อดังครับใกล้จะจบแล้ว ส่วนแฟนของเป็ดก็เรียน มหาลัยเอกชนชื่อดัง คนละที่กะผม เอาเป็นว่า เคสแกก็จะคล้าย ๆ กับผมครับ แต่แฟนแกเจ้าชู้ กิ๊กเยอะ และเป็ดเองก็ไม่เคยยุ่งกับแฟน แต่ก็ยอมทนในความเจ้าชู้ของแฟน

จนกระทั่งวันนึง ได้มีอะไรกันขึ้นมา โดยที่เป็ดนั้น ได้ป้องกันแล้ว แต่แฟนแกไม่ยอม และได้ถอดถุงยางทิ้งไป แล้วมีอะไรกัน เพราะเธอคิดว่าการใช้ถุงยางเป็นการดูถูกเธอ จนผ่านไปไม่กี่วัน เป็ดแกก็ไม่สบายใจ เพราะรู้ว่าแฟนนั้นกิ๊กเยอะ เลยพาไปตรวจ ซึ่งก็ได้ทะเลาะกันพอสมควรก่อนที่จะยอมไปตรวจ แต่ที่ฝ่าย ญ ไปตรวจก็คงเพราะว่ามั่นใจว่าตัวเองนั้นไม่ได้เป็นอะไร ปรากฎว่าแจ็คพ็อตครับ ฝ่าย ญ เลือดบวก … น้องเป็ดบอกว่าตอนนั้น เครียดแทบบ้าเลยครับ (ผมก็เข้าใจความรู้สึกเค้าอะครับ) แต่ตอนนี้ ก็ครบ 1 ปีแล้ว ผลเลือดของน้องเป็ดเค้าเป็นลบ (ถือว่าปลอดภัยแล้ว)

เพียงแต่ว่า หลังจากรู้ผลเลือดแกก็ไม่ได้ติดต่อกะแฟน แกอีกเลยครับ ซึ่งผมกะเค้าก็คิดกันว่า กลัวแฟนเป็ดเค้าจะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น เพราะว่ามีกรณีอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ มาจากผู้ที่ทำงานคลุกคลีกะผู้ติดเชื้อ และก็มีคนที่เจอมากะตัวจัง ๆ แต่ตอนนี้ผลเลือดยังเป็นลบอยู่ นั่นคือคุณ y เคสนี้ คือ แฟนฝ่าย ญ เค้ารู้อยู่แล้วนะครับ ว่าตัวเองมีเชื้อ แต่ไม่ยอมบอกฝ่าย ช แถมยังไม่ป้องกัน เพราะจงใจทำให้ติดไปด้วย แกบอกว่า แฟนแกบอกตรง ๆ เลยครับ หลังจากที่คบไปได้ 2-3 เดือน (ที่บอกอาจคิดว่า ฝ่าย ช คงไม่รอดแล้วมั้ง)

แต่ทุกวันนี้ คุณ y ยังรอผลเลือดอยู่ ซึ่ง เดือนหน้า ก็จะครบ 3 เดือน ก็ได้แต่หวังว่า เค้าจะโชคดีผ่านพ้นไปได้

นอกจากนี้ผมเองยังได้คุยกับผู้ติดเชื้ออีกหลายท่าน ผ่านทาง MSN ซึ่งก็ทำให้ได้รู้เรื่องราวว่า ส่วนใหญ่นั้น หลายท่านมาก ๆ ครับ ที่เป็นคนที่ไม่ได้มีพฤติกรรมเสี่ยงใด ๆ เลย แต่ก็โชคร้าย ติดมาจากสามี หรือ ภรรยา หรือ แฟนตอนสมัยเรียน ซึ่งแต่ละคนก็เข้าใจว่าไม่ได้มีเจตนา แต่ก็ประมาท เพราะไม่ได้ตรวจเลือดก่อนแต่งงาน จึงอยากบอกให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายรับทราบว่า เกินกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ได้เป็นคนสำส่อน หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแต่อย่างใน หากแต่ประมาทเพราะไว้ใจในคู่ของตัวเอง และความคิดที่ว่าเรื่องพวกนี้นั้นห่างไกลจากตัวเอง …

และอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งจากการที่ได้รับรู้ข้อมูลจากคนที่ได้ทำ งานด้านนี้ นั่นก็คือ เด็กสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่อายุยังน้อย และมีพฤติกรรมที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน โดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ป้องกัน ประกอบกับ เนื่องด้วยปัจจุบัน ทางการแพทย์มีตัวยามากมายที่ช่วยยืดอายุของผู้ติดเชื้ออยู่ได้จนแก่เฒ่า จึงทำให้มีเด็กที่เป็นผู้ติดเชื้อ (ติดเชื้อมาตั้งแต่ตอนคลอด จากแม่ที่มีเชื้อ) ซึ่งเด็กเหล่านี้บางคนเป็นเด็กมีปัญหา เพราะว่าถูกกดดันจากสังคม ถูกคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจเค้ารังเกียจ ไหนบางคนพ่อแม่ก็เสียชีวิตไปก่อนด้วยโรคแทรกซ้อน

และพอแกโตเป็นวัยรุ่นก็กลายเป็นเด็กวัยรุ่นใจแตก ต้องการความรักความอบอุ่น บางครั้งจึงง่ายต่อการที่จะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากมีเด็กคนไหนไปยุ่งด้วย แล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมา ก็มีแนวโน้มว่าจะติดกันไปเป็นทอด ๆ เพราะเด็กเหล่านี้ เปลี่ยนคู่กันบ่อย และที่ร้ายแรงที่สุด คือเด็กมีโอกาสได้รับเชื้อที่ดื้อยา นั้นหมายถึงเชื้อที่มีความรุนแรงกว่าปรกติ

… ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า สถิติของผู้ติดเชื้อหลัง ๆ จะพบว่าเป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ จึงอยากให้ทุกท่านได้โปรดมีความเข้าใจ และอย่ารังเกียจผู้ติดเชื้อ เพราะ HIV นั้นไม่ได้ติดต่อกันง่าย ๆ ทางอากาศ หรือ ทางสัมผัสง่าย ๆ ทั่วไป (โดยไม่มีน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำคัดหลั่ง เข้ามาเกี่ยวข้อง) ผู้ติดเชื้อต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายกลัวคนปรกติ เพราะว่าภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อนั้นน้อยกว่าเป็นทุนเดิม จึงทำให้เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนมากกว่าคนธรรมดาหลายเท่านัก

สำหรับจุดประสงค์ที่ผมมาเขียนบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกท่านได้อ่าน ก็คือ อยากให้บทเรียนและประสบการณ์ของผมนั้น เป็นประโยชน์กับตัวของทุก ๆ คน โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ยังอยู่ในวัยเรียน และผู้ที่มีความคิดอย่างผม ที่ว่าไม่น่าจะอยู่ใกล้เรื่องพวกนี้ อยากบอกว่าเป็นความคิดที่ผิด ๆ นะครับ เพราะผมเองก็ถือว่าที่บ้านมีฐานะ อยู่ในสังคมเดียวกับ พวกคุณนั้นแหละครับ เที่ยวก็เที่ยวตามที่วัยรุ่นทั่วไปเค้าไปกัน

เพราะว่า เรื่องอย่างนี้ หากคุณได้ไปคุยกับคุณหมอด้านโรคติดเชื้อ หรือคนที่ทำงานด้านนี้ จะรู้ว่ามันไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิด และมีทุกระดับชนชั้น ตั้งแต่กรรมกร ยันระดับ ผู้บริหาร เพียงแต่เรื่องเช่นนี้ มันยังไม่เป็นที่ยอมรับกันในสังคม คนจึงไม่ค่อยเปิดเผย ยิ่งคนที่มีฐานะและมีหน้ามีตายิ่งไม่เปิดเผย แถมผู้ติดเชื้อบางคน (ส่วนน้อยมาก ๆ นะครับ) ยังมีเจตนาที่จะแพร่เชื้อ และบางคนก็ยังคงไม่สะทกสะท้าน ใช้ชีวิตอย่างเสี่ยง ๆ ต่อไป ทั้ง ญ ..ทั้ง ช และ เกย์ จึงอยากให้ทุกท่านอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท เพราะเหตุการณ์แบบนี้ หากพลาดไปแล้วไม่มีโอกาสได้แก้ตัวนะครับ และผมเองก็อยากขอบคุณ ทุก ๆ ท่านที่เคยให้คำปรึกษาและเป็นกำลังใจให้ผม ในยามที่ผมเครียด ท้อแท้ และสิ้นหวัง

กระผม Tatee อยากจะขอขอบคุณ คุณหมอT
ที่มา http://www.mthai.com/webboard/7/136633.html

โรคเอดส์ - AIDS
โรคเอดส์ – AIDS

ตื่นเอดส์สายพันธุ์ใหม่ ติดเชื้อง่าย แต่ป้องกันได้
มรสุมเก่ายังไม่ทันสงบ…มรสุมลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามาใส่อีกกกกกกก!!!

เรื่องราวของการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังไม่ทันจางหายไป ซ้ำยังกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ล่าสุด!!! กลับพบเชื้อสายพันธุ์ใหม่อีกแล้ว…หลังหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ต่างลงข่าว “พบหญิงไทยติดเชื้อเอดส์ลูกผสม 2 สายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกของโลก” ข่าวคราวแพร่ออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานว่ามีการแพร่ระบาดแพร่หลายก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่า “เอดส์” ก็ถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวและอันตรายแล้ว…!!!

เชื้อ HIV หรือ ที่เราเรียกว่า เอดส์ นั้น ในประเทศไทยเรา พบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2527 เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน!! พบผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ถึงวันละ 32 คน และในปี 52 นี้ คาดว่าจะมีมากถึง 9.4 หมื่นราย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง…

ซึ่ง ศ.ดร.พญ.รวงผึ้ง สุทเธนทร์ หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาเชื้อเอดส์หรือ HIV ที่ระบาดในประเทศไทย มีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เอ-อี (A/E) และสายพันธุ์บี (B) โดยสายพันธุ์เอ-อีจะพบสูงถึงร้อยละ 90 ขึ้นไป ที่เหลือเป็นสายพันธุ์บี

และ ในทุกปีจะมีโครงการวิจัยเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์เอชไอวี โดยนำเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นคนไทยมาถอดรหัสตรวจหาสายพันธุ์เอดส์ หลังจากที่ทำการวิจัยตามปกติ ก็พบความผิดปกติจากตัวอย่างเลือด 2 ราย จากกลุ่มตัวอย่างที่ส่งมาทั้งหมด 44 ราย เนื่องจากถอดรหัสออกมาแล้วพบว่าเป็นสายพันธุ์เอชไอวีที่ต่างออกไปจากเดิม และอาจเป็นสายพันธุ์เอดส์ลูกผสมที่ไม่เคยเจอมาก่อนในโลกนี้ก็ได้

โดยรายแรกเป็นเชื้อเอชไอวีที่ผสมระหว่าง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เอ จี และดี เรียกว่า เอจี-ดี (AG/D) กับรายที่สองเป็นเชื้อเอชไอวีผสม 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เอ อี และจี เรียกว่า เออี-จี (AE/G)

เชื้อสายพันธุ์ใหม่จีกับดี ส่วนใหญ่จะพบในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะประเทศไนจีเรีย ตอนนี้สแกนยีนออกมาแล้ว 500 เบส จากทั้งหมด 1,700 เบส เมื่อศึกษาระดับโมเลกุลครบทั้งหมดแล้ว จึงจะทราบรายละเอียดว่า เป็นเชื้อที่แพร่มาจากพื้นที่ใดของโลก ตอนนี้ตั้งสมมติฐานว่าหญิงทั้ง 2 คนได้รับเชื้อมาจากชาวแอฟริกัน ไม่มีใครรู้เลยว่าสายพันธุ์จีกับดีเข้าไทยมานานหรือยัง!!!!

แต่เรื่องที่น่ากลัวนั้น คือ เชื้อเอดส์ลูกผสมจะมีจำนวนเชื้อในสารคัดหลังที่มีความเข้มข้นมากกว่าสาย พันธุ์ไทย เช่น ในน้ำอสุจิของผู้ติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ไทย 1 ซีซี จะมีจำนวนเชื้อไวรัสเอดส์ 10 ตัว ขณะที่น้ำอสุจิของผู้ติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ผสมอาจจะมีเชื้อไวรัสเอดส์ 20 ตัว เป็นต้น ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงการสมมติให้เห็นภาพเท่านั้น
ขณะ นี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าปริมาณเชื้อไวรัสจะเข้มข้นต่างกันกี่เท่า ต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดต่อไป เมื่อมีเชื้อไวรัสเข้มข้นจำนวนมาก ก็ยิ่งจะทำให้การแพร่ระบาดเชื้อนั้นเป็นไปได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น

เรื่องทุกอย่างต้องมีทางแก้ไข…!!!
นับ ว่ายังมีข่าวดีในภาวะเช่นนี้ เมื่อผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ยาต้านไวรัสที่ผู้ป่วยเอดส์รับประทานในปัจจุบันนั้น สามารถใช้ได้ผลกับเชื้อเอดส์ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ แต่อาจมีความเสี่ยงจากภาวะดื้อยาได้ง่าย รวมถึงความเจ็บป่วยจากโรคฉวยโอกาส อาจรุนแรงขึ้น นอกจากนี้เชื้อเอดส์ลูกผสม 3 สายพันธุ์มีความเข้มข้นในน้ำเมือกหรือสารคัดหลั่งมาก อาจนำไปในสู่การระบาดของเชื้อเอดส์ระลอกใหม่ได้

ดัง นั้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งศึกษาความเป็นมา และผลกระทบของเชื้อเอดส์ลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในไทย รวมถึงแนวทางป้องกันรักษาและการแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน…

ใน ด้านของอาการและความรุนแรงของเอดส์สายพันธุ์ใหม่นี้ ในทางการแพทย์ก็ไม่แตกต่างจากเอดส์ที่พบปกติในประเทศไทย เพียงแต่สามารถติดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ยิ่งผู้ที่ติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว เกิดติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ซ้ำกัน จำนวนเชื้อไวรัสยิ่งเพิ่มมากขึ้น อาการของโรคแย่ลง การดื้อยาก็มีโอกาสสูง

แต่ทางที่ดีที่สุด!!! หาก ไม่อยากจบชีวิตลงเพราะเชื้อร้ายแล้วละก็ ก่อนที่เราจะรู้จักวิธีป้องกัน เราต้องรู้การติดต่อของเอดส์เสียก่อน ว่ามันติดต่อได้ทางใดบ้าง ซึ่งจากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยาประมาณร้อยละ 84 ของผู้ป่วยเอดส์ ได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ ว่าชายกับชาย ชายกับหญิง หรือหญิงกับหญิง ทั้งช่องทางธรรมชาติ หรือไม่ธรรมชาติ ก็ล้วนมีโอกาสติดโรคนี้ได้ทั้งสิ้น

และปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น ได้แก่ การมีแผลเปิด
นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อได้จากทางเลือด การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ มักพบในกลุ่มผู้ฉีดยาเสพติด รวมถึงการรับเลือดในขณะผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางชนิดก็สามารถติดได้ แต่ในปัจจุบันมีการดูแลคัดเลือกเลือดที่ได้รับบริจาคทุกขวด ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อเอดส์เสียก่อน และสุดท้ายเอดส์สามารถติดจากแม่สู่ลูกได้ ผู้หญิงที่ติดเชื้อเอดส์ หากตั้งครรภ์และไม่ได้รับการดูแลอย่างดี เชื้อ HIV จะแพร่ไปยังลูกได้ ในอัตราร้อยละ 30

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทางป้องกันที่ดีที่สุดคงจะเป็นการ สวมถุงยางอนามัย และการดูแลเอาใจใส่สุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะร่างกายแข็งแรงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคต่างๆ ได้ แค่นี้ไม่ว่าจะเชื้อสายพันธุ์เก่าหรือสายพันธุ์ใหม่ ก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้….
เรื่องโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th

🙂 🙂  🙂

43 thoughts on “AIDS”

  1. เอดส์ รู้ได้อย่างไรว่า ติดแล้ว
    เนื่องจากโรคนี้แสดงอาการช้า แต่สามารถทราบได้ โดยการตรวจเลือด หากต้องการผลที่แม่นยำ ควรตรวจภายหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง 6 สัปดาห์ขึ้นไป เอดส์ รักษาได้หรือไม่

    ขณะนี้ยังไม่มียารักษาโรคเอดส์ให้หายได้ ยาที่ใช้ปัจจุบันจะช่วยยับยั้ง ไม่ให้ไวรัสเอดส์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ในร่างกายผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยเอดส์จะมีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำงานได้ตามปกติ เอดส์ ใครบ้างที่ควรตรวจหาเชื้อเอดส์

    – ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง และต้องการรู้ว่าตนเองติดเชื้อเอดส์หรือไม่
    – ผู้ที่ตัดสินใจจะมีคู่ หรืออยู่กินฉันท์สามีภรรยา
    – ผู้ที่สงสัยว่า คู่นอนของตนจะมีพฤติกรรมเสี่ยง
    – ผู้ที่คิดจะมีบุตร ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของแม่และลูก
    – ผู้ที่ต้องการข้อมูลสนับสนุนเรื่องความปลอดภัย และสุขภาพของร่างกาย เช่น ผู้ที่ต้องไปทำงานในต่างประเทศ (บางประเทศ) เอดส์ เราอยู่ร่วมกันได้

    คนที่ติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถอยู่ร่วมกับสังคม และครอบครัวได้ และทำงานได้เหมือนกับคนทั่วไป เพราะเชื้อเอช ไอ วี ไม่ได้ติดต่อกันโดย การสัมผัส การกอดจูบ การรับประทานอาหาร การขับถ่าย การใช้ของร่วมกัน การอยู่ใกล้กัน การสนทนากัน หรือถูกยุงกัด ดังนั้น จึงไม่ต้องแยกวงรับประทานอาหาร ไม่ต้องแยกห้องนอน ห้องน้ำ อุปกรณ์ของใช้ต่างๆ หรือห้องทำงาน บริการปรึกษา ปัญหาสุขภาพ

    – กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โทร. 0-2286-0431, 0-2286-4483
    – โรงพยาบาลบำราศนราดูร โทร. 0-2590-3737, 0-2590-3510
    – กองควบคุมโรคเอดส์ กทม. โทร. 0-2860-8751-6 ต่อ 407-8
    – มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ โทร. 0-2277-7699, 0-2277-8811 (โทรฟรี)
    – มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ โทร. 0-2372-2222
    – สถานบริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง AIDS (wikipedia.org)

    โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome – AIDS) เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเพราะร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคลดน้อยลง จึงทำให้ติดเชื้อโรคฉวยโอกาสแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรคในปอด หรือต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตมักเกิดขึ้นจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เหล่านี้ ทำให้อาการจะรุนแรง และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

    ปัจจุบันโรคเอดส์มีการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็นโรคที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ ในปี พ.ศ. 2548 ประมาณการว่ามีผู้ติดโรคเอดส์ประมาณ 3.1 ล้านคน(ระหว่าง 2.8 – 3.6 ล้าน) ซึ่ง 570,000 คนของผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นเด็ก (UNAIDS, 2005)

    ++ เลิฟแคร์ กล้ารัก กล้าเช็ค (Love Care Station) ++
    http://www.lovecarestation.com/th/

  2. 1. แนะนำเว็บไซต์ (Website Guides) http://www.aidsthai.org กลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    2. http://www.aids.org (English Reports)
    3. http://www.thailabonline.com/hiv1.htm
    4. http://www.aidsthaidata.org/home.php
    5. http://pha.narak.com
    6. http://school.obec.go.th/wattiandad/text/aids.htm
    7. http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious/HIV/INDEX.htm
    ที่มา http://www.thaiall.com/aids/

    AIDS เอดส์
    http://www.youtube.com/watch?v=l497B-ErAqI

    โรคเอดส์ ความรู้เรื่องโรคเอดส์
    http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious/HIV/INDEX.htm

    สมุนไพรรักษาเอดส์
    http://www.boonmeeherb.com/

    Aidsthai.org
    http://www.aidsthai.org/

    ปรึกษาปัญหาเอดส์
    http://www.aidsaccess.com/09/

    เอดส์ : ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย
    http://www.trcarc.org/

    โรคเอดส์ – คลังปัญญาไทย
    http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%8C

    โรคเอดส์
    http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no49/rokraids.html

    เครือข่ายผู้ติดเชื้อthaiplus.net
    http://www.thaiplus.net/

    Thailand Medical Clinic Online,โรคเอดส์(AIDS)
    http://www.thaiclinic.com/hiv.html

  3. เอดส์ ติดต่อกันได้อย่างไร
    1. การร่วมเพศ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ไม่ว่าชายกับชาย ชายกับหญิง หรือหญิงกับหญิง ทั้งช่องทางธรรมชาติ หรือไม่ธรรมชาติ ก็ล้วนมีโอกาสติดโรคนี้ได้ทั้งสิ้น และปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น ได้แก่ การมีแผลเปิด และจากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ประมาณร้อยละ 84 ของผู้ป่วยเอดส์ ได้รับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์

    2. การรับเชื้อทางเลือด
    – ใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ มักพบในกลุ่มผู้ฉีดยาเสพติด และหากคนกลุ่มนี้ติดเชื้อ ก็สามารถถ่ายทอดเชื้อเอดส์ ทางเพศสัมพันธ์ได้อีกทางหนึ่ง
    – รับเลือดในขณะผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางชนิด ในปัจจุบันเลือดที่ได้รับบริจาคทุกขวด ต้องผ่านการตรวจหาการติดเชื้อเอดส์ และจะปลอดภัยเกือบ 100%

    3. ทารก ติดเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก ผู้หญิงที่ติดเชื้อเอดส์ หากตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการดูแลอย่างดี เชื้อเอช ไอ วี จะแพร่ไปยังลูกได้ ในอัตราร้อยละ 30 จากกรณีเกิดจากแม่ติดเชื้อ จึงมีโอกาสที่จะรับเชื้อเอช ไอ วี จากแม่ได้
    เอดส์ มีอาการอย่างไร

    คนที่สัมผัสกับโรคเอดส์หรือคนที่ได้รับเชื้อเอดส์เข้าไปในร่างกายม่จ ำเป็นต้องมีการติดเชื้อเอดส์เสมอไปขึ้นกับจำนวนครั้งที่สัมผัสจำนวนและความ ดุร้ายของไวรัสเอดส์ที่เข้าสู่ร่างกายและภาวะภูมิต้านทานของร่างกายถ้ามีการ ติดเชื้ออาการที่เกิดขึ้นมีได้หลายรูปแบบหรือหลายระยะตามการดำเนินของโรค

    ระยะที่ 1 : ระยะที่ไม่มีอาการอะไร
    ภายใน2-3 อาทิตย์แรกหลังจากได้รับเชื้อเอดส์เข้าไป ราวร้อยละ 10 ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด คือมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นตามตัว แขน ขาชาหรืออ่อนแรง เป็นอยู่ราว 10-14 วันก็จะหายไปเอง ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจไม่สังเกต นึกว่าคงเป็นไข้หวัดธรรมดาราว 6-8 สัปดาห์ภายหลังติดเชื้อ ถ้าตรวจเลือดจะเริ่มพบว่ามีเลือดเอดส์บวกได้ และส่วนใหญ่จะตรวจพบว่ามีเลือดเอดส์บวกภายหลัง 3 เดือนไปแล้ว โดยที่ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการอะไรเลยเพียงแต่ถ้าไปตรวจก็จะพบว่ามีภูมิคุ้น เคยต่อไวรัสเอดส์อยู่ในเลือดหรือที่เรียกว่าเลือดเอดส์บวกซึ่งแสดงว่ามีการ ติดเชื้อเอดส์เข้าไปแล้วร่างกายจึงตอบสนองโดยการสร้างโปรตีนบางอย่างขึ้นมา ทำปฏิกิริยากับไวรัสเอดส์เรียกว่าแอนติบอดีย์(antibody)เป็นเครื่องแสดงว่า เคยมีเชื้อเอดส์เข้าสู่ร่างกายมาแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะเอาชนะไวรัสเอดส์ได้คน ที่มีเลือดเอดส์บวกจะมีไวรัสเอดส์อยู่ในตัวและสามารถแพร่โรคให้กับคนอื่นได้ น้อยกว่าร้อยละ 5 ของคนที่ติดเชื้ออาจต้องรอถึง 6 เดือนกว่าจะมีเลือดเอดส์บวกได ดังนั้นคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมา เช่น แอบไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ตรวจตอน 3 เดือน แล้วไม่พบก็ต้องไปตรวจซ้ำอีกตอน6เดือนโดยในระหว่างนั้นก็ต้องใส่ถุง ยางอนามัยทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาและห้ามบริจาคโลหิตให้ใครใน ระหว่างนั้นผู้ติดเชื้อบางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองตามตัวโตได้โดยโตอยู่เป็น ระยะเวลานานๆ คือเป็นเดือนๆ ขึ้นไป ซึ่งบางรายอาจคลำพบเอง หรือไปหาแพทย์แล้วแพทย์คลำพบ ต่อมน้ำเหลืองที่โตนี้มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ แข็งๆ ขนาด1-2 เซนติเมตร อยู่ใต้ผิวหนังบริเวณด้านข้างคอทั้ง 2 ข้าง(รูปที่ 2) ข้างละหลายเม็ดในแนวเดียวกัน คลำดูแล้วคลายลูกประคำที่คอไม่เจ็บ ไม่แดง นอกจากที่คอต่อมน้ำเหลืองที่โตยังอาจพบได้ที่รักแร้และขาหนีบทั้ง 2 ข้าง แต่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบมีความสำคัญน้อยกว่าที่อื่นเพราะพบได้บ่อยในคน ปกติทั่วไป ต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้จะเป็นที่พักพิงในช่วงแรกของไวรัสเอดส์ โดยไวรัสเอดส์จะแบ่งตัวอย่างมากในต่อมน้ำเหลืองที่โตเหล่านี้

    ระยะที่ 2 : ระยะที่เริ่มมีอาการหรือระยะที่มีอาการสัมพันธ์กับเอดส์
    เป็นระยะที่คนไข้เริ่มมีอาการ แต่อาการนั้นยังไม่มากถึงกับจะเรียกว่าเป็นโรคเอดส์เต็มขั้น อาการในช่วงนี้อาจเป็นไข้เรื้อรัง น้ำ หนักลด หรือท้องเสียงเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้อาจมีเชื้อราในช่องปาก(รูปที่ 3), งูสวัด(รูปที่ 4), เริมในช่องปาก หรืออวัยวะ เพศ ผื่นคันตามแขนขา และลำตัวคล้ายคนแพ้น้ำลายยุง(รูปที่ 5) จะเห็นได้ว่า อาการที่เรียกว่าสัมพันธ์กับเอดส์นั้น ไม่จำเพาะสำหรับโรคเอดส์เสมอไป คนที่เป็นโรคอื่นๆ ก็อาจมีไข้ น้ำหนักลด ท้องเสีย เชื้อราในช่องปาก งูสวัด หรือเริมได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าถ้ามีอาการเหล่านี้จะต้องเหมาว่าติดเชื้อเอดส์ไปทุกร้าย ถ้าสงสัยควรปรึกษา แพทย์และตรวจเลือดเอดส์พิสูจน์

    ระยะที่ 3 : ระยะโรคเอดส์เต็มขั้น หรือที่ภาษาทางการเรียกว่าโรคเอดส์
    เป็นระยะที่ภูมิต้านทานของร่ายกายเสียไปมากแล้วผู้ป่วยจะมีอาการของการติด เชื้อจำพวกเชื้อฉกฉวยโอกาสบ่อยๆและเป็นมะเร็งบางชนิดเช่นแคโปซี่ซาร์โคมา (Kaposi’ssarcoma)และมะเร็งปากมดลูก การติดเชื้อฉกฉวยโอกาสหมายถึงการติดเชื้อที่ปกติมีความรุนแรงต่ำไม่ก่อโรคใน คนปกติแต่ถ้าคนนั้นมีภูมิต้านทานต่ำลงเช่นจากการเป็นมะเร็งหรือจากการได้รับ ยาละทำให้เกิดวัณโรคที่ปอดต่อมน้ำเหลืองตับหรือสมองได้ รองลงมาคือเชื้อพยาธิที่ชื่อว่านิวโมซิส-ตีส-คารินิไอ ซึ่งทำให้เกิดปอดบวมขึ้นได้(ไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ) ต่อมาเป็นเชื้อราที่ชื่อ คริปโตคอคคัสซึ่งทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ซึมและอาเจียน นอกจากนี้ยังมีเชื้อฉกฉวยโอกาสอีกหลายชนิด เช่นเชื้อพยาธิที่ทำให้ท้องเสียเรื้อรัง และเชื้อซัยโตเมก กะโลไวรัส (CMV) ที่จอตาทำให้ตาบอด หรือที่ลำไส้ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย และถ่ายเป็นเลือดเป็นต้นในภาคเหนือตอนบน มีเชื้อราพิเศษ ชนิดหนึ่งชื่อ เพนนิซิเลียว มาร์เนฟฟิโอ ชอบทำให้ติดเชื้อที่ผิวหนัง(รูปที่ 6) ต่อมน้ำเหลืองและมีการติดเชื้อในกระแสโลหิตแคโปซี่ ซาร์โค มา เป็นมะเร็งของผนังเส้นเลือด ส่วนใหญ่จะพบตามเส้นเลือดที่ผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีม่วงๆ แดงๆ บนผิวหนัง คล้ายจุดห้อเลือด หรือไฝ ไม่เจ็บไม่คันค่อยๆ ลามใหญ่ขึ้น ส่วนจะมีหลายตุ่ม(รูปที่ 7) บางครั้งอาจแตกเป็นแผล เลือดออกได้ บางครั้งแคโปซี่ซาร์โคมา อาจเกิดในช่องปากในเยื่อบุทางเดินอาหาร ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกมากๆ ได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้นผู้หญิงที่ติดเชื้อเอดส์จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก 6 เดือน นอกจากนี้คนไข้โรคเอดส์เต็มขั้นอาจมีอาการทางจิตทางประสาทได้ด้วยโดยที่อาจ มีอาการหลงลืมก่อนวัย เนื่องจากสมองฝ่อเหี่ยว หรือมีอาการของโรคจิต หรืออาการชักกระตุก ไม่รู้สึกตัว แขนขาชาหรือไม่มีแรง บางรายอาจมีอาการปวดร้าวคล้ายไฟช๊อตหรือปวดแสบปวดร้อน หรืออาจเป็นอัมพาตครึ่งท่อน ปัสสาวะ อุจจาระไม่ออก เป็นต้น ในแต่ละปีหลังติดเชื้อเอดส์ร้อยละ 5-6 ของผู้ที่ติดเชื้อจะก้าวเข้าสู่ระยะเอดส์เต็มขั้นส่วนใหญ่ของคนที่เป็นโรค เอดส์เต็มขั้นแล้ว จะเสียชีวิตภายใน2-4 ปี จากโรคติดเชื้อฉกฉวยโอกาสที่เป็นมาก รักษาไม่ไห หรือโรคติดเชื้อที่ยังไม่มียาที่จะรักษาอย่างได้ผล หรือเสียชีวิตจากมะเร็งที่เป็นมากๆ หรือค่อยๆ ซูบซีดหมดแรงไปในที่สุด พบว่ายาต้านไวรัสเอดส์ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ในประเทศตะวันตกสามารถยืดชีวิต คนไข้ออกไปได้10 – 20 ปีและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น หรืออาจอยู่จนแก่ตายได้

    อาการของเอดส์ มี 2 ระยะ
    1. ระยะไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อจะมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะนี้ และบางคนไม่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อ จึงอาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

    2. ระยะมีอาการ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะเริ่มแสดงอาการ ภายหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 7-8 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
    – ระยะเริ่มปรากฎอาการ อาการที่พบคือ มีเชื้อราในปาก ต่อมน้ำเหลืองโต งูสวัด มีไข้ ท้องเสีย น้ำหนักลด มีตุ่มคันบริเวณผิวหนัง
    – ระยะโรคเอดส์ เป็นระยะที่มีภูมิต้านทานลดลงมาก ทำให้ติดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น

    ป้องกันตัวเอง ไม่ให้ติดเชื้อเอดส์ ได้อย่างไร
    รักเดียว ใจเดียว หากจะมีเพศสัมพันธ์กับหญิง ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์
    ขอรับบริการปรึกษา เรื่อง โรคเอดส์ ก่อนแต่งงาน และก่อนที่จะมีบุตรทุกท้อง
    ไม่ดื่มเหล้า และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด
    วิธีใช้ถุงยางอนามัย (http://www.anamai.moph.go.th/healthteen/parents/care32.html)

    – หลังจากตรวจสอบว่า ถุงยางอนามัยไม่หมดอายุ ซองไม่มีรอยฉีกขาด ฉีกมุมซองโดยระมัดระวัง ไม่ให้เล็บมือเกี่ยวถุงยางอนามัยขาด
    – ใช้ถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว บีบปลายถุงยาง เพื่อไล่อากาศ
    – รูดถุงยางอนามัย โดยให้ม้วนขอบอยู่ด้านนอก
    – สวมถุงยางอนามัย แล้วรูดให้ขอบถุงยางอนามัย ถึงโคนอวัยวะเพศ
    – หลังเสร็จกิจ ควรรีบถอดถุงยางอนามัย ในขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัว โดยใช้กระดาษชำระหุ้มถุงยางอนามัยก่อนที่จะถอด หากไม่มีกระดาษชำระต้องระวัง ไม่ให้มือสัมผัสกับด้านนอกของถุงยาง ควรสันนิษฐานว่า ด้านนอกของถุงยาง อาจจะปนเปื้อนเชื้อเอดส์แล้ว
    – ทิ้งถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว ลงในภาชนะรองรับ เช่น ถังขยะ

    คู่มือเที่ยวผู้หญิงครั้งแรก
    เซ็กส์ ปลอดภัย เที่ยวผู้หญิงครั้งแรกควรระวัง คู่มือเที่ยวผู้หญิงครั้งแรก อันตรายภัยจากการเที่ยวผู้หญิง โรคทางเพศสัมพันธ์ ผู้ชายเที่ยวผู้หญิงครั้งแรกควรรู้ บทความนี้ ไม่ได้ต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้คนเที่ยวผู้หญิง แต่ต้องการให้ระมัดระวังตัว สำหรับคนที่คิดจะเที่ยวผู้หญิงเป็นครั้งแรก ต้องการให้คนไทยปลอดภัยห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ
    http://www.love.matethai.com/sex_and_love/sexual_tranmitted_disease/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87/

  4. xxx ไม่อาย มั่วเซ็กส์ บ้าดารา xxx สุดเอือม บันเทิงไทย มั่วยา มั่วเซ็กส์ เมินโรค xxx เอดส์ลูกผสม ระบาดหนักในกลุ่มมั่วเซ็กส์ xxx บุกจับพระ-เณร-สีกา มั่วเซ็กส์-อัพยา คากุฎิ xxx ดญ.ม.3 หนุ่ม ปวช. เปิดรร.มั่วเซ็กซ์ นอนกอดก่าย -2 คู่ xxx นักศึกษาหญิงสุด อือฉาวหิ้วผู้ชาย มั่วเซ็ก xxx มั่วเซ็กส์ในวัยรุ่น xxx มั่วเซ็กส์..จึงทำให้เสียอนาคต xxx ทั้งหมดนี้อ่านได้ที่นี่ …
    http://www.love.matethai.com/xxx/xxx%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2/

  5. นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนา เจลป้องกันเชื้อเอดส์ สำหรับใช้กับผู้หญิง มีชื่อว่า Tenofovir
    สำนักข่าวต่างประเทศรายการถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาของนักวิทยาศาสตร์อีก ครั้ง เมื่อสามารถพัฒนากระบวนการในการป้องกันเชื้อ เอช ไอ วี (HIV) หรือ โรคเอดส์ (AIDS) ได้ด้วยวิธีการทาเจล

    โดย เจลป้องกันเชื้อเอดส์ดังกล่าวนี้ มีชื่อว่า Tenofovir ซึ่งเป็นเจลที่ถูกพัฒนามาเพื่อใช้กับผู้หญิง โดยการ ทาลงไปบนอวัยวะเพศหญิง เพื่อลดอัตราเสี่ยงในการติดเชื้อ เอช ไอ วี

    ซึ่งในการพัฒนาครั้งนี้ มีการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 889 คน อายุระหว่าง 18-40 ปี ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย และมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ โดยการทดลองนี้จะให้กลุ่มตัวอย่างใช้เจลป้องกัน 12 ชั่วโมง ก่อนมีเพศสัมพันธ์ และให้ใช้อีกครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ภายใน 12 ชั่วโมง โดยติดตามผลในอีกหลายเดือนต่อมา

    และจากผลการทดลองปรากฎว่า เจลทาป้องกันเชื้อเอดส์ สามารถทำให้มีปริมาณการติดเชื้อเอดส์น้อยลงจริง ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่ใช้เจลทุกวัน โดยสามารถช่วยป้องกันและลดอัตราเสี่ยงได้ ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ยังยืนยันที่จะพัฒนาประสิทธิภาพของมันต่อไปให้มาที่ สุดเท่าที่จะทำได้

    ด้านผู้อำนวยการหน่วยงาน ยู เอ็น เอดส์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการป้องกันเชื้อเอดส์ในผู้หญิงตั้งแต่แรกเริ่ม

    นอกจากนี้ นางมากาเก็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ก็ได้กล่าวแสดงความยินดีว่า ทางองค์กรอนามัยโลกดีใจและพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อขยายการเข้าถึงเจลดังกล่าวให้มากขึ้น หากเจลนี้ถูกพัฒนาต่อและมีผลความสำเร็จที่มายืนยันได้
    ที่มา kapook.com

    xxx หนูติดเซ็ก xxx
    1.หนูติดหูดหงอนไก่มาจากใคร
    ตอบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีระยะเวลาเพาะเชื้อ เช่น หนองใน 2-7 วัน เฉลี่ย 5 วัน ซิฟิลิส 10-90 วัน เชื้อเอชไอวีเอดส์ 1-6 เดือน หูดหงอนไก่ 1-6 เดือน นั่นหมายความว่า หลังจากรับเชื้อหูดหงอนไก่ ภายใน 1-6 เดือน หากร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ ก็จะเกิดหูดหงอนไก่ขึ้น ดังนั้น ชายที่น่าจะทำให้คุณติดเชื้อหูดหงอนไก่มากที่สุดคือ ชายคนที่สามค่ะ
    http://www.love.matethai.com/xxx/xxx-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81-xxx/

  6. เด็ดหัวโรคเอดส์ ใน5-10ปี ใช้ยาปลุกไวรัสให้ตื่นจากหลับ แล้วฆ่ามันเสีย
    ผู้เชี่ยวชาญโรคเอดส์ ผู้มีชื่อเสียงทั่วสากลโลกได้ ลั่นวาจาว่าจะรักษาโรคเอดส์ ให้หายลงได้ภายในเวลา 5-10 ปีข้างหน้านี้

    หมอ ชารอน เลวิน หัวหน้าหน่วยโรคติดต่อ โรงพยาบาลเดอะอัลเฟรด ที่นครเมลเบิร์น ผู้ทำวิจัยว่าจะสังหารเชื้อไวรัสโรคเอดส์ ซึ่งสงบอยู่ในตัวคนได้อย่างไร

    เป็น หลัก บอกว่า หนทางที่ดูมีเค้ากว่าเพื่อน ควรจะเป็นวิธีปลุกเชื้อที่กำลังหลับเหล่านั้นขึ้น แล้วก็สังหารมันเสีย ด้วยหนทางนี้ เราเชื่อว่าจะพบวิธีรักษาโรคให้หายได้ภายใน 5-10 ปีนี้

    ” เราจะพบวิธีแก้แบบไฮเทคได้ แล้วเราจะทำให้มันง่ายและถูก เพื่อที่จะใช้กับคนจำนวนมากได้” เขาเสริมว่า “สาเหตุใหญ่ที่ยังไม่อาจรักษามันได้ เพราะเชื้อมันเข้าซ่อนอยู่ตามที่ลับอยู่ในตัว แล้วหลบหลับอยู่

    ขณะ ที่เราใช้ยารักษาคนไข้ แต่พอเราหยุดยา มันก็จะตื่นขึ้นใหม่ ผมคิดว่าวิธีที่น่าจะดีที่สุดก็คือหายาที่ไปปลุกมันขึ้นมา แล้วก็ฆ่ามันเสีย”

    หมอผู้เชี่ยวชาญเล่าว่า “มันเป็นเชื้อไวรัสที่ฉลาดมาก ถ้ามองดูจากภายนอกจะดูไม่ออกว่าเซลล์ไหนปกติ เซลล์ไหนมีไวรัส เพราะมันเข้าไปเกาะติดอยู่กับตัวเซลล์ จนแทบจะทำอะไรมันไม่ได้”.
    ที่มา ไทยรัฐ

    safe sex
    http://www.love.matethai.com/save_sex/safe-sex/

  7. จูบแรกทำยังไง
    จูบและสุขอนามัย
    จะมีโอกาสติดโรคจากการจูบมั้ย? แน่นอนมีโอกาสเป็นได้ได้ตั้งแต่โรคหวัดไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศรวมทั้งโรค เอดส์ด้วย ถ้าคุณจูบกันขณะเป็นแผลในปาก ไม่มีความปลอดภัย 100%ในการจูบ แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่าจูบกันคนที่ปากหรือรอบปากเป็นแผลเด็ดขาด
    http://www.love.matethai.com/make_love/%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87/

  8. นักศึกษาขายตัวมากขึ้น
    สำหรับสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด กรณีนักเรียน นักศึกษาขายตัว
    – อันดับ 1 โรคติดต่อและเอดส์ 48.62%
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99/

  9. สาวไซด์ไลน์
    3.รูปแบบการขายบริการทางเพศมีช่องทางเพิ่มมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาบอบนวด เช่น เลานจ์คาราโอเกะแบบออฟเด็กได้ 4.การระบาดของโรคเอดส์
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-2/

  10. ตีแผ่ คัมภีร์ก่อนหัดนวดและนาบ
    3. เรื่องโรค แน่นอนครับ เอดส์ หรือ โรค เริม หรือ โรคต่าง ๆ ที่ติดเชื้อได้ การเที่ยว
    ที่ดี ตัวท่านเองควรรู้จักป้องกัน อย่าปล่อยใจ ตัวเอง เพียงเพื่อ ความเสียว ความสุข
    http://www.love.matethai.com/night/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2/

  11. โสเภณีชาย
    บาร์-สวนสาธารณะ-เซาน่า แหล่งนัดพบชายรักชาย
    ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานทั้ง ภาครัฐและเอกชนออกมารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องโรคเอดส์อย่างต่อเนื่อง
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2/

  12. นักศึกษาขายบริการ
    เปล่านะ แจงไม่ได้เป็นเอดส์หรือติดโรคทางเพศสัมพันธ์นะ แต่เป็นเรื่องของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับอวัยวะเพศ มันคงเริ่มเป็นมานานแล้ว แต่แจงไม่รู้ตัวมากกว่า
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/

  13. ขายตัว
    พบนักเที่ยวนิยมเปิดบริสุทธิ์หญิงขายบริการจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หวั่นเป็นต้นเหตุทำให้เอดส์ระบาดเพิ่ม
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/

  14. เที่ยวผู้หญิงครั้งแรก
    ตีแผ่ เที่ยวผู้หญิง พกถุงยางทุกครั้งเพื่อคนไทยไกลเอดส์ เพราะตายมาแล้วหลายรายครับ
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81/

  15. ชอบ ซื้อบริการ
    ชายไทย ติดนิสัย ชอบ ซื้อบริการทางเพศ !!!
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%9A-%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/

    เซ็กส์ออนไลน์ แพทย์ติง เซ็กส์ออนไลน์เสี่ยงภัยเอดส์
    http://www.love.matethai.com/sex/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C/

    เซ็กส์เพศสัมพันธ์วัยรุ่น
    นอกจากนี้ปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นก็เป็นอีกปัญหาที่น่าสนใจ
    http://www.love.matethai.com/sex_and_love/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8/

    ตีแผ่ คู่มือลงอ่าง ใครอยากเที่ยวอาบอบนวดต้องอ่านให้จบ !!
    เพราะผู้หญิงส่วนมาก(หมอนวดด้วย)รังเกียจการมีน้ำอสุจิในปาก (ในน้ำอสุจิของคนเป็นเอดส์
    จะมีเชื้อเอดส์จำนวนมาก ทำให้มีโอกาสการติดเชื้อได้ แม้ว่าการติดเชื้อโดยการอม เลีย
    อวัยวะ– จะมีโอกาสน้อยมากก็ตาม ยิ่งถ้ากลืนลงไปเชื้อจะถูกน้ำย่อย—-หมด)
    http://www.love.matethai.com/night/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87/

  16. คู่มือเที่ยวอาบอบนวด
    ต้องเซฟตัวเองด้วย คือมันไม่ใช่แค่เอดส์นะค่ะ มันมีอย่างอื่นด้วย หนองใน เชื้อรา เริม เยอะแยะ พวกนี้ติดง่ายค่ะ
    http://www.love.matethai.com/night/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94/

  17. sex phone เซ็กซ์โฟน
    ถ้ามีอารมณ์ต่อเนื่อง แล้วไปใช้บริการทางเพศต่อ
    หรือมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายและเพื่อนสาวโดยไม่มีการป้องกันตนเอง
    อาจติดโรคร้ายแรงจำพวกเอดส์ ซึ่งเป็นแล้วเสียชีวิตมาทำให้อนาคตเสียไป
    http://www.love.matethai.com/sex-phone/sex-phone-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99/

  18. สามีติด Chat
    ต้องพูดคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ
    รักเขา ก็ต้องดึงเขากลับมา
    และถ้าดึงกลับมาไม่ได้
    ก็ต้องมาระวังตัวเราเองค่ะ
    ระวังโรคร้ายที่จะตามมา
    ทั้งเอดส์ ทั้งการเสียสามี
    http://www.love.matethai.com/sex-phone/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94-chat/

  19. เพศเซ็กส์วัยรุ่น
    อาจต้องตรวจเลือดดูว่า
    ติดเชื้อเอดส์หรือไม่ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน 3 เดือน
    http://www.love.matethai.com/girl/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/

  20. ห้ามเซ็กส์เดทครั้งแรก
    ปลอดภัยไว้เป็นดี
    เซ็กส์เป็นเรื่องเสี่ยงน่าดูเหมือนกัน หากเผลอท้อง
    ขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ อาจต้อง เดือดร้อน ไปทั้งชีวิต
    ยิ่งถ้าเป็นเอดส์ละก็ ชีวิตพังพินาศทันที
    http://www.love.matethai.com/find_lover/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81/

  21. เด็กเร่ร่อนฮิตขายตัวพุ่ง
    หลายคนจบลงด้วยการเสียชีวิตจากโรคเอดส์
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B8/

    เคยมีเซ็กส์บอกเขาไหม
    เคยนอนกับผู้หญิงมาแล้วกี่คน มีเชื้อเอดส์ในตัวหรือเปล่า
    http://www.love.matethai.com/sex/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1/

  22. โจ๋ไทยถามเรื่องเซ็กส์
    เมื่อติดโรคแล้ว มีทั้งเอดส์และทำแท้ง
    http://www.love.matethai.com/sex/%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B9%8B%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C/

    เซ็กส์ปลอดภัย
    ในขณะที่ประเทศไทยมีแผนรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์จนประสบความ สำเร็จในระดับแนวหน้าของโลก แต่กลับพบว่ากลุ่มคนทั่วไป เช่น คนทำงาน แม่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนมีพฤติกรรมเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และติด เชื้อเอดส์มากขึ้น
    http://www.love.matethai.com/save_sex/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/

  23. เซ็กส์ปลอดภัยประตูหลัง
    จะติดโรคไหม
    เรา สามารถติดเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จากเซ็กซ์ประตูหลัง
    http://www.love.matethai.com/save_sex/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87/

    เซ็กซ์ปลอดภัยไม่ท้อง
    http://www.love.matethai.com/save_sex/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87/

    ครั้งแรกเซ็กส์หญิงไทย
    ซึ่งถูกรุ่นพี่บังคับให้ขึ้นครู ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางเพศของชายไทยได้อย่างดี โดยเฉพาะหลังจากโรคเอดส์ได้เข้ามาแพร่ระบาดในสังคมไทย
    http://www.love.matethai.com/sex/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/

  24. เอดส์ท้องแฟนเพื่อนข่มขืน
    http://www.love.matethai.com/pregnant/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82/

    หลั่งนอกท้องได้
    http://www.love.matethai.com/pregnant/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89/

    เสียตัว
    หัวข้อสนทนา : ใครเคยเผลอเสียตัวให้ชายอื่นที่ไม่ใช่แฟนบ้าง
    กลุ้ม ไม่ตั้งใจ
    http://www.love.matethai.com/lose/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-2/

  25. เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน
    ยิ่งคุณมีเพศสัมพันธ์ประจำ การใช้ถุงยางจะป้องกันการตั้งครรภ์ ได้ดีกว่า
    การกินยาคุมฉุกเฉินแถมยังช่วยป้องกันโรคเอดส์
    และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้อีกด้วย
    http://www.love.matethai.com/pregnant/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B4%E0%B8%99/

  26. นู๋เสียตัวให้เขา เสียตัวไม่ป้องกัน
    แต่ปัญหาอันดับแรกคือ
    การป้องกันการตั้งครรภ์ และการติดเชื้อเอดส์
    http://www.love.matethai.com/lose/%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B9%8B%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2/

    เสียตัวเพราะอยากลอง
    http://www.love.matethai.com/lose/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87/

  27. แค่ฟันแล้วทิ้งเท่านั้นเองเหรอ
    อย่าลืมไปเตรวจเอดส์ด้วยนะ มันแค่มาปล่อยเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้
    http://www.love.matethai.com/sex_and_love/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99-2/

  28. เกี่ยวกับเรา
    วัตถุประสงค์ในของเว็บไซต์นี้คือ
    ให้คนไทยมีเซ็กส์ปลอดภัยห่างไกลเอดส์ครับ
    หวังว่าเว็บไซต์นี้จะมีประโยชน์กับคนไทยบ้าง
    ไม่มากก็น้อยครับ
    http://www.love.matethai.com/about/

  29. ไว้ใจแฟน – ผิด ที่ ไว้ใจ อ่านไว้คนที่ไว้ใจแฟนทั้งหลาย
    เอดส์ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด
    http://www.love.matethai.com/sex_and_love/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B1/

  30. ไปดูดนมมา จะติดเอดส์ไหม xxx เอดส์ ข้อมูลดีๆ เปอร์เซ็นต์+โอกาสในการติดเอดส์จากการเอาสาว ออน.เเบบไหนเสี่ยงมากน้อย xxx HIV คือ อะไร เอดส์คืออะไร ติดต่อกันอย่างไร เอดส์แพร่กระจายไปได้อย่างไร เด็กรับเชื้อ HIV จากแม่อย่างไร HIV จากแม่สู่ลูก ยาต้านไวรัส HIV คืออะไร ทำไมต้องรักษาด้วยยาต้านไวรัส อาการข้างเคียงและการแพ้ยาต้านไวรัสเป็นอย่างไร ทำอย่างไรเมื่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสไม่ได้ผล นำข้อมูลมาฝากกันแล้วครับ xxx เอดส์ การติดต่อ และ ไม่ติดต่อ xxx เอดส์ อย่างนี้…จะติดเอดส์ไหม รวมข้อมูลเอดส์อ่านกันได้ที่นี่ เพื่อคนไทยห่างไกลเอดส์จ้า
    http://www.news.matethai.com/sex/%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b9%8c-%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b9%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b9%8c/

Leave a Reply