การ์ตูนลามกเหตุวัยรุ่นเสียสาว

การ์ตูนลามกเหตุวัยรุ่นเสียสาว
พบการ์ตูนลามกต้นเหตุวัยรุ่นเสียสาวอายุแค่14ปี
สื่อการ์ตูนลามกเป็นมูลเหตุให้วัยรุ่นเสียสาวสูงสุดร้อยละ
72 เด็กเมืองกรุงมีเพศสัมพันธ์แล้วเฉลี่ยอายุ 14 ปี ม.1-6
มีแล้วกว่าร้อยละ 7
สธ.เปิดวิจัยพฤติกรรมวัยรุ่นยุคดิจิตอลน่าเป็นห่วงยิ่ง
เฉพาะค่านิยมวันวาเลนไทน์มอบความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์กัน
จัดกิจกรรม “รวมพลังเยาวชนไทย
ร่วมใจป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์” 14 กุมภานี้

วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันวาเลนไทน์
แต่วัยรุ่นไทยบางกลุ่มตีความค่านิยมวันนี้ว่า
เป็นวันแสดงออกซึ่งความรักโดยการมีเพศสัมพันธ์กัน
นับเป็นค่านิยมที่อันตรายมาก วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายพินิจ จารุสมบัติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์
บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข
และนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค
ร่วมกันแถลงข่าวถึงมาตรการการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์
ในวันวาเลนไทน์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ขณะนี้ปัญหาพฤติกรรมทางเพศในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนไทยในยุคดิจิตอลนี้
ถือเป็นปัญหาสังคมในระดับวิกฤติ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอสด์มากกว่าคนกลุ่มอื่น
และเริ่มขยายวงกว้าง เพราะมีปัจจัยต่างๆ
เข้ามากระตุ้นให้วัยรุ่นและเยาวชนมีความเป็นอิสระ
และมีพฤติกรรมทางเพศแบบเสรีมากขึ้น

“ผลการวิจัยหลายชิ้นยืนยันตรงกันว่า
วัยรุ่นและเยาวชนสมัยนี้รับรู้สื่อทางเพศตั้งแต่วัยเด็ก
เพราะได้รับอิทธิพลจากสื่อแขนงต่างๆ
โดยผลสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงล่าสุดช่วงกลางปี 2548
ในกลุ่มเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียน
50 แห่งใน กทม. 3,000 คน ของกรมควบคุมโรค ปรากฏว่า 7.3%
เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว
ช่วงอายุที่มีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นอยู่ระหว่าง 13-15 ปี
เฉลี่ย 14.66 ปี หรือเสียตัวก่อนทำบัตรประชาชน” นายพินิจ
กล่าวและว่า

มูลเหตุที่ทำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กัน
มาจากการอยู่ตามลำพังสองต่อสองมากถึง 80% รองลงมาได้แก่
การอยากลอง 61% อยากสนุก 45% กลัวแฟนไม่รัก 41%
จากการดูสื่อปลุกเร้าอารมณ์ 40%
สื่อปลุกเร้าทางเพศที่เด็กวัยรุ่นได้รับมากอันดับ 1 ได้แก่
หนังสือการ์ตูน 72% รองลงมาได้แก่ วีดีโอ/ดีวีดี
อินเตอร์เน็ท ภาพโป๊ โฆษณา โทรศัพท์มือถือ ปาล์ม
และเซ็กส์โฟน ปัญหาที่สำคัญตามมาคือ
การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง บางคนคบกันแค่ 2
เดือนก็มีเพศสัมพันธ์กัน คบกัน 4-5 เดือนก็เลิกกัน

“ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ผลจากการมีเพศสัมพันธุ์ในวัยเรียน
ทำให้มีแนวโน้มเข้าสู่อาชีพขายบริการทางเพศผ่านทางเว็บไซต์
ตามร้านตัดผม บนรถไฟ และการขายบริการที่พิสดารกว่านั้นคือ
การขายบริการบนรถตู้
มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าขณะที่รถตู้กำลังวิ่ง” นายพินิจ
กล่าวและว่า

ขณะที่อัตราการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยรุ่นมีน้อยมากเพียง
15-35% เนื่องจากเข้าใจว่าเพื่อนหรือคนรู้จักน่าจะไม่มีโรค
ทำให้เสี่ยงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์
และการตั้งครรภ์ ในรอบ 21 ปีมานี้
มีวัยรุ่นป่วยเป็นโรคเอดส์ไปแล้ว 35,145 ราย
จึงต้องเร่งจัดมาตรการสร้างค่านิยมเรื่องเพศให้วัยรุ่นไทย

นายพินิจ กล่าวต่อว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้
กระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรม “รวมพลังเยาวชนไทย
ร่วมใจป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์”
เพื่อกระตุ้นให้วัยรุ่นตระหนักถึงพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม
ปลอดภัย และเปิดโอกาสให้วัยรุ่นเข้ามามีส่วนร่วมคิด
ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นปีแรก

เพราะวันวาเลนไทน์
แท้จริงแล้วเป็นเทศกาลที่จะแสดงออกถึงความรักทุกวัย
ความปรารถนาดีต่อกันที่ครอบคลุมถึงความกตัญญูต่อพ่อแม่
ครอบครัว ครู/อาจารย์ รวมถึงความรักต่อประเทศชาติ
วัยรุ่นที่ตีความว่าวันแห่งความรักเป็นเรื่องของวัยรุ่นเท่านั้น
ถือว่าเป็นการเข้าใจผิด
หรือรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้ในทางที่ผิด
ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า
จากข้อมูลการสำรวจค่านิยมทางเพศและพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนอายุ
15-24 ปี เขต กทม. ในวันวาเลนไทน์ปีที่ผ่านมา
พบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์ทั้งกับแฟน/คนรัก
เพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนต่างสถาบันศึกษา
และคนแปลกหน้าตามสถานบันเทิงแล้วถึง 29%
นิยมมีคู่นอนประจำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 24%
และที่สำคัญตั้งใจมีเพศสัมพันธ์ในวัน วาเลนไทน์ถึง 8%

นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า
จากการวิเคราะห์ทิศทางและแนวโน้มของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
พบในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-24 ปีเพิ่มขึ้น ในปี 2546
มีผู้ป่วย 10,000 ราย ในปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็น 13,000
รายหรือเพิ่มขึ้น 30%
ชี้ชัดว่าโรคเอดส์อาจกลับมาทวีความรุนแรงได้ในอนาคตและเกิดขึ้นกับเยาวชน

กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ
เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนอย่างถาวรให้เยาวชนมีแนวคิดในการป้องกันตนเอง
ไม่ดำเนินชีวิตตามกระแสแฟชั่นนิยม
โดยให้ระดับพื้นที่ทำงานเป็นเครือข่ายเชิงรุกอย่างจริงจัง
เป็นรูปธรรม
กระตุ้นให้มีการจัดตั้งกลุ่มชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน
ส่งเสริมให้เยาวชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น
และให้สถานบริการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่เป็นมิตรกับเยาวชน
เปิดสายด่วนให้คำปรึกษา
ขยายการติดตั้งเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยในจุดที่เหมาะสม
ซึ่งดำเนินการแล้วประมาณ 5,000 เครื่องในราคา 3 ชิ้น 10
บาท และส่งเสริมให้ภาคเอกชนดำเนินการเพิ่มเติมอีก
คาดว่าจะติดตั้งเพิ่มอีกจำนวนมาก

ด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
กิจกรรมที่รณรงค์ในปีนี้ มี 2 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่
โครงการเยาวชนไทย สมองใส หัวใจสะอาด ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่
9-10 กุมภาพันธ์ ที่สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน
มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา โดยจะมีเยาวชนอายุระหว่าง
14-21 ปี กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา 252
คนมาเข้าค่าย เพื่อให้ได้เรียนรู้
ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม
รู้จักวิเคราะห์จัดการปัญหาอย่างมีเหตุผล
ป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์
หลังจากนั้นจะมีการติดตามผล
และประสานกับอาจารย์เพื่อให้รวมกลุ่มจัดตั้งชมรมนิสิต
นักศึกษาต้านภัยเอดส์
ช่วยกันทำกิจกรรมในสถาบันศึกษาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
2549 ซึ่งจะจัดขึ้นที่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์
รัชโยธิน กทม. โดยขบวนคาราวาน “รวมพลังเยาวชนไทย
ร่วมใจป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์”
ประกอบด้วย รถสามล้อ 9 คัน และพริตตี้หนุ่มสาววัยใส
ประชาสัมพันธ์ไปตามถนนสายต่างๆ
เชิญชวนเยาวชนและวัยรุ่นเข้าชมนิทรรศการและร่วมงานดังกล่าว

Leave a Reply