หัวลำโพง

หัวลำโพง แม่หัวลำโพง
ช่วงที่ ผมเป็นทหารเกณฑ์ ผมมักจะลาเสาร์-อาทิตย์ ตามเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคนกรุงเทพฯ มาเที่ยวบ้านเสมอ ๆ เพราะผมชอบบรรยากาศในกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลายคนบอกว่าอึดอัด คนพลุกพล่าน แต่ผมว่าได้บรรยากาศคึกคักดี เพราะได้เปิดหูเปิดตา ได้เห็นสาว ๆ สวย ๆ ต่าง ๆ มากมาย ตามประสาหนุ่มทหารเกณฑ์ต่างจังหวัด

สถานที่ที่ผมมักจะไปนั่งคือสวนจตุจักร, สวนลุมพินี และสนามหญ้าหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งหน้าสถานีรถไฟจะมีสนามหญ้า มีพี่น้องบ้านเฮามาขายส้มตำปูเสื่อ (สาด (อีสาน)) กินกัน มีตรารวงข้าวเป็นยอดข้าว และมีสาวเจ้านั่งตำให้กิน

แม่ค้าส้มตำก็จะติดต่อหญิงขายบริการให้ผู้ที่มากิน ซึ่งใกล้ ๆ บริเวณนั้นจะมีห้องเช่าที่ใช้เป็นห้องเชือด สนนราคาสมัยนั้นก็ไม่แพง ร้อยสองร้อยบาท รุ่นพี่ผมบอกว่าเคยใช้บริการเป็นประจำ แต่ห้องค่อนข้างสกปรก ส่วนผมชอบนั่งจีบแม่ค้ามากกว่า อิอิ

วันก่อนผมไปเยี่ยมพี่ชายผมที่โรงแรมแม่น้ำแถว ๆ ถนนเจริญกรุง ขึ้นรถเมล์มาลงสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อมาต่อรถกลับบ้าน ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ จึงได้เขียนไดอารี่นี้ขึ้นมา

บรรยากาศหญิงสาวขายส้มตำมีเหล้าสีวางในตระกร้ายังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีลูกค้าเลย แม่ค้าก็จะนั่งคุยกัน และพยายามจะเรียกลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมา

ผมนั่งลงสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากสาวเจ้า ก็ถึงบางอ้อว่า โอ้…ที่แท้หล่อนไม่ได้มาขายส้มตำปูปลาร้าเพียงอย่างเดียว ยังมี ตำถั่ว ตำซั่ว ตำมั่ว อีก แล้วแต่ใครจะชอบกินตำแบบไหนเธอก็จะตำให้ ผมฟังดูน้ำลายเริ่มไหล ซี๊ด….เผ็ด

เธอบอกกับผมว่า ถ้าจะเหมายกหาบ ต้องหาบละ 1,500 บาท ค่ะ ผมคิดว่าที่แพง ขนาดนั้นเพราะว่า คงจะแพงค่าเหล้ามั้ง !
ที่มา พล พระยาแล

ส้มตำยกหาบ หน้าหัวลำโพง
ได้แต่เล่า ได้แต่คิด ได้แต่เดา
เอ้า ล้อมลงแล้วจงฟัง
ราคา ….. แล้วแต่ความพึงพอใจ และหน้าตาคนขายจ้ะ มีตั้งแต่ ถูกใจให้ฟรีพาไปซื้อเหล้าบุหรี่ก็พอ จนถึง ธีรพันธ์ (แปลว่า ที – ละ – พัน)

การเข้าหา ….. เจอคนไหน สวยถูกใจ นั่งลงที่เสื่อเลยครับ ถามน้อง ว่ามีอะไรกินมั่ง
น้องอาจจะย้อนถามว่าพี่อยากจะกินอะไรล่ะ อาหารหรือเหล้า

แต่ผมบอกว่าไม่อยากกินทั้งสองอย่าง อยากกินคน และคนนั้นต้องน่ารักด้วยสำหรับผม
(มุขนี้ใครลอกเลียนแบบ ซวยไม่รู้ด้วยนะเออ ไม่รับรอง 5555)

น้องแม่ค้าก็จะถามว่า พี่เคยมาบ่อยมั้ย
ผมบอก ไม่เคย แต่เพื่อนบอกให้มาหาน้องที่ลักษณะอย่างงี้ๆๆๆ (แหลอ่ะ 555) ซึ่งน่าจะเป็นเธอ

น้องจะถามต่อว่า เพื่อนพี่ว่าอย่างไร
ผมบอกว่า ผมพักอยู่ที่ศรีกรุง แล้วบุ้ยใบ้ไปที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามคลอง
(ก็เปิดห้องที่ศรีกรุงจริงๆแหละครับ ไว้เชือดโดยเฉพาะเลย คืนละ 500 ห้องสะอาด 2 เตียง น้ำร้อนพร้อม)

น้องเลยถามว่ามีใครพักอยู่ด้วยเหรอเปล่า
ผมบอก ห้องว่าง รอเพื่อนนอนด้วย
แล้วแจกเบอร์เลย เสร็จแล้วลุกเลย พูดพอให้น้องได้ยินคนเดียวว่า “พี่จะไปรอหน้าโรงแรมนะ”
แล้วไปรอเลยครับ 55555
500 เอง
เอา มันส์นะเออ หนึบ แน่น แต่ผิวน้องเหล่านี้จะคล้ำๆน่ะ ถ้าคนไม่ชอบสไตล์ “ไก่บ้าน” ก็ผ่านไป ไปหาสาวๆ วงเวียน 22 ดีกว่า เพราะขาวๆทั้งนั้น
แถวนี้จะเป้นแบบ น้องดำ ดี ดูด เด้ามันส์
ยิ่งเอาเก่งๆแบบพวกเราที่เอาบ่อยๆ เผลอๆน้องติดใจให้เบิ้ลฟรี น๊านนนน
เพราะน้องๆเจอแบบ พวกเดินทางซกมกมาอ่ะ มาถึงก็ฉึก ๆๆๆๆ ป้าบๆๆๆๆ เสร็จแล้ว
เจอแบบสมาชิกบอร์ดเรา ลีลาการเอา สุดๆ น้องๆติดใจนะครับ
จบพ… ใช้ดี จึงบอกเพื่อน
กล้าๆหน่อยเพ่ อย่ามัวแต่นั่งเดา
หน้าหนาวแล้ว ดึกๆ นั่งกันให้สลอนเลยว่ะ เชิญชมได้เลย
ที่มา กระทู้จากเน็ต

สำหรับแม่ค้า ส้มตำที่มานั่งขายส่วนใหญ่จะเป็นคนทางภาคอีสาน มีอายุอยู่ระหว่าง 25-40 ปี รูปร่างหน้าตาอยู่ในขั้นดี แต่งกายสวมเสื้อยืดรัดรูปเอวลอย โชว์เนินอกหรือแผ่นหลัง ใบหน้าแต่ละคนจะประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางเต็มเหนี่ยว แต่ละคนจะนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกขนาดเล็กเฝ้าหาบของตน มองหาลูกค้าที่ผ่านไปมา บางครั้งใช้กลวิธีเรียกลูกค้าด้วยการโบกมือให้เข้าไปนั่งสั่งอาหาร ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยทางรถไฟ เมื่อลงรถที่สถานีหัวลำโพงแล้ว ผ่านมาเห็นแม่ค้าส้มตำจะเข้าไปสั่งส้มตำจากแม่ค้าเหล่านี้รับประทาน รวมทั้งโชเฟอร์รถแท็กซี่ และรถตุ๊กตุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เท่า ที่สังเกตพบว่าแม่ค้าส้มตำส่วนใหญ่จะมีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน ยามว่างจะนำกระจกขนาดเล็กขึ้นมาส่องและแต่งหน้า อีกทั้งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีลูกค้ามานั่งสั่งส้มตำเท่าใดนัก จากการสังเกตพบว่าเมื่อมีลูกค้าหนุ่มๆ มานั่งกินส้มตำ แม่ค้าจะพูดคุยอย่างสนิทสนม มีหลายรายที่กินเสร็จก็จูงมือกันเดินออกไป โดยจะมีผู้หญิงแต่งกายลักษณะเดียวกัน แต่นั่งกระจายอยู่รอบๆ เข้ามานั่งขายของแทน หรือบางครั้งลูกค้าก็เดินเข้ามานั่งคุยโดยไม่ได้สั่งอาหาร ก่อนที่จะพากันออกไปก็มี ซึ่งบางรายเมื่อหายไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะกลับมาขายของตามเดิม แต่บางคนก็หายไปเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า การมาขายส้มตำของแม่ค้าสาวเหล่านี้ บางรายยังนำลูกมาเลี้ยงอยู่ข้างๆ ก็มี และเมื่อจะออกไปกับลูกค้าก็จะฝากให้เพื่อนช่วยดูแลแทน ในช่วงดึกๆ เมื่อมีรถสายตรวจท้องที่ผ่านมา กลุ่มแม่ค้าก็จะคอนหาบวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง จนเมื่อรถตำรวจผ่านไปแล้วจึงกลับมาตั้งหาบขายตามปกติ

รายงาน ข่าวแจ้งว่าสำหรับนักเที่ยวระดับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน จะรับรู้กันว่าหากต้องการหลับนอนกับผู้หญิงในราคาไม่สูงมากนัก ต้องมาในย่านหัวลำโพงนี้
ที่มาจากหนังสือพิมพ์

หาบส้มตำ…วันปิดเทอม…
เมื่อกี้นังไนล์เดินกลับบ้านจากร้านกาแฟที่ทำงานพิเศษอยู่
ผ่านลานส้มตำหน้าหัวลำโพง
ก็รู้สึกว่า…ทำไมกิจการดูขายดีขึ้นกันจังวะ
หาบแทบจะล้นออกไปบนถนนอยู่แล้ว

แล้วซักพักก็เห็นน้องๆหนูๆวัยน่าจะซักม.ต้น(สังเกตจากผมสลวยยาวถึงติ่งหู) นั่งอยู่ตรงข้างๆหาบนั่งคุยกับพี่เจ้าของหาบอยู่

เออ…เขาคงมาเก็บข้อมูลไปทำรายงานวิชาการงานพื้นฐานอาชีพกันละมั้ง
…การ
..งาน
.พื้นฐาน
อาชีพ…
มันจะมีได้ยังไงกันเล่า เขาปิดเทอมกันอยู่!

สัดด๋อยหอยหลอด เดินมาอีกนึดนึง โอ้ว แม่เจ้า สาวน้อยผมติ่งหูค่ะท่าน เธอมี”หาบ”เป็นของตัวเอง (หรือเธอจะนั่งเฝ้าหาบให้ใครรึเปล่าก็ไม่รู้)

เดินมาอีก หนุ่มน้อยหัวเกรียนนั่งคุยกับสาวน้อยผมติ่งหูข้างๆหาบ
เดี๋ยวนี้อายุเฉลี่ยเจ้าของและผู้ใช้บริการหาบส้มตำมันลดลงได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ!!!!!
ยิ่งเดินยิ่งเครียดค่ะคุณ บางหาบมีหนูๆนั่งกับพี่เจ้าของหาบ
บางหาบหนูๆนั่งคุมกันเอง
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!!

หรือน้องๆรับจ๊อบช่วงปิดเทอมมาช่วยนั่งเฝ้าหาบให้พี่ๆวะ!!!
ผมติ่งหู หน้าตามัธยมต้น ประถมปลายกันอยู่เลยนะ
นี่ไม่มีจ๊อบอื่นจะทำแล้วเหรอะ
หรือว่ามาทัศนศึกษา
ม่ายยยย ขอให้เขาแค่มา “ทั ศ น ศึ ก ษ า” แบบทฤษฏี ไม่ต้องลงมือ ป ฏิ บั ติ เถอะ
โอ๊ย ปวดหัว….
ประเทศไทย ประเทศไทย…………………………………….

ไม่บอกกันตรง ๆ สารคดีบันทึก
ไม่ว่าจะ “เอาไหมพี่ ถ้าสน ห้าสิบบาทเท่านั้นแหละ” เสียงกะหรี่อายุน้อยที่สุดในโลกในเรื่องสั้น ที่เห็นและเป็นอยู่ ของ ลองเรื่องสั้น-จำลอง ฝั่งชลจิตร แม้ว่าค่อนข้างตรง แต่ความหมายของคำว่า ‘เอา’ ก็ยังไม่ได้หมายถึงการร่วมประเวณี

กรุงเทพฯ มิยอมหลับไหลจริงสมดังคำร่ำลือ เวลาค่ำมืดเป็นเวลาเริ่มต้นชีวิตของคนกลางคืน โดยเฉพาะย่านแหล่งบันเทิงยามราตรี

ผมนั่งรถผ่านหัวมุมถนนสีลมเห็นรถราและผู้คนมากมาย หลายคนทีเดียวดูแล้วมีอาการคึกคัก ตื่นตัว พร้อมเริ่มชีวิตในอีกค่ำคืนหนึ่ง เลยไปอีกไม่ไกลที่หัวลำโพงแสงไฟสว่างไสว มองเข้าไปเห็นผู้คนขวักไขว่ ทั้งรอออกเดินทางและการมาถึงเมืองหลวง ผมพยายามมองหาแม่ค้าขายส้มตำ ทว่ามองไม่เห็น ด้วยว่าแม่ค้าเหล่านี้มักจะไปอยู่ตามมุมต่าง ๆ ที่แสงไฟสาดส่องไม่ถึง

แม่ค้าขายส้มตำแถวนี้แปลกจากทั่วไปอย่างหนึ่งคือ ในหาบของเธอไม่มีวัตถุดิบใด ๆ ที่จะใช้ประกอบอาหารดังว่า แม่ค้าก็อยู่ในวัยสาวเสียส่วนมาก แต่งตัวสวย กลิ่นน้ำหอมแป้งร่ำกรุ่นอยู่รอบกาย ลูกค้าของเธอมีแต่ผู้ชาย

ครั้งหนึ่งเหล่าสหายชวนผมไปหาของกินย่านนั้น พวกเขาถามว่า พี่ชอบกินส้มตำไหม ผมว่าไม่ชอบ แต่ถ้าจะกินก็ได้ไม่เกี่ยง เดินขึ้นมาจากใต้ดิน-สถานีรถไฟฟ้า เดินผ่านหาบส้มตำสองสามเจ้า ผมสังเกตเห็นความผิดปรกติ จึงบอกมิตรสหายว่าเราคงไม่ได้กินแล้วเพราะมาดึกเกินไป ในหาบนั้นไม่มีมะละกอเหลืออยู่เลย คนหนึ่งยิ้ม ถามว่า พี่จะกินจริงเรอะ! แล้วพวกเขาก็พากันเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวติดแอร์

กินเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับที่พัก ระหว่างที่ผมเดินไปป้ายรถเมล์ก็ยังเห็นหาบส้มตำคงอยู่อย่างนั้น บางหาบไม่มีแม่ค้า บางหาบนั่งคุยกับผู้ชาย บางหาบนั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว สหายสองคนเรียกแท็กซี่ชวนผมนั่งไปด้วยเพราะเส้นทางผ่านเดียวกัน

เขาสองคนยังคุยเรื่องส้มตำที่หัวลำโพง ผมจึงถือโอกาสถามในสิ่งที่สงสัย พวกเขาเฮฮากันเล็กน้อย คนขับแท็กซี่ก็ร่วมด้วย เขาว่าที่มันไม่มีมะละกอก็พวกเธอไม่ได้ขายส้มตำจริงน่ะซี่ พวกเธอขายอย่างอื่น เท่านั้นเองผมก็ถึงบางอ้อ ขายอย่างอื่นก็ขายตัวนั่นแหละ–เข้าใจตรงกัน มิน่า ตอนที่ผมมองไปยังหาบที่ว่างเปล่า พวกเธอจึงมองผมด้วยสายตาหวานซึ้งเตรียมขยับปากจะเอ่ยอะไรสักอย่างทว่าไม่ทัน

แปลกดี ผมเพิ่งเห็นครั้งแรกนี่แหละ ต้องอาศัยหาบบังหน้า ไม่รู้ว่าแก้เขินหรือว่าอำพรางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ไม่รู้

อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันละว่า หากชวนไปกินส้มตำย่านนั้น ก็มิได้หมายความว่าจะไปกินส้มตำจริง ๆ แต่กินอย่างอื่น

รถแล่นมาถึงวงเวียนใหญ่ ผมขอลงหน้าตลาดเจริญรัถ ขอบอกขอบใจในความเอื้อเฟื้อของมิตรทั้งสองแล้วเดินข้ามสะพานลอยมายังฝั่ง สถานีรถไฟเพื่อจะเดินย้อนไปทางบางยี่เรือ ก่อนถึงหัวโค้งของวงเวียนเป็นมุมมืดอับแสงไฟ สาวเจ้านางหนึ่งปรี่ออกมาจากซอกตึกขวางหน้า

ผมชะงักฝีเท้า ตกใจกับการปรากฏกายของเธอ
“เที่ยวไหมพี่?” เธอถาม
โดยอัตโนมัติผมยิ้ม ส่ายหน้า แล้วรีบเดินจากมา

ผมกลัวว่าหากมัวหยุดพูดคุยกับเธออาจมีไอ้หนุ่มปราดเข้ามาล็อคคอแล้วปล้น ทรัพย์ ในยามวิกาลผมไม่ควรไว้ใจใครง่าย ๆ นอกเหนือไปจากนั้นผมไม่มีอารมณ์ ผมอยากกลับบ้าน ผมไม่อยากเที่ยว

นี่ก็เช่นกัน ชวนไปเที่ยว ก็มิได้หมายความว่าจะไปเที่ยวดูอะไรในยามค่ำคืน หากเที่ยวไปในห้องหับแคบ ๆ เที่ยวขึ้นสวรรค์หรือจะลงนรกทั้งที่ยังเป็น ๆ อยู่นี่แหละ ไม่ต้องรอให้ตายไปเสียก่อน

ดูเหมือนจะไม่มีการพูดหรือบอกกันตรง ๆ เลยนะครับ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม

ไม่ว่าจะ “เอาไหมพี่ ถ้าสน ห้าสิบบาทเท่านั้นแหละ” เสียงกะหรี่อายุน้อยที่สุดในโลกในเรื่องสั้น ที่เห็นและเป็นอยู่ ของ จำลอง ฝั่งชลจิตร แม้ว่าค่อนข้างตรง แต่ความหมายของคำว่า ‘เอา’ ก็ยังไม่ได้หมายถึงการร่วมประเวณี

หรือแม้แต่ “เท่าไหร่น้อง?” กับผู้ที่จะขายก็ยังเป็นการประดิษฐ์ถ้อยคำมาบังความกระสัน

หากเอ่ยตรง ๆ คงกระดากปากพิลึก?

เที่ยวไหมพี่? เท่าไหร่น้อง? ลองใช้คำพูดตรง ๆ หน่อยเป็นไร XXXไหมพี่? XXXเท่าไหร่น้อง?

ไม่ต้องขายส้มตำบังหน้า ทำเหมือนมืออาชีพและสมัครเล่นแถวสนามหลวงให้ชัดเจนกันไปเลย จะได้ไม่มีคนเข้าใจผิดเช่นผม

“นั่งคุยกันก่อนได้ไหมคะ” เสียงสาวน้อยคนหนึ่งคะเนจากหน้าตาและรูปร่างแล้วไม่น่าเกิน 18 (ไม่ต่ำกว่า 12) บอกผมหลังช่วยหากุญแจห้องที่ตกลงพื้นท่ามกลางความมืดและความมึนเมา

สติผมยังคงมีและเริ่มกลับมาเรื่อย ๆ ระหว่างนั่งคุยกับเธอ คิดว่าเมื่อไหร่เธอจะกล่าวออกมาตรง ๆ หลังจากรำพันเรื่องต่าง ๆ นานาอยู่นานสองนาน พร้อมกับหาทางปฏิเสธอยู่ในทีหากเธอเอ่ยถึงความปรารถนา

เนิ่นนานไปผมว่าเสียเวลาเปล่า ขอตัวกับเธอตรง ๆ “หิวข้าวจะไปด้วยกันไหม”

เธอมองผมด้วยแววตาวาวรื้น ผมจึงต้องรีบย้ำ “กินข้าวจริง ๆ ไปไหม?”

ผมคิดว่าเธอคงปฏิเสธ แต่ไหนได้ เธอลุกตามผมมา และผมก็เลี้ยงข้าวเธอจริง ๆ ด้วยความเต็มใจ ขอบคุณเธอที่ช่วยหากุญแจจนพบ

ไม่รู้ว่าอารมณ์นั้นเธอเข้าใจคำว่า ‘กินข้าว’ ของผมไปในทางไหน ถ้าไปในทางเดียวกับ ‘เอาไหมพี่?’ และ ‘เที่ยวไหมพี่?’ หรือ ‘เท่าไหร่น้อง?’ ผมคงต้องเลี่ยงคำคำนี้ ไม่เอ่ยชวนสาวเจ้าคนไหนยามค่ำคืนเสียแล้ว มันก็คล้าย ๆ กับพรรคพวกผมกลุ่มหนึ่งที่เมื่อฟาดเหล้าไปแล้วมักชวนไปกินข้าวต้มโต้รุ่งกัน ต่อ ไอ้ผมน่ะหลงคิดว่าจะกินข้าวจริงเลยตามไปด้วย ผมหิวจริง ๆ กินเหล้าแล้วต้องกินอะไรรองท้องจนติดเป็นนิสัย

ปรากฏว่ากินข้าวต้มของพวกนั้นคือไปม่านรูด ที่มีหญิงสาวไว้คอยบริการเสร็จสรรพ!

คิดแล้วก็แปลกดีที่เราต่างประดิษฐ์ถ้อยคำเป็นสัญลักษณ์ที่เข้าใจไปในทาง เดียวกันนี้ได้ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเพราะเถรตรงคงงงเป็นไก่ตาแตก ดีไม่ดีก็เต็มใจตกกะไดพลอยโจนไปด้วยเสียเลย ก็อยากไม่บอกกันตรง ๆ นี่ ไอ้ที่ว่าสวรรค์จึงรำไร ๆ อยู่ตรงเบื้องหน้า, สวัสดี
ที่มา sarakadee.com

One thought on “หัวลำโพง”

  1. ขายตัว – สถาน ที่ ขายตัว – xxx รัก ( เซ็กส์ 18 + ) xxx
    ตีแผ่ สถาน ที่ ขายตัว เด็กใจแตก ขายบริการกับสังคมที่เปลี่ยนไป สถานที่ท่องเที่ยว ไก่สนามหลวงอีกมุมหนึ่งของเด็กใจแตก …
    http://www.love.matethai.com/sex_places/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/

Leave a Reply