ขาย ตัว ค่ะ

ขาย ตัว ค่ะ ร่วมรักข้ามคืน
One Night Stand (ร่วม) รักข้ามคืน
มนุษย์ ไม่อาจปฏิเสธความต้องการ และความหิวกระหายในเพศรสได้ ดังนั้น หากคุณยังโสด และไม่ต้องการมีพันธะหัวใจในระดับโซ่ทองเส้นเขื่องที่ร้อยรัดพันธนาการชีวิต ไว้ หนึ่งในทางออกที่เป็นเรื่องธรรมดา สามัญที่สุดคือ การปลดเปลื้องอารมณ์กำหนัด

ขาย ตัว ค่ะ
ขาย ตัว ค่ะ

รุ่นคุณปู่เดินเข้า สำนักโคมเขียว(สถานที่ขายบริการทางเพศสมัยก่อน พศ 2499 สมัยนั้นถือว่า เป็นสำนักถูกกฎหมาย) จากสำนักโคมเขียวก็พัฒนาไปตามยุคสมัย เช่น อาบอบนวด จนถึงบริการแฝงในหมู่พริตตี้ สำหรับคนรายได้น้อย มีริมทางหลายแห่งที่รู้กันในหมู่นักเที่ยว ผู้หญิงบริการ หาได้ที่ คลองหลอด, สนามหลวง, หัวลำโพง (แม่ค้าส้มตำหน้าสวย), เยาวราช (วันนี้มีชาวจีนพลัดถิ่นมาขายด้วย) , สวนลุมพินี กุ๊กกุ๊ก ประเภท หาบเร่ แผงลอย ไม่ผ่านนายหน้า มาม่าซัง สนนราคาไม่แพง ณ วันนี้ เมื่อดอกคณิกา ผลัดใบผลิดอกเป็นสาวรุ่นกระทง !! ก็ต่อยอดไปมีผัว – เด็กแว้น เป็นแมงดา

วันนี้ มีการพูดถึงท่องทาง e คลิกเดียวก็เสียวได้ ผู้ชายพศ นี้ จ่อมก้นอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะพาตัวเองไปสู่ดินแดนอันหฤหรรษ์ เช่นเดียวกับ ผู้ขายบริการ ที่พยายามจะหาช่องทาง วิธีการเพื่อเข้าถึงลูกค้า เพื่อนำพาไปสู่ Sexnology (Sex + Technology) อันเป็นอีกหนึ่งวิธีการของบริการซื้อความสุขบนโลไซเบอร์

ต่อให้โลกเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อและผู้ขายยังนิยมที่จะ ซื้อ – ขายตรง อยู่
Metro Life พาผู้ซื้อ และผู้ขายมาเจอกัน ค่ำคืนนี้ เขาและเธอมีเหตุผลที่จะไม่เลือกช่องทางของจอสี่เหลี่ยมบนโลกไวเบอร์เพื่อ ซื้อ – ขายบริการ เพราะเหตุใดน่ะหรือ !?
นี่คือความเห็น
********************

ขาย ตัว ค่ะ เปลือยหมดใจ นักศึกษาขายบริการ
ดู จากภายนอก วุ้น คือนักศึกษาสาววัย 20 ที่สวมใส่ยูนิฟอร์มอิงกระแสแฟชั่น หน้าตาน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นผสมเกาหลี ความขาวใสกระจ่าง เนียนละเอียดของผิวกาย ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของเพศตรงข้ามได้ไม่ยากนัก แต่สิ่งซึ่งคนที่เพ่งมองเธอไม่มีวันล่วงรู้ก็คือ เธอเคยขายบริการทางเพศ ทำงานอยู่ในสถานบริการย่านรัชดาฯในช่วงเวลาแค่ 2 เดือน แต่เวลาสั้นๆนี้แหละที่เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ประสบการณ์ตลอดจนทัศนคติของเธอไปตลอดกาล

คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวจะเป็นลักษณะไหน?
มี ทุกรูปแบบค่ะ คนที่ไม่นึกว่าจะมาเที่ยว แบบเอ๋อๆ ก็มี (เอ๋อๆ ยังไง) ไม่เต็ม เราพูดอะไรกับเขา กว่าเขาจะตอบสนองนานมาก นอกจากนั้น ก็มีทุกอย่าง เด็กเนิร์ด เด็กเรียน เด็กเล่นกีฬาเสร็จ มีคนแก่ นักการเมือง ดารา นักกีฬา ครู หนูเคยนอนกับครูด้วย ครูในสถาบันที่เรียนอยู่ เขาไม่รู้ว่าเป็นหนู

อาจารย์ของตัวเองมาใช้บริการเลย?
เขา เป็นหัวหน้าภาค เป็นคนก่อตั้งเอกที่หนูเรียนอยู่น่ะค่ะ (แต่ไม่เคยสอนเรา?) ตอนนั้นหนูเพิ่งจบม6มา ก็ยังไม่รู้ว่าอาจารย์ในมหาลัยมีใครบ้าง เขาพูดจาดูถูกหนู แล้วหนูเป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก เลยบอกว่า ฉันไม่ได้สวยไร้สมองนะ ฉันก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้เหมือนกัน พอพูดกันไปพูดกันมา ก็หลุดว่าเรียนที่ไหน เขาก็บอกว่าไม่เชื่อหรอก น้ำหน้าอย่างเธอเหรอจะเรียนได้ (คุยกันตอนเขามาใช้บริการ?) ใช่ค่ะ ก็เถียงกันไปเถียงกันมาว่า ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันก็มีปัญญาเข้า เด็กตั้งหลายพันคนที่มาสอบแล้วไม่ติด แต่ฉันก็ยังติด มาพูดกับฉันอย่างนี้ได้ไง พูดจนเขาเชื่อน่ะ

พอรู้แล้วเขาเป็นอย่างไร?
เขาก็อึ้งนะ พอคุยกันไปคุยกันมา สุดท้ายเขาก็บอกว่า แล้วนอนกับลูกศิษย์ได้ไหม เราก็โอเค ถือว่าเป็นงาน
นอกจากอาจารย์คนนั้นแล้ว เคยแจ็กพอตเจอคนรู้จักคนอื่นอีกไหม?

ถ้า เป็นแขกไม่มีค่ะ แต่มีเพื่อนของหนูคนนึงเขาเป็นเจ้าของอาบอบนวดเยอะมาก ซึ่งหนูคิดว่ามันเป็นเจ้าของอีกที่นึง จนวันนึงเราเดินอยู่ในร้าน เฮ้ย! ใครหน้าเหมือนเพื่อนเราเลย ก็เลยเดินเข้าไปถามคนอื่น อ้าว เพื่อนนี่หว่า มากันทั้งแก๊งเลย แล้วหนูเจอทุกอาทิตย์ ก็วิ่งหนีมันทุกอาทิตย์ (เพื่อนสมัยเรียนมัธยม?) ใช่ค่ะ ก็หนีตลอด ผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ เราเดินออกจากที่ทำงาน เขายืนอยู่ตรงนั้นพอดี พอเจอกันก็เลยแจ็กพอต เขาก็จำได้ แต่เขาก็ไม่เคยบอกใครนะว่าหนูทำงานที่นี่

เคยหลงรักลูกค้าไหม?
ไม่เคยค่ะ
ถ้าเป็นดาราหรือคนหล่อๆ ล่ะ ไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ?
ก็ แค่รู้สึกว่า ดีนะ มีแขกอย่างนี้มา ไม่ใช่มาถึงก็ทำกับเราเหมือนเราไม่ใช่คน เขาจะคุยดี แต่ไม่ใช่คุยแบบจีบนะ เขาจะถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้เจอกันอาทิตย์นึงเป็นอย่างไร ทำอะไรมาบ้าง เปิดเรียนเมื่อไร เหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน เราก็เกิดความรู้สึกดีๆ ด้วย แต่ไม่ใช่ความรู้สึกรักแบบนั้น ไม่ได้ผูกพันถึงขั้นรัก

ลูกค้าลักษณะไหนที่คุณชอบ?
คน เราต้องดูหน้าตาอยู่แล้ว ต้องสะอาด ไม่ต้องหน้าตาดีหรอก แต่ขอให้ดูสะอาด ดูไม่มีโรค แล้วถ้าขึ้นไปก็ขอให้มีการพูดคุยกัน เช่น ชื่ออะไร อายุเท่าไร เพราะการพูดคุยแบบเป็นกันเอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ไม่ใช่ว่าทำอะไรไปแล้วเงียบ เฮ้ย! คุณชอบหรือเปล่าเนี่ย ฉันทำงานยากนะ ทำไป เงียบ เฮ้ย! ทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า จะชอบคนที่พูดจา มีการแลกเปลี่ยนคำพูดกันสักหน่อย (ขอให้มีการสื่อสารกลับมาบ้าง?) ใช่ บางทีเข้าไปไม่พูดไม่จา เราไม่ได้เป็นใบ้นะ

เวลาได้เงินมา รู้สึกว่ามันเป็นเงินบาปหรือเงินไม่ดีไหม?
มัน เหมือนเงินร้อน แต่หนูตั้งกฎกับตัวเองไว้ว่า ทำอะไรก็คืองาน จะให้หนูไปทำอะไรที่ผิดมนุษย์ หนูก็ไม่ทำ (ผิดมนุษย์หมายถึงอะไร?) อย่างเช่น มีเซ็กส์แปลกๆ หรือวิตถาร ถ้ามันเกินไป หนูก็ไม่ทำ หรือถ้าคนที่มีครอบครัวแล้ว ให้ไปผูกพัน หนูก็ไม่เอา จะตั้งกฎไว้เลยว่า งานก็คืองาน จะไม่มีการไปเล่นกับแขกว่า หนูก็ชอบพี่นะ คิดถึง แบบนี้จะไม่มีเลย

แต่เงินร้อนมันมาเร็วไปเร็วจริงๆ หนูได้เงินเยอะมาก แต่หมดเร็วมาก (ได้เงินเยอะขนาดไหน?) วันนึง อย่างน้อยเลยก็ประมาณสี่พัน บางวันก็หมื่นกว่าบาท หนูจะบอกตัวเองว่าเก็บประมาณ 60 หรือ 40% แล้วที่เหลือคือใช้ ตอนนั้นหนูกินเหล้าจัดมาก วันนึงหนูใช้เยอะมาก เพราะหนูรับไม่ได้กับสิ่งที่หนูทำ หนูก็เลยปลดปล่อย ไปเที่ยว กินเหล้า ถ้าไปกันสองคน อย่างต่ำคือ สามพัน จ่ายแบบไม่รู้สึกอะไรเลย ขอแค่ทำงานเสร็จ มีเวลาเที่ยว ให้หนูได้ปลดปล่อยตัวเอง เพราะเราต้องมาเจอแขก ใครก็ไม่รู้ รุ่นพ่อเลยน่ะ หนูก็ขยะแขยง เงินก้อนนั้นก็คือใช้ไปเลย ช่วงเวลาสองเดือนที่ทำงานนั้น คำนวณคร่าวๆ รายรับทั้งหมด น่าจะประมาณสองแสนบาท
สองแสนนั้นคุณเก็บไม่ได้เลย?

ที แรกเก็บได้ประมาณแสนนึง แล้วพอหนูมาเช่าห้องอยู่ หนูก็ใช้เงินแสนนั้นไปด้วย ใช้กินเหล้าวันละสามพัน แล้วก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วย เพราะห้องที่หนูเช่าไม่มีอะไรเลย หนูซื้อทั้งเตียง แอร์ ซื้อทุกอย่าง จนหมดเงินไปประมาณครึ่งแสนแล้ว

คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับคนที่ขายตัวผ่านเว็บไซต์หรือ hi5?
รู้สึก ว่าจะประจานตัวเองทำไม มีทั้งรูปทั้ง Profile ขึ้นหมดเลย คุณไม่อายเหรอ ศักดิ์ศรีคุณอยู่ไหน หนูไม่ได้บอกว่าอาชีพนี้ไม่ดี แต่ถ้าคนอื่นมอง เขาจะมองว่าคุณไร้ค่าไหม ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตคุณน่ะ จะรู้สึกอย่างไร เพราะรูปพวกนั้น หลายคนเซฟเก็บไว้อยู่แล้ว คุณไม่แคร์เหรอว่าอีกสิบปี สมมติคุณตั้งตัวจากเงินที่หามาได้ แล้วเรื่องนี้หลุดออกมา คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ มีรูปประจานแบบนั้น คุณเกิดไม่ได้เลยนะ
แล้ว มันไม่เซฟเลย ถ้าคุณทำงานในร้าน มีคนหาแขกให้ ตรวจสุขภาพให้คุณฟรี ตรวจเลือด ตรวจภายในให้คุณฟรี แล้วถ้ามี Accident อะไรขึ้นมา คนที่ไปขายตัว แล้วโดนฆ่าก็ไม่มีคนช่วย แต่ถ้าคุณทำงานในร้าน มีอะไรขึ้นมา คุณสามารถจะกดกริ๊งเดียว แล้วมีผู้ชายตัวใหญ่ๆ หลายคนขึ้นมาช่วยคุณได้ มันเซฟกว่า แค่แขกไม่ใส่ถุง เราสามารถโวยวาย Cancel ได้เลยว่า ไม่เอา แต่ถ้าไปที่อื่น คุณอาจจะโดนข่มขืนไปแล้วก็ได้

คน ไทยชอบตั้งกฎบ้าๆ บอๆ มีพระเล่น hi5 ก็จะปิด hi5 ภาพยนตร์บางเรื่องก็ตัดไม่ให้มีซีนคนขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่ใส่หมวกกันน็อก ฉาย หนูรู้สึกว่าผู้ใหญ่ในเมืองไทยงี่เง่าน่ะ หนูเล่น hi5 ก็เพื่อที่จะได้เจอเพื่อนเก่า คนที่เล่นแล้วมีความคิดดีๆ เขาจะไม่ได้เล่น hi5 เพราะเรื่องแบบนี้ได้

จากการที่ผู้ใหญ่บางคนออก มาให้สัมภาษณ์ถึงวิธีแก้ปัญหานักศึกษาขายบริการว่า ต้องปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้นักเรียน นักศึกษา โดยเพิ่มวิชาการเรียน การสอน เรื่องศีลธรรม คุณคิดอย่างไรต่อเรื่องนี้?
หนู ว่ามันไม่ตรงจุด ครอบครัวเนี่ยสำคัญที่สุด หนูเชื่อว่าคนเราเกิดมา มีกมลสันดานติดตัวมาอยู่แล้ว แต่คนที่ปลูกฝังหรือสภาพแวดล้อมที่เด็กอยู่ไม่เหมือนกัน อย่างบ้านที่หนูอยู่เป็นบ้านที่ไม่อบอุ่น เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าสิ่งแวดล้อมที่ใกล้เด็กที่สุดเป็นตัวหล่อหลอมเด็ก เช่น ถ้าเด็กอยู่โรงเรียนประจำ โรงเรียนประจำนั่นแหละ คือสิ่งที่หล่อหลอมเด็ก ให้เขามีความสำนึกถึงศักดิ์ศรี หนูไม่เคยขอใครกิน เพราะหนูรู้สึกว่ายอมขายตัวมากกว่าที่จะไปขอใครกิน ที่บ้านจะปลูกฝังว่าห้ามขอใครกิน ต้องมีศักดิ์ศรีในตัวเอง ไม่ใช่ว่าเอะอะก็ให้การศึกษาตลอด ลองดูนักการเมืองสิ มีคนเก่งๆ คนฉลาดตั้งหลายคนมันยังโกงกินประเทศเลย การศึกษาไม่ใช่ตัวแปรแน่ๆ

แล้วการเพิ่มทุนการศึกษาล่ะ?
อืม(หยุด คิด) สำหรับบางคนก็อาจจะช่วยได้นะ แต่มันแค่ส่วนน้อยน่ะ ส่วนมากเขาก็เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยทั้งนั้น เพราะเงินมันมากเกินกว่าจะไปใช้ในเรื่องนี้ คนทำงานบางคนได้เงินเดือนหมื่นนึง แต่อย่างที่พวกหนูทำ สามวันก็ได้แล้ว หมื่นนึง สบายๆ มันเป็นการฟุ่มเฟือยมากกว่า
**************

ขาย ตัว ค่ะ จาก รักชั่วคราว สู่ รักมั่นคง
กรณีหนึ่งในล้านระหว่างผู้ขายกับลูกค้า

ตอน แรกก็ไม่คิดว่าเขาจะมาจริงจังกับคนทำงานอย่างนี้ แต่พออยู่กับเขาแล้วเรามีความสุข ประโยคดังกล่าวหลุดจากปากของวุ้น อดีตนักศึกษาขายบริการ หลังจากที่เธอนึกย้อนไปถึงวันวาน ในสมัยที่พบกับลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งรินเติมความรู้สึกดีๆ ใส่ลงมาในหัวใจเธออย่างสม่ำเสมอ แม้วัยจะห่างกันถึง 11 ปี อีกทั้งฝ่ายชายยังไม่ใกล้เคียงกับสเปกที่เด็กสาวตั้งขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย แต่การดูแลเอาใจใส่ ตลอดจนการยอมรับในตัวตน อดีต และสิ่งที่ดำรงอยู่ของเธอได้ ทำให้หัวใจที่เกือบจะปิดตายของวุ้นค่อยๆ แง้มอ้า

เขาบอกว่าจะไม่เปลี่ยนอะไรในตัวหนู หนูก็เลยโอเค ก็คบกันสบายใจ จนวันนึง หนูกลับไปทำงาน แล้วทำไม่ได้ หนูรู้สึกว่าเขาเป็นห่วง เขาเทกแคร์หนูเป็นเดือนๆ แล้ว ทำไมหนูยังทำงานนี้ หนูทำงานไปก็ร้องไห้ไป รู้สึกว่าทำไม่ได้แล้ว ก็เลยเลิกทำ

ปัจจุบัน วุ้นกลายมาเป็นเด็กนักศึกษาที่ใช้ชีวิต เรียนหนังสือ และอยู่กับคนรักด้วยความสุข หากใครสักคนเดินเข้าไปถามเธอเกี่ยวกับความรัก เด็กสาวที่ผ่านการระบายความกำหนัดจากผู้ชายมาแล้วนับไม่ถ้วนคนนี้จะตอบกลับ ไปด้วยรอยยิ้มและแววตาเป็นประกายว่า หนูเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริงค่ะ
******************

เสียงจาก คนเคยซื้อ ขาย ตัว ค่ะ
เมื่อ สาวนักค้าออกมาเปิดเผยความคิดและตัวตนกันไปแล้ว ก็ถึงคราวหนุ่มนักควักออกมาเผยวิธีตามหาคู่(ร่วม)รักชั่วข้ามคืน รวมถึงความสัมพันธ์ก่อนและหลังมีเซ็กซ์ และราคาค่างวดที่เขายินดีจะจ่ายให้

ยอดชาย หนุ่มวัยทำงานที่ยังไม่พร้อมจะมีคนรักเป็นตัวเป็นตน ชวนเพื่อนสนิทไปหาใครสักคนมาแก้เหงาในยามค่ำคืน สาวๆ ที่เขานิยมใช้บริการจะเป็นพวก ขายตรง วิธีเสาะหาก็ไม่ยาก แค่วนรถไปรอบๆ บริเวณที่มีหญิงนักค้ายืนเรียงรายให้เลือกสรร สนใจคนไหนก็เปิดกระจกพูดคุย ตกลงราคา แล้วก็เรียกขึ้นรถไปปฏิบัติภารกิจร่วมกัน

สถานที่ที่ไปวนรถก็แถวๆ สวนสาธารณะบ้าง โรงแรมบ้าง เคยใช้บริการอยู่ 7-8 คน คนไหนคุยดี ติดใจ ผมก็เมมเบอร์ไว้เป็นขาประจำแล้วนัดเจอกันอีก ค่าใช้จ่ายก็ราวๆ 500-1,500 บาท ราคานี้ไม่รวมค่าโรงแรมนะ

ซื้อ ง่ายขายตรง เป็นสิ่งที่ยอดชายพึงพอใจ เพราะได้เห็นรูปร่างหน้าตาแบบเต็มสัดส่วน และในหนึ่งเดือนเขาจะใช้บริการนี้ 2-3 ครั้ง

บางคน รู้ว่ามาทำเรื่องอย่างว่าก็ไม่ได้พูดคุยกันเท่าไร ไปถึงก็ที่ก็มีอะไรกันเลย แต่บางคนก็พูดคุยกันบ้าง สร้างความคุ้นเคยก่อนเล็กน้อย แล้วสาวๆ พวกนี้ก็จะมีลิมิตของเขานะ เช่น จะอยู่กับเราได้กี่ชั่วโมง ถ้าจะให้อมก็จะบอกว่าพี่หนูขอ 100 นึงนะ ขอเพิ่ม 200 นะ เราก็โอเคจ่ายไป แล้วถ้าคนไหนทำให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ผมก็จะทิปให้เธออีก

Hi5, Pirch, Camfrog ก็เป็นเว็บที่เขาใช้บริการอยู่ ซึ่งยอดชายเผยว่าเคยเห็นว่ามีคนขายบริการผ่าน Hi5 แต่เขาไม่กล้าติดต่อผ่านทางนั้น เพราะห่วงหน้าตาทางสังคม เนื่องจากต้องติดต่อคนในโลกอินเทอร์เน็ตเยอะ

Hi5 มีไว้ถามตอบเฉยๆ ส่วนใหญ่ผมได้เพื่อนใหม่จากการคุยส่วนตัวทาง Pirch กับ Camfrog คนไหนถูกใจก็ก็นัดเจอกัน กินข้าว ดูหนัง ลักษณะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่บางคนก็ได้ไปต่อที่โรงแรม อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน คือทางเน็ตเนี่ยผมไม่ได้ซื้อนะ ถ้าคุยถูกคอก็ไปกันต่อ ประมาณ 10 คนแล้วแหละ ไปด้วยกันแบบสนุกๆ แล้วก็แถมค่าขนมไปบ้าง

เราอยากรู้ว่าเขาเคยเจอตัว จริงที่ไม่เหมือนในรูปที่นำมาโชว์ไหม? ยอดชายตอบว่า มีบ้างที่ไม่ตรง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนความต่างระหว่างก่อนและหลังการร่วมรักกับผู้หญิงที่ไปเจอแถวสวนลุมกับ ที่เจอทางอินเทอร์เน็ต เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเพราะรู้เช่นเห็น หน้า กันอยู่ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ถ้าคุยสนุก อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็ยังติดต่อกันเรื่อยๆ

ความจริง ผู้หญิงไทยไม่ง่ายหรอก พฤติกรรมตรงนี้เป็นแค่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นส่วนน้อยของสังคม และผมห่างหายจากบริการทางเพศเป็นปีแล้ว แต่ถ้าเศรษฐกิจดีกว่านี้ ยุ่งน้อยกว่านี้ก็จะกลับไปใช้บริการอีก ขอใช้ตรงนี้เป็นที่ระบายเพราะไม่พร้อมจะมีใครเป็นตัวเป็นตน และไม่มีเวลาให้ ยอดชายกล่าวสรุป
******************

ขาย ตัว ค่ะ เปลี่ยนจาก e – ตัว เป็น e Commerce
เหรียญมี 2 ด้านฉันใด โลกไซเบอร์ก็มี 2 ด้าน อยู่ที่เราจะเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์ !!

วันนี้ ถ้าคุณยังไม่สามารถนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงก็ดูจะยากเกินไปสำหรับคนที่อยู่ในสังคมฉาบฉวยเช่นนี้ ถ้าคุณยังยืนยันที่จะหาเงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือซึ่งตกรุ่นเร็วกว่าการเข้า เทียบป้ายของรถประจำทาง อีกทั้งยืนยันว่าจะขอนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยขอออกแรงเพียงแค่เคลื่อนเมาส์ เขย่าลูกศรอยู่เช่นเดิม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด (wwwtaradcom) อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (wwwthaiecommerceorg) อาจารย์พิเศษและที่ปรึกษาสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ก็มีทางเลือกมาเสนอ

ง่าย ที่สุดเลยก็คือทำอีคอมเมิร์ซ มีวิธีการทำอยู่ 5 วิธี หนึ่งก็คือเราไปลงประกาศขายทั่วๆ ไป เช่นเรามีกล้อง มือถือ เราเอาข้อมูลพวกนี้ไปลงประกาศขายในอีคลาสิฟายด์ สองคือทำเป็นแค็ตตาล็อกขึ้นมา มีรูปภาพมีรายละเอียดมีราคาแต่ไม่สามารถสั่งซื้อบนเว็บไซต์ได้ สามเป็นอีเทรเลอร์หรืออีชอปก็คือเป็นร้านค้าเต็มๆ สั่งซื้อออนไลน์ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องโทรสั่งซื้อ สี่เป็นอีเบย์ (การขายแบบประมูล) ห้าเป็นอีมาร์เก็ตเพลสเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่

แบบ ที่สองที่น่าสนใจคือ Affiliate Marketing เรานำสินค้าที่ไม่ใช่ของเรามาประกาศขาย พอขายได้เราก็ได้ค่าคอมมิชชันเหมือนพวก amazoncom มีหลายๆ เว็บที่เป็นเหมือนตัวกลางเอาข้อมูลมาลงประกาศไว้ที่เว็บเราแล้วเมื่อมีการ คลิกผ่านเว็บไซต์เราแล้วเขาไปซื้อสินค้าชิ้นนั้นเราก็จะได้เงินด้วยเช่นกัน

ส่วน วิธีอื่นๆ ก็จะเป็นการโฆษณาไม่ได้เป็นอีคอมเมิร์ซแต่เป็นแอดเวอร์ไทซิ่ง เอาโฆษณาของสินค้ามาแปะไว้ที่เว็บเรา เดี๋ยวนี้มี Google AdSense ก็คือเอาโฆษณาของกูเกิลมาแปะไว้ที่เว็บไซต์เรา แล้วเมื่อใดก็ตามที่มีคนคลิกโฆษณาเราก็ได้เงิน

และ เมื่อวิวัฒนาการของผู้ใช้และผู้ให้บริการเว็บไซต์มาอยู่ในยุคที่เรียกว่า Web 20 มีการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเองมากขึ้น เกิดเป็นบรรดาบล็อกเล็กบล็อกน้อยมากมาย บล็อกเหล่านี้จะมีตัวช่วยคือ

โมเดล แอดเวอร์ไทซิ่ง คือทำตัวเองเหมือนเป็นเอเยนซีแล้วก็ไปหาเน็ตเวิร์กของกลุ่มเว็บต่างๆ พาสร้างเน็ตเวิร์กได้แล้วก็คุยกับเอเยนซีของลูกค้า เช่น เอเยนซีบอกว่าอยากลงโฆษณากับกลุ่มผู้หญิงก็จะดูว่าบล็อกไหนผู้หญิงเข้าเยอะ คือจากเดิมที่เป็นผู้ให้บริการคนเดียวตรงนี้ก็เหมือนว่าอยู่เป็นเหมือน เอเยนซี เป็นคนดูแลภาพรวมทั้งหมด คุยกับลูกค้าโดยตรงว่าอยากได้อะไร
*******************

ขาย ตัว ค่ะ ขายตัวผ่านเว็บ แก้ได้อย่างไร?
นอกจากเป็นช่องทางทำกินแบบสุจริตดังที่กล่าวมาแล้ว อินเทอร์เน็ตก็ยังเป็นช่องทางของการติดต่อซื้อขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย เช่นในกรณีนักศึกษาขายตัวผ่านเว็บไซต์ hi5com ด้วย ซึ่ง ภาวุธ ก็ขอใช้ประสบการณ์ในการแสดงทัศนะ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบรรเทาปัญหานี้ด้วยอีกแรง

วิธี ป้องกันพูดได้เลยว่า คงไม่ได้อยู่ที่ระบบต้องมานั่งมอนิเตอร์ตรวจดู แต่สิ่งหนึ่งที่จะเป็นไปได้คือถ้าผู้ใช้เจอก็ช่วยแจ้งเพราะตอนนี้กระทรวงไอ ซีทีจะมีการรับแจ้งเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ถ้าทุกคนช่วยกันแจ้งผมว่าก็น่าจะลดลง อย่างที่สองคือการเอาจริงเอาจังของภาครัฐ เมื่อก่อนมีของ Camfrog พอรัฐบาลบอกเอาจริงทุกคนเริ่มตื่นกลัว เจ้าของห้องจากที่เมื่อก่อนปล่อยให้คนแก้ผ้าเต้น พอมีคนจะแก้ผ้าเต้นก็มีการห้ามกันเอง คือมันจะเริ่มมีลิมิตเริ่มมีวิจารณญาณ และต้องมีการสั่งการจริงจังว่าถ้าคุณทำคุณจะต้องรับโทษอะไรให้ชัดเจน

ถ้า โยนกลับไปสังคมครอบครัวต้องทำ ต้องยอมรับก่อนว่ามันเป็นอย่างนี้ อยู่ๆ จะให้พ่อแม่ทุกคนมาใส่ใจดูแลกันมากขึ้นมันเปลี่ยนพฤติกรรมเขา แต่นี่คือทางออก ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่เห็นทางออกภายในวันนี้พรุ่งนี้ อย่าง Camfrog นี่เห็นชัดตอนนั้นตำรวจจับให้เห็นเลย ลงโทษให้เห็น จับปรับนั่นแหละชัวร์สุด ก็ต้องพยายามร่วมมือกับทาง hi5 ร่วมมือกับต่างประเทศ ถ้าเจอปุ๊บให้ปิดเลย บล็อกแล้วจับให้เห็นเลยว่าเขาขายบริการ ไม่ใช่ปล่อยไปอย่างนี้กลายเป็นว่าเขาก็ทำกันไปได้เรื่อยๆ

คง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญกระมัง ที่ทางออกจากปัญหาดังกล่าวของอดีตนักศึกษาขายบริการกับที่ปรึกษาสมาคมผู้ดู แลเว็บไทยจะเป็นช่องทางที่แทบจะเรียกได้ว่า ประตูบานเดียวกัน เช่นนี้
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์

5 thoughts on “ขาย ตัว ค่ะ”

  1. หายตัวค่ะ
    โทร 086606494xจ
    โทรมานะคะ คุณผู้ชาย
    ในกรุงเทพค่ะ ต้องเงินด่วน เดือดร้อนค่ะ
    ชอบอมชอบเอาค่ะ

  2. ผู้หญิง ขายตัว
    “ฉันคือเอรี่” ผู้หญิง “ขายตัว” ตอนที่ 2
    บทสัมภาษณ์ “ธนัดดา สว่างเดือน” หญิงวัย 42 ปี เจ้าของรางวัลชมนาด จากผลงานเรื่อง “ฉันคือเอรี่ กับประสบการณ์ข้ามแดน” เกี่ยวกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องไปขายตัวถึงเมืองนอกซึ่งเรื่องราวใน หนังสือคือชีวิตจริงที่เธอประสบมาและไม่อยากให้เด็กวัยรุ่นเลียบแบบและเลือก ชีวิตแบบเธอ อยากให้เรื่องที่เขียนเป็น อุทาหรณ์สอนใจ แม้จะเป็นเรื่องราวในมุมมืดที่ไม่ค่อยมีใครยอมรับ แต่อยากให้ผู้ปกครองแนะนำให้ลูกอ่าน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากพูดถึงอยากเล่าอยากบอกคนอื่น เพราะมันเป็นเรื่องที่จี้ใจรู้สึกผิดทุกครั้งที่นึกถึงมัน คิดแค่ว่าได้เขียนระบายความรู้สึก แต่ตอนนี้คิดว่าถ้ามีพ่อแม่ที่มีลูกในวัย ม.2-ม.3 สามารถเอาหนังสือไปให้ลูกเขาอ่านแล้วสอนลูกได้ว่า ถ้าลูกของเขาเลือกชีวิตอย่างเรา ไม่สนใจการเรียน ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ มีแฟนในวัยเรียน เลือกอาชีพขายบริการผลก็ต้องออกมาอย่างในหนังสือ ต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้าย ต้องเจออะไรที่รออยู่ข้างหน้าบ้างครั้งเกือบเสียชีวิต และเป็นอุทาหรณ์สอนพวกเขาได้

    “ธนัดดา”เริ่มเล่าย้อนชีวิตในวัยเด็กของเธอจากเด็กนักเรียนสู่เส้น ทางการขายตัวที่ไม่อยากให้เด็กๆเยาวชนที่กำลังเดินทางผิด พบชะตากรรมเดียวกับเธอได้ฉุกคิด มีสติ ไตร่ตรอง เพราะเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ล้วนเป็นเรื่องราวที่ไม่ควรมีใครเอาเป็นเยี่ยง ย่าง แต่มันเป็นการสัะท้อนผลของการกระทำจะดีหรือเลวอยู่ที่ตัวเองจะเลือกแบบไหน

    “บางทีมีคนมาถามว่าทำไมต้องมาทำอาชีพขายตัว ทำไมไม่เลือกอาชีพอื่นที่สุจริต ก็เพราะตนเลือกอาชีพนี้แล้วตอนนี้ก็ได้ผลอยู่ที่ตัวเองแล้ว” ประโยคเริ่มต้นที่เธอกล่าว ก่อนจะให้เหตุผลว่าเพราะเคยไปทำงานกินเงินเดือนมาแล้วอยู่ในองค์กรที่ดูดี หรูหรา แต่คนมันเหมือนกันหมด มีรักโลภ โกรธหลง คือ มองเราแค่พฤติกรรม แต่เขาไม่ได้มองถึงจิตใจเคยได้ไปสัมผัสกับคนที่ทำงานดีๆ มาแล้วหลายๆ อาชีพ สุดท้ายแล้วก็คิดว่าความเป็นคนมันเหมือนกัน มองในมุมที่ว่าคนที่ชอบไปแย่งผัว แย่งเมียเขา คนมักจะคิดว่าคนที่ทำงานเป็นผู้หญิงกลางคืนเป็นพวกบาป ที่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก

    “แต่พอได้ไปทำงานตรงนั้น รู้สึกว่าผู้หญิงที่ไปยุ่งกับลูกกับผัวเขา คือ ผู้หญิงดีๆทั้งนั้นเลย นี่คือมุมมองความคิดของดิฉัน คนอื่นฉันไม่รู้ อย่างผู้ชายที่มาเที่ยวผู้หญิงหาเงินแค่จ่ายเงินก็จบกัน แต่ถ้าเขาไปติดผู้หญิงที่ไม่ใช่ผู้หญิงบริการ มันต้องมีการเลี้ยงดูส่งเสียกัน อีกฝ่ายก็ไม่ยอมฉันเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ มันเลยกลายเป็นปัญหาเมียน้อย เมียหลวง ซึ่งอีกมุมหนึ่งคนก็จะมองว่าผู้หญิงกลางคืน คือ ผู้หญิงไม่ดี ชอบทำให้ครอบครัวเขาร้าวฉาน พาสามีฉันไปสำมะเลเทเมา จริงๆ แล้วคนเราเหมือนกันหมดอยู่ที่นิสัยสันดาน เพราะฉันเคยเจอคนระดับหัวหน้าเขาก็มีสามี แต่เขาก็มายุ่งกับคนในระดับเดียวกันเห็นภาพที่มันลามกมาก เขาทำได้ยังไง พอตกตอนเย็นสามีก็มารับกลับบ้าน ฉันเป็นคนชอบศึกษาคนว่าคนเราเป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้จะแบ่งแยกอะไรกันหนักหนาไม่นานก็ตายกันแล้ว”

    ธนัดดา เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กของเธอว่า อยู่ในครอบครัวที่เมื่อก่อนจะคิดว่าพอมีพอกิน แต่พอโตขึ้นมาไม่ใช่อยู่ในครอบครัวที่ยากจน คุณพ่อทำงานเป็นช่างไม้เฟอร์นิเจอร์ และมีภรรยาน้อย เมื่อก่อนแม่ทำงานโรงทอผ้า สมัยเด็กๆ มีพี่น้อง 4 คน ธนัดดาเป็นลูกคนสุดท้อง เด็กๆชอบไปอยู่กับปู่กับย่าเพราะจะมีเงินให้ไปโรงเรียนให้ซื้อขนมซื้อข้าว กิน จึงลดภาระให้พ่อกับแม่ไปได้บ้าง พอโตขึ้นก็มีความรู้สึกว่าบ้านเรามันจนนะ พ่อก็ไปทำงานที่ต่างประเทศ(ซาอุดิอาระเบีย)ต้องจำนอง จำนำที่ดิน สุดท้ายที่ดินเราก็ถูกโกงไป เราก็เร่ร่อนหนักกว่าเดิมแล้ว เพราะไม่มีที่อยู่ต้องไปเช่าบ้าน ไปขออาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง พอเรียน ม.3ไปชอบผู้ชายคนหนึ่งเป็นญาติพี่น้อง นั่นคือ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ตนมีวันนี้

    “ตอนนั้นอายุประมาณ 16-17 ปี และไปได้เสียกันครั้งแรก ครั้งเดียว แล้วก็ท้องแถมยังติดโรค(ซิฟิลิส)มาด้วย ทำให้มองย้อนว่าเราทำงานเป็นอาชีพขายบริการมาเป็นเวลา 20 ปี ถึงแม้ไม่ได้ขายต่อเนื่องในขณะนั้น แต่ไม่เคยติดโรคเลยจากการทำงาน แต่สามีครั้งเดียวทีเดียวติดโรคซิฟิลิสมาด้วย ถามว่าวันนั้นเสียใจมั้ย ไม่เสียใจ แต่ตอนนี้ เสียใจมาก ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ตอนนั้นเรียบจบ ม. 3 พอดี แล้วไปสอบเข้าเรียนใหม่และสอบติดแต่ มีปัญหา 2 อย่าง คือ ท้อง ไม่มีเงินเรียนต่อ ขนาดเรียน ม.3 ยังติดค่าเทอมโรงเรียนไว้ถ้าไม่ไปจ่ายก็ไม่ให้จบ เป็นอะไรที่แย่มาก”

    ระหว่างที่ท้องลำบากมากทำแท้งมา 4 ครั้ง เพื่อจะเอาเด็กออกเพราะอยากกลับไปเรียนต่อ แต่ว่าทำ 4 ครั้งก็ไม่ออกเลย ครั้งล่าสุดเด็ก 4 เดือนแล้ว สุดท้ายก็ไม่ทำเลยต้องปล่อยไป เพราะเราทนไม่ได้มันเจ็บมาก หลังจากนั้นก็คลอดลูกออกมา แต่สามีก็เป็นญาติพี่น้องกัน คือ เป็นลูกของอาเราใช้นามสกุลเดียวกัน เรามาได้เสียกันเองมันเป็นอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน”

    “เพราะเราไม่ได้รับความคิดจากญาติพี่น้องและมีครอบครัวที่อบอุ่น พอได้สามีมาก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่กระตือรือร้นที่จะทำงาน เพราะยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่ คลอดลูกออกมาก็รู้สึกลำบากมาก ตนก็ไปทำงานก่อนที่จะขายบริการก็ไปทำงานมาหลายอย่างแล้ว รับจ้างล้างจาน , รับจ้างทำความสะอาดบ้าน คือ ทำอะไรก็ได้ในความคิดของเด็กที่ต้องหาเงินให้ได้ พอคลอดลูกมาได้เดือนกว่าๆไปเป็นพนักงานขายในห้างแห่งหนึ่ง ยืนขายของทั้งวัน ตอนนั้นน้ำนมยังไม่หมดก็ไหล เป็นอะไรที่ทรมานเงินก็ไม่มี ตอนนั้นได้เงินเดือน 3,000กว่าบาท ก็ไม่พอซื้อนมให้ลูกสามีก็ไม่สนใจเพราะแฟนไปอยู่บ้านเขา จนสุดท้ายงานหมดมีแค่ 3 เดือน กลุ้มใจไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกแม่ก็ยากจน บ้านก็ต้องเช่า พ่อก็ไปทำงานที่ต่างประเทศ”

    เพื่อนมาชวนว่าไปทำงานที่พัทยาบอกว่าจะได้ เดือนละ 5 พันบาท ไปเป็นบาร์เทนดี้คอยเสิร์ฟคอยชงเหล้า เห็นว่าเป็นงานดี งานสบายเลยไป โดยไม่รู้เรื่องโลกภายนอก ว่า ผู้หญิงกลางคืนเขาเป็นแบบไหนโสเภณีเป็นอย่างไร จนไปถึงพัทยา เพื่อนพาไปทำงานเหมือนเป็นการนั่งตู้ตามที่เขียนในหนังสือ เขาจะติดเบอร์กัน นั่งอยู่ 4 วันก็ไม่มีใครเลือกนั่งรอคนเดียวจนปิดร้าน มีผู้หญิงเกือบ100 คน ในตู้รอให้แขกมาเลือกไป ทุกคนในตู้ไม่เคยคุยกับเพื่อนรอบข้างเลย แต่เพื่อนที่มาด้วยกันถูกแขกออฟออกไปแล้ว เหลือฉันคนเดียว 4 วันต้องเดินมาทำงานก็ไปอาศัยอยู่กับใครไม่รู้ซึ่งเพื่อนเอามาทิ้งไว้ที่ พัทยา เหลือเงินอยู่ 4 บาท หิวข้าว เงินก็ไม่มี ค่ารถกลับบ้านก็ไม่มีทำไงดี ด้วยความที่เราก็ไม่ได้ถามคนรอบข้าง เห็นแต่แขกออฟออกไป ไปนั่งห้องคาราโอเกะชงเหล้ากัน

    นั่นคือความคิดของตนว่า ถ้ามีแขกเลือกเราเดี๋ยวเราต้องไปนั่งทำงานอย่างนั้น เดี๋ยวเราจะได้ทริป ได้เงินเดือน คือ คิดแค่นั้น แล้วสุดท้ายแขกก็พาไปโรงแรมหลังเจ๊แกช่วยดันให้แขกเป็นไกด์ชาวญี่ปุ่น ตอนนั้นรู้ตัวแล้วว่ามันต้องขายตัวแน่ ในลักษณะนี้เราก็เลยคุยกับแขกสองคนเลยว่า “พี่หนูไม่เคยทำงานแบบนี้ปล่อยหนูไปได้ไหม” ไม่เคยทำงานแล้วมาได้ไงแขกถาม ก็บอกไปว่าเพื่อนหลอกมา แขกก็ให้เงินมา 4 พันบาท เขาสงสารแล้วบอกว่าให้กลับบ้านไปเลยซื้อนมให้ลูกแล้วไม่ต้องกลับมาพัทยาอีก นะ” ตอนนั้นน้ำนมไหลออกมาพอดี

    จากนั้นจึงได้เกิดความคิดโลภขึ้นมาว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเราไม่ได้ทำ อะไรเลยได้เงิน 4 พันบาท ถ้าทำงานต่อไปเราเก็บเงินสักหน่อย ก็หาเงินซื้อนมให้ลูกทำสัก 2-3เดือน แล้วค่อยเลิก จึงตัดสินใจทำงาน เพราะถ้ากลับมากรุงเทพไม่รู้จะทำงานอะไร ความรู้ก็แค่ ม.3 บ้านก็ยังต้องเช่า คิดอย่างเดียวต้องมีบ้านให้พ่อแม่อยู่จึงยอมทำ ตอนนี้เริ่มยอมรับสภาพ แขกคนแรกเป็นผู้ชายไทยและได้ทำงานกับต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง แขกคนที่ 2 ก็ยังเป็นคนไทยเขาเป็นไกด์ คือ ต้องไป เพราะถูกบังคับจากทางร้านจริงๆแม่จะไม่ชอบไปกับคนไทย ทั้งชีวิตขายตัวนอนกับผู้ชายไทยแค่ 2 ครั้ง ไม่เคยทำงานกับคนไทย แล้วก็ไม่ทำด้วย กลับมาอยู่กรุงเทพอีกครั้งหลังจากที่ทำงานที่พัทยาอยู่ 8 เดือน มีแขกเลี้ยงอยู่ 5-6เดือน ไม่อยากขายตัวแล้ว จึงไปขายบุหรี่ รับจ้างได้ซองละ 5 บาท ขายไปรู้สึกไม่พอใช้ได้วันละ 100 กว่าบาท จึงได้ลองขายเทป ได้วันละ 200-300 บาท ได้มาขึ้นมาหน่อยรู้สึกยังไม่พอใช้อีกเอาเงินไปเที่ยวเล่นกับพวกแก๊ง ซิ่งมอเตอร์ไซต์ เพราะเคยได้เงินมากก็เลยเลิก

    บังเอิญมีคนมาติดต่อว่าให้ไปทำงานที่ฮ่องกง บอกว่าเงินดีเลยตอบตกลง เขาไม่ได้บอกเงื่อนไขว่าต้องไปทำงานเท่าไหร่ ใช้หนี้เท่าไหร่ เราไม่รู้ไปอย่างเดียว เขาพูดกันว่าแขกเยอะวันละ 40-50 คน คิดว่าไม่ไหวแน่ เพราะไม่เชื่อว่าใครจะรับได้วันละ 40-50 คน คิดว่าเขาหลอกเพื่อทดลองความกล้า พอไปถึงฮ่องกงเป็นจริง ลงจากเครื่องก็เรียกไปทำงานเลย วันแรกรับแขก 2 คน อีกวันทนไม่ไหวขอกลับบ้านแล้วเพราะเหนื่อยจริงๆ ได้ยินคนไทยเขาคุยกันว่าได้แขกกี่คน คนหนึ่งบอก 30 อีกคนบอก 40 ตกใจมากเลยอยากกลับบ้าน แต่คนพามาบอกว่าไม่ได้มาแล้วต้องทำงานใช้หนี้ก่อนไม่งั้นกลับบ้านไม่ได้ จึงยอมทำไปทำเท่าที่เรารับได้แล้วกัน แต่ไม่เคยถึง 40-50เหมือนเขาว่ากัน ถามเพื่อนว่าได้เท่าไหร่ แล้วเเขาก็จะปั่นรอบแข่งกัน

    “การทำงานแค่ 20 นาที ไม่มีการเปลื้องผ้าแค่ถลกกระโปรง วิ่งทำรอบตามตึก ถ้าเกินเวลา 20 นาที ชาร์จอย่างเดียวแขกจะเสร็จหรือไม่เสร็จไม่รู้ถ้าเกินต้องจ่ายเพิ่มเท่านั้น สุดท้ายทำงานใช้หนี้ 8 วันก็หมดใน 150 คน ซึ่งเราไม่ได้อะไรเลย จนต้องโกงเงินเฮียโดยฮั้วกับคนกลางว่าถ้าทำได้ 30 คนให้บอกว่า 20 คนแล้วมาแบ่งกัน จึงมีเงินเก็บเป็นแสน แล้วเดินให้ตำรวจจับเลย เพราะอยากกลับเมืองไทย แต่กลับบ้านมาได้เพราะไม่มีตั๋วเครื่องบิน ได้เงินเงิน 70,000-80,000 บาท ดีใจมากเลย อายุ 17-18 ได้เงินขนาดนี้เอามาให้พ่อแม่อยู่เมืองไทยไม่เกิน10 วันเงินหมด

    หลังจากนั้น มีคนมาติดต่อไปญี่ปุ่นตัดสินใจไปชวนเพื่อนจากพัทยาที่อยากไปต่างประเทศไปกัน 7 คน ไปญี่ปุ่นก็เจอปัญหามากมายไปอยู่กับแก๊งยากูซ่า บรรยากาศมันใช่แบบที่เราเห็นความเป็นอยู่ที่เห็นก็ไม่ใช่ มันแตกต่างกันมากมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เราเห็นในละครหรือภาพยนตร์ที่เขา นำแต่มุมดีดีมาฉาย ที่ญี่ปุ่นหาเงินง่ายมากขายตัวใช้หนี้กัน 5-8 แสนบาทเวลาประมาณ 2-3 เดือนก็หมดแล้ว จากนั้นไม่คิดทำอะไรแล้วกินน้อยเที่ยวเล่น ติดเพื่อนชักจูงกันไปมาก็ไปติด ยาเสพติด ติดผู้ชาย ติดการพนัน หาได้เท่าไหร่ก็หมดไปกับการพนันหมด หนังสือเล่มนี้จะสอนให้คนเรามีสติ ถ้ามัวแต่หลงระเริงจะไม่เหลืออะไรเลยเช่น “ธนัดดา” ได้มาง่ายก็จ่ายง่ายชีวิตไม่มีอะไรดีเลย

    ในตอนต่อไปจะเล่าถึงการใช้ชีวิตในแดน ปลาดิบกับแก๊งยากูซ่าชีวิตสุขสบายไม่ต้องทำงานทำอะไรแต่จบลงด้วยเลือดกลบปาก ฟันหลุดกระเด็น นอนคุก ติดยา เพราะเลิกอาชีพโสเภณีและนิสัยเกเรไม่ได้
    ที่มา ฉันคือเอรี่ ผู้หญิง ขายตัว

Leave a Reply