เกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย

เกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย
HaveEverything 18 ม.ค. 2553, 22:57:17
ตอนนี้ผมอายุได้16 ปีจะ 17 ในเร็วๆนี้แล้ว
ทราบๆกันว่าอวัยวะเพศชายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอีกชั้น
ก็คือพลิออกมา(ก็คงรู้ว่าคืออะไรกันนะครับ)

ก็คือตอนนี้ผมอายุก็ปานนี้แล้ว มันยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเหมือนกับคนอื่นเลยอะครับ
เพื่อนๆผมเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงกันตั้งแต่ประถมแล้วครับ
ทำอย่างไรดี (พอจะมีหมอที่สามารถช่วยได้รึเปล่า)
ขอบคุณครับ !!

ต้นหลิว 18 ม.ค. 2553, 23:30:45
ปัญหาประการหนึ่งในทารกเพศชายขณะที่เติบโตขึ้นมา
และเกิดอาการปัสสาวะลำบาก หรือการอักเสบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุเป็นเพราะหนังหุ้มอวัยวะเพศไม่เปิด
มีการสะสมของสารที่หลั่งออกมาอยู่ภายใต้หนังที่หุ้มปิด
ทำให้เกิดการหมักหมม เกิดมีกลิ่นเหม็น ลักษณะเหมือนอุจจาระที่เปียกน้ำ
ทำให้บางคนเรียกว่า ขี้เปียก

ขี้เปียก (smegma) เป็นคราบขาวๆ คล้ายแป้งเปียก
พบอยู่ที่บริเวณหัวของอวัยวะเพศที่มีหนังหุ้มคลุมไว้
เป็นส่วนผสมของเซลล์ที่ตายแล้วและมูกเมือกซึ่งมักจะติดอยู่บริเวณคอคอดใต้
ผิวหนังองคชาติ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
เมื่อผสมกับนํ้าเมือกจากต่อมต่างๆ และ
เหงื่อไคลที่อยู่บริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศชายแล้ว
จึงทำให้ขี้ไคลบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเปียกชื้น
ขี้เปียกมีกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้

เส้นสองสลึง (frenulum) เป็นเส้นเอ็นเล็ก ๆ ที่ยึด
ระหว่างส่วนปลายของอวัยวะเพศชาย กับหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
ซึ่งเส้นนี้โครงสร้างทางกายวิภาคจะเหมือนกับเส้นที่อยู่ใต้ลิ้น
บางคนเส้นสองสลึกอาจจะตึงมาก ทำให้เวลาที่มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
หรือสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมากไป
อาจจะทำให้เส้นสองสลึงฉีกขาดจนเลือดออกได้

การ ที่สามารถรูดหนังลงมาได้ก็เนื่องจากกลไกในการเจริญเติบโตของร่างกาย
และการฝึกดูแลตั้งแต่เด็ก ๆ เช่นผู้ปกครองค่อย ๆ สอนให้ลูกทำความสะอาด
พยายามรูดลงมาทีละนิด ๆ ทำบ่อย ๆ เป็นประจำ
ก็จะทำให้รูเปิดของหนังหุ้มปลายค่อย ๆ กว้างขึ้น
จนทำให้สามารถรูดพ้นบริเวณหัวของอวัยวะเพศได้
จากการศึกษาพบว่าในทารกแรกเกิดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายจะหุ้ม
ไม่เปิดร่นออกมา มีเพียงร้อยละ 4 ของความยาวองคชาติเท่านั้นที่สามารถเปิดร่นได้
และจะค่อยๆ เปิดร่นขึ้นมาเอง เมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ
จะเปิดร่นได้ประมาณร้อยละ 80 เมื่ออายุ 6 ขวบ
จะเปิดร่นได้ร้อยละ 90 และเมื่ออายุ 17 ปี จะมีหนังหุ้มปลายเปิดร่นได้ร้อยละ 97-99

การขลิบหนังหุ้มปลายในเด็กแรกเกิด
1. โดย ปกติในเด็กแรกเกิด อวัยวะเพศชายจะมีหนังหุ้มปลายห่อหุ้มมิด
มีรูเปิดออกมาเล็กน้อยให้ปัสสาวะออก ได้
และเมื่ออายุมากขึ้นจะสามารถถลกได้มากขึ้น
2. การขลิบหนังหุ้มคือการเอาหนังหุ้มนี้ออกมาเสีย
โดยเด็กต้องมีสุขภาพแข็งแรงหลังคลอด พ่อแม่ต้องเข้าใจถึงเหตุผลในการทำผ่าตัด
ควรปรึกษาและรับคำแนะนำจากแพทย์ให้เข้าใจเสียก่อน
3. ในเด็กประมาณร้อยละ 50 ในสหรัฐอเมริกาอเมริกาผ่านการทำการขลิบ
แต่ตัวเลขในเอเชียและยุโรปน้อยกว่านั้นมาก ยกเว้นในประเทศอิสลาม
ซึ่งการขลิบเป็นตามหลักศาสนา
4. เวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ ช่วง 2-3 สัปดาห์หลังคลอด
แพทย์บางท่านอาจแนะนำให้ทำใน 10 วัน เพราะเมื่ออายุมากกว่านี้
อาจจะทำยาก และการดูแลแผลจะไม่ดีเท่าที่ควร
ส่วนใหญ่การขลิบจะทำหลังคลอดไม่นาน ถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย
5. การศึกษาพบว่าเด็กที่ขลิบมีการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะน้อยกว่า
อย่างชัดเจนถึง 10 เท่า พบว่าผู้ที่ไม่ขลิบเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศมากกว่าเล็กน้อย
แต่ข้อมูลยังไม่มากพอที่จะแนะนำให้ทำในเด็กทุกคน
เพราะการเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศ ปกติก็มีคนเป็นน้อยมากๆอยู่แล้ว
6. การผ่าตัดในเด็กมีผลข้างเคียงน้อย แต่ยังมีได้ประมาณร้อยละ 0.2-3 เช่น
เลือดออก บวม หรือติดเชื้อ ทีสำคัญคือเจ็บ แม้เด็กจะบอกไม่ได้
แต่แพทย์หลายท่านจะพิจารณาให้ยาแก้ปวด
และการใช้ยาชาที่มีประสิทธิภาพในการทำผ่าตัดในเด็กเล็กๆ

การเกิดโรคมะเร็ง
มีการศึกษาวิจัยหลายแห่งในต่างประเทศพบว่า ขี้เปียกเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
และพบว่าเมื่อเด็กชายที่มีขี้เปียกบริเวณอวัยวะเพศ
หากได้การผ่าตัดขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศในวัยเด็ก
เมื่อโตขึ้นและแต่งงานไปกับสตรีคู่สมรส หรือ การที่ได้ขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศแล้ว
จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกของคู่สมรส หรือภรรยาของตนเองได้
โดย ทั่วไปถ้าฝ่ายชายไม่ชำระล้างอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนมีเพศสัมพันธ์
ขี้เปียกจะตกลงไปภายในช่องคลอดของฝ่ายหญิง
เมื่อตกลงไปภายในก็จะไปกองอยู่บนปากมดลูกของฝ่ายหญิง
ทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นประจำสมํ่าเสมอ นานไปๆ
ก็จะทำให้เซลล์ของผิวบริเวณปากมดลูกเปลี่ยนแปลงกลายไป
เป็นเซลล์มะเร็งปาก มดลูกได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการวิจัยพบว่า
ตัวขี้เปียกเองก็เป็นสารก่อมะเร็ง
ทำให้เกิดมะเร็งอวัยวะเพศชายหรือมะเร็งองคชาติได้เช่นกัน

การติดเชื้อเอชไอวี
การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย มีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้
แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้
ลดอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
แต่ ต้องทำควบคู่ไปกับวิธีป้องกันอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย
การมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย รวมทั้งการมีสุขอนามัยที่ดี
ในการดูแลอวัยวะเพศชาย

การ ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการตัด
หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายบางส่วนหรือทั้งหมดออกไปอย่างถาวร
ตามประเพณีของบางศาสนาหรือเชื้อชาติจะตัดออกประมาณ 1-2 เซนติเมตร
หรืออาจตัดออกประมาณ 4 เซนติเมตร หากทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทั่วโลก
มีผู้ชายที่อายุมากกว่า 15 ปี ประมาณ 665 ล้านคนที่ขลิบอวัยวะเพศ
คิดเป็นร้อยละ 30 ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ชาวยิว และผู้ชายอเมริกัน

การ ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้
เนื่องจากผิวด้านในของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย
เป็นบริเวณที่มีจำนวนเซลล์รับเชื้อเอชไอวีอยู่ปริมาณมาก
และเซลล์จะอยู่ในตำแหน่งที่ตื้นมาก นอกจากนี้ยังสามารถฉีกขาด ถลอก
ทำให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ได้ง่าย
การขลิบจะเป็นการลดบริเวณผิวด้านในของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายทำให้ลด
พื้นที่รับเชื้อเอชไอวีลงได้

ต้นหลิว 19 ม.ค. 2553, 1:19:01
ก้อมีพี่เป็นหมอมันก้อดีอย่างนี้แหละและต้นหลิวก้อเรียนทางการแพทย์ด้วยอ่ะ
เกี่ยวกับเรื่องเพศมันไม่ใช่เรื่องน่าอายนี่คร๊ะ มันเป็นธรรมชาติ
OKป่ะคุณLordBSD ดีนะเนี้ยที่ชะแว๊บเข้ามาอ่ะ
เดี๋ยวคิดกานเลยเถิดต้นหลิวมะได้ทะลึ่งเนอะ พูดกันไว้ก่อนเราเป็นหญิงมันไม่ดี
อิอิอิอิอิอิ

Freehand 18 ม.ค. 2553, 23:04:50
เข้าใจความรู้สึกกังวลนะ จะตอบให้แล้วกัน -*-
เขามีกันสองเคสคือ
1. ไปหาหมอแล้วขลิบครับ หรือ
2. ใจถึงหน่อย เจ็บไม่กี่วัน รั้งมันลงมา แต่ขอบอกว่า
เสี่ยงเหมือนกันนะครับ รายที่เลือดไม่ไปเลี้ยงก็มีให้เห็น

จาก guru.google.co.th

One thought on “เกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย”

  1. สวัสดีครับ ผมอายุ 25 แล้ว อวัยวะยังไมเปิดเลยครับ
    ทำไงดี ตอบกับทางเมลย์นะครับ

Leave a Reply