บทความด้านมืด

บทความด้านมืด
สาเหตุที่นักศึกษาต้องไปขายบริการทางเพศ
บทความด้านมืด ตอนที่ 1 “ข้างหลังเธอ”
สาเหตุที่นักศึกษาต้องไปขายบริการทางเพศ

หมายเหตุ – เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่สถาบันราชภัฏสวนดุสิต
มีการสัมมนาเรื่อง ” นักเรียน/นักศึกษา ขายตัว :
สัมมนาปัญหาเชิงลึก/วิเคราะห์ ” จัดโดยนักศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารการศึกษา
สถาบันราชภัฏสวนดุสิต เพื่อระดมความคิดเห็นในการแก้ปัญหา
การขายตัวของนักเรียน นักศึกษา โดยเชิญผู้ขายบริการ ผู้ใช้บริการ
และผู้จัดบริการ (แม่เล้า) ร่วมสัมมนา มีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้ น้องหน่อย
(นามสมมุติ) นักศึกษาที่ขาย บริการทางเพศ
“–สาเหตุที่มาทำอาชีพนี้เพราะต้องการนำเงินไปใช้ในการศึกษา เกี่ยวกับอุปกรณ์
ต้องส่งเสีย ครอบครัว เนื่องจากพ่อเสียชีวิต ไม่มีอาชีพอื่นที่ได้ผลตอบแทนสูง
ผิดหวังเรื่องแฟน ต้องการมีวัตถุนิยมตาม เพื่อนและสังคม อยากมีโทรศัพท์มือถือ
เสื้อผ้าสวยๆ อยากมีเงินใช้จ่ายตลอด และอยากมีเงินเที่ยวสถานเริงรมย์
ส่วนแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานั้น อยากให้ส่งเสริมอาชีพ
ที่มีรายได้กระจายทั่วถึง ให้การศึกษา ที่เข้าใจ การดำเนินชีวิต
มีความภาคภูมิใจในชีวิต จัดหางานให้เมื่อเรียนจบ และรัฐควรจัดหางานให้
ระหว่างเรียน เพื่อ เป็นรายได้เสริม
ที่เข้ามาสู่อาชีพนี้เพราะได้รับการติดต่อจากเพื่อน
ตอนที่เพื่อนชวนก็คิดอยู่นาน แต่เพื่อนบอก ว่า ทำแล้วจะได้เงินง่าย
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดที่จะทำอาชีพนี้ตลอดไป อนาคตคิดจะหยุด และหางานดีๆ ทำ
แม้จะได้เงินน้อยกว่า–” น้องฟิว (นามสมมุติ) นักศึกษา
“–สาเหตุเข้าสู่อาชีพเสริมเพราะ ความต้องการ ทาง เศรษฐกิจ
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าที่พัก และค่าเครื่องสำอาง
รวมถึงได้รับการชักจูง จาก เพื่อน ในกลุ่มที่ทำอาชีพเสริมอยู่
มีเงินใช้จ่ายคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญคือผู้ที่ทำอาชีพ เสริมคิดว่า พวกเขา
ได้เดินมาถูกต้องแล้ว เพราะชีวิตเป็นของเขาเอง
ฉะนั้นจะทำอะไรกับชีวิตของเขาก็ได้ ที่เลือกอาชีพนี้ เพราะ มีรายได้สูง
ที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อทางบ้านเลย จึงต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเอง
มีค่าใช้จ่ายประมาณ 400 บาทต่อวัน ถ้าไปทำอาชีพอื่นรายได้จะน้อย
แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการ
หารายได้จากการขายบริการทางเพศเลย ส่วนแนวทางป้องกันนั้น
เห็นว่าต้องสร้างจิตสำนึกในการ ยอมรับ สภาพความจริง พ่อแม่
ครูอาจารย์ต้องสอดส่องใกล้ชิด สร้างความอบอุ่นในครอบครัว
หาอาชีพเสริมที่สุจริต และสถานศึกษาจัดหางานพิเศษให้–

” น้องแอน (นามสมมุติ) นักศึกษาหญิงชั้นปี 3 “–เข้าสู่ธุรกิจขายตัวเพราะ
ปัญหาครอบครัว พ่อแม่แยกกัน และพ่อมีภรรยาใหม่ ค่าใช้จ่ายในการเรียนไม่พอ
เพื่อนชักจูงเพราะได้เงินง่าย ไปทำงานกับเพื่อนโดย มีแม่เล้าจัดให้ขายบริการ
แต่ปัจจุบันขายบริการทางเพศเองโดยไม่ต้องพึ่งแม่เล้า แต่ใช้วิธีแขกบอกต่อๆ
กัน แล้วโทรศัพท์นัดหมาย จากนั้นแขกจะเป็นผู้นัดไปในสถานที่ที่กำหนดเอง
เพิ่งเข้า สู่ธุรกิจขายตัวได้ 2-3 เดือน สาเหตุเพราะเดิมอยู่กับคุณพ่อ
และคุณพ่อจะเลี้ยงดูอย่างดี ระยะหลังคุณ พ่อมี ภรรยาใหม่จึงไม่ดูแลเหมือนเดิม
ที่เข้าสู่ธุรกิจขายบริการครั้งแรกเพราะรู้จักกับแม่เล้า
ที่พักอยู่อพาร์ตเม้นต์ เดียวกันมาชวน หลังจากที่ทำอาชีพ
นี้แล้วก็มีเพื่อนมาถามว่าทำหรือไม่ ก็บอกไปว่า ไม่ได้ทำ แอนจะไม่ชักชวน
เพื่อนให้ขายบริการ แต่จะแนะนำ แขก ให้เฉพาะเพื่อนที่ทำอาชีพนี้ด้วยกัน
ซึ่งเพื่อนนักศึกษาที่ขายบริการ มีจำนวนมาก สิ่งที่อยากให้รัฐบาล
ช่วยเหลือคือ เพิ่มกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพราะนักศึกษาส่วนหนึ่ง
ที่ขายบริการเพราะ ต้องการนำเงิน ไปใช้จ่ายค่าเล่าเรียน
เนื่องจากกู้เงินจากกองทุนไม่ได้เลย ส่วนแนวทาง ป้อง กันและแก้ไขก็อยาก
ให้พ่อแม่ เอาใจใส่บุตรหลานให้มาก ควรสอดส่องเพื่อนๆ ที่ลูกคบ ให้ความรู้
และควรจัดตั้ง กองทุน สวัสดิการการศึกษา
แก่นักศึกษาให้แพร่หลายกว่าที่เป็นอยู่ และกระจายทุนให้นักศึกษา
ที่มีปัญหาทาง เศรษฐกิจ–

” น้องดาว (นามสมมุติ) “–เข้าสู่วงจรของธุรกิจนี้เพราะถูกชักชวน
เนื่องจากทางบ้านมีหนี้สิน รู้จาก เพื่อนบ้าน ว่าทำอาชีพนี้
เพื่อความอยู่รอดเหมือนกัน น้องดาวกล่าวว่า เริ่มจากไปร้องเพลง
และรู้จักคนมาก ขึ้นเรื่อยๆ รู้ว่านักร้องที่นั่น
ขายบริการทางเพศกันก็เลยทำบ้าง ไม่ใช่เรื่องของค่านิยม และไม่เคยคิดว่า
เป็นค่า นิยมเลย แต่เป็นอะไรที่ถึงที่สุด เวลานี้กำลังเรียนระดับปริญญาตรี
ตั้งใจว่าจะเก็บเงินให้ได้สักก้อน เพราะถ้า เรียนจบ
แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แนวทางป้องกันและแก้ไข
จึงจำเป็นต้องให้พ่อแม่เอาใจใส่ลูก สังเกต พฤติกรรมลูก
ครูอาจารย์ต้องรับฟังปัญหาเด็ก
สังคมต้องร่วมกันสกัดกั้นเส้นทางเข้าสู่วงจรนี้ และรัฐต้องควบคุม และมีกฎหมาย
บังคับอย่างจริงจัง รวมทั้งเร่งปลูกฝังจริยธรรมในตัวเด็ก–

” นายสิงห์ (นามสมมุติ) นายหน้า “—อาชีพหลักของผมคือ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
แต่ที่มาทำเพราะชอบ เที่ยว กลางคืน และมีพรรคพวกที่เป็น นายหน้า อยู่
ชอบแนะนำน้องๆ ให้รู้จัก จึงทำหน้าที่ประสานให้กับคน ที่มี ความ
ต้องการใช้บริการ ผมเป็นแค่นาย หน้าไม่ใช่พ่อเล้า เพราะไม่ใช่อาชีพหลัก
ผมรู้จักนักศึกษาหลาย สถาบัน และตนก็รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่กว้างขวาง
ส่วนใหญ่ที่ขายบริการ เพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน น้องๆ พวกนี้จะ ทิ้งเบอร์
โทรศัพท์ เบอร์เพจให้สำหรับ ติดต่อ กลับไป
ถ้าคนที่ทำประจำสามารถเรียกใช้บริการได้ภายในครึ่งชั่วโมง
แต่ถ้าเป็นครั้งเป็นคราว ต้องใช้เวลา ติดต่อประมาณ 24 ชั่วโมง
โดยผู้ที่จะใช้บริการสามารถเลือกสถาบันได้–

” น้องต่อ (นามสมมุติ) ผู้ขายบริการ
“–มีหญิงบริการบางกลุ่มอ้างตัวเป็นนักศึกษา เพราะต้องการ ให้ตัวเองดูมี ราคา
และมองว่า นักศึกษาขาย ตัวมาแย่ง อาชีพ แต่นักศึกษาขายบริการกลับมองว่า
ที่ทำต้องจำยอม ไม่มีเงิน ถ้าเลิกได้ก็จะเลิก เพราะรู้สึกลำบากใจ
เพราะต้องพบกับลูกค้าทั้งดีและไม่ดี ถ้าเจอคนไม่ดีจะถูกเหยียดหยาม กักขฬะ
ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นทหาร และตำรวจ
ต่อกำลังเรียนอยู่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ป.วช.) ปี 3 ขายบริการมาได้ 2
เดือนแล้ว ก่อนมา ทำเคยเสียตัวมาก่อน จึงได้ตัดสินใจขายบริการทางเพศ
รวมทั้งมีปัญหา ด้านการเงิน ส่วนที่มีหญิงขาย บริการ ทางเพศอ้างว่า
เป็นนักศึกษานั้นไม่สมควร ส่วนที่นักศึกษาต้อง ขาย บริการ เพราะความจำเป็น
เคยหางาน อื่น ทำแต่หาไม่ได้ ทั้งงานเต็มเวลาและงานพิเศษ แต่คิดว่า
ถ้าเรียนจบ ก็คงจะเลิก สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ มีทั้งทหาร ตำรวจ
และนักธุรกิจ รู้สึกไม่ค่อยดี แต่ต้องการเงินของเขา ก็ต้องยอม
ผู้ใช้บริการกลุ่มที่ดีที่สุดคือ ทหาร กับตำรวจ โดยกลุ่มทหารจะดีกว่า
สิ่งที่อยากขอให้รัฐบาล ช่วย เหลือคือ จัดการศึกษาให้ฟรี จะได้ไม่มีปัญหา
ค่าใช้จ่าย ไม่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ทำ เพราะไม่ใช่อาชีพที่ดี
สำหรับตัวเองเห็นว่าไม่เสียหายอะไร เพราะ เสียหาย ตัวเองคนเดียว เสียชื่อ
นามสกุล ของตัวเองเท่านั้น และคนที่เข้ามาอยู่ในอาชีพนี้ก็มีทั้งดี และไม่ดี
บางคนทำเพราะจำเป็น แต่บางคนทำเพราะ ฉวยโอกาส ที่จะได้ประโยชน์ก็มี
ส่วนใหญ่มีเพื่อน ทำอาชีพนี้มาก ทั้งระดับ ป.วช. ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
(ป.วส.) และปริญญาตรี ส่วนปริญญาโทขึ้นไปมีหรือไม่ ยังไม่เคยเจอ–

” คุณเอ๋ (นามสมมุติ) เอเย่นต์ “–ต้องทวงถามจุดยืนและจริยธรรมของสื่อใน
การลงโฆษณา แหล่งขาย บริการ ในหนังสือนิตยสาร หนังสือพิมพ์บางฉบับ
เพราะการลงโฆษณาเป็นการส่งเสริม ให้มีการ ขายบริการทางเพศ
จึงอยากเรียกร้องให้สื่อยุติการลงโฆษณาเชิญชวนแหล่งบริการ
ซึ่งเป็นแนวโน้มให้เด็ก อยากลอง เพื่อหารายได้
และให้สื่อทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป การเป็นเอเย่นต์หา
ลูกค้าให้กับ ผู้ใช้บริการ ทางเพศไม่ใช่สิ่งที่ดี และการลงข่าวคราว
เกี่ยวกับนักศึกษาขายตัวจะเป็นตัวอย่าง ให้นักศึกษาคนอื่นๆ
ขายบริการทางเพศตาม–

” น้องแวว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผู้จัดหา (แม่เล้า) “–เหตุที่มา
ทำอาชีพนี้เพราะพ่อแม่แยกทางกัน เริ่มทำ
หน้าที่จัดหาผู้ขายบริการให้กับผู้รับบริการ ตั้งแต่อายุ 18 ปี
โดยทราบข้อมูลจากเพื่อนชายในสถาบัน และ จาก โปสเตอร์ที่ติดตามสถาบัน
และประกาศรับนายแบบ นางแบบ สาเหตุที่มาทำเพราะอยากได้เงิน เงินสามารถ
บันดาลทุกสิ่งให้พวกเราได้ค่ะ เงินสามารถบันดาลความสุขได้
หนูอยู่ในฐานะแม่เล้า ถ้ามีลูกค้ามาใช้ บริการ ก็จะใช้วิธีหว่านล้อมเด็ก
พูดพักเดียวเด็กก็ทำเพราะเงิน
ส่วนทีเด็ดที่ทำให้ลูกค้ามาใช้บริการเด็กในกลุ่มมากนั้น ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ลูกค้าของหนูมีมาก จนต้องการ เด็ก เพิ่ม ถ้าเด็กไม่พอในฐานะแม่เล้า
ก็ต้องลงไปขาย บริการเอง หนูไม่คิดว่าพวกหนูเป็นปัญหาสังคม
เพราะไม่ได้ไปบังคับใครให้ขายตัว และไม่ได้บังคับ ให้คุณ ผู้ชายมาใช้บริการ
แต่คุณผู้ชายเหล่านั้นมาหาเอง แสดงว่าพวกหนูเก่ง
ถ้าจะแก้ปัญหานี้ต้องแก้ที่ลูกค้า เพราะถ้าไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเมื่อไหร่
พวกหนูก็ ไม่มีงานทำ “หนูไม่รู้พวกเด็กๆ ในสังกัดหนูเขาป้องกัน ตัวหรือไม่
แต่ตัวหนูเองนั้นไม่ได้ป้องกัน เพราะผู้ชาย ที่มาใช้บริการควรเป็นฝ่ายป้องกัน
ถ้าป้องกันหนูก็ ไม่ สนใจ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า หนูเป็นโสเภณี เขาจึงต้อง
ป้องกัน ตัวเอง และตั้งแต่หนูขายบริการมายัง ไม่เคย ไปตรวจแม้แต่ครั้งเดียว
อยากให้รัฐเร่ง ประชาสัมพันธ์ เรื่อง โทษของการให้บริการทางเพศ สร้างจิตสำนึก
ผู้บริหารระดับสูง ของรัฐและเอกชน ไม่ให้ร่วมมือในการ
ใช้บริการทางเพศจากนักเรียน นักศึกษา นอกจากนี้
สถานศึกษาควรเข้มงวดกับการติดโปสเตอร์ตามสถาบัน
เพราะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง–

” น้องฝน (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ผู้ขายบริการ “–เทคนิคการให้บริการ
เพื่อจูงใจ ลูกค้า ก็คือวางตัวเป็นกันเอง ให้ความเคารพ อ่อนน้อม
ใช้วาจาอ่อนหวาน แต่งหน้าเป็นธรรมชาติ ไม่ใช้เครื่องสำอาง ปล่อยผมตรง ผมยาว
ไม่ดัด ไม่ซอย ไม่ซักถามเรื่องส่วนตัวของลูกค้า ไม่แสดงอาการผูกมัด
เจรจาลักษณะเชื่อฟังลูกค้า ตามใจลูกค้า บนเตียง รักษาความสะอาด
ใช้น้ำหอมราคาแพงๆ ใช้สรีระร่างกาย ให้เป็น ประโยชน์ เช่น หน้าอกใหญ่ ที่ต้อง
ขายบริการเพราะต้องผ่อนค่าเล่าเรียนเดือนละ 3,000 บาท จึง
อยากให้จัดให้เรียนฟรี–

” มาม่าซัง บาร์อะโกโก้ย่านพัฒน์พงษ์
“–ที่หันมายึดอาชีพมาม่าซังเพราะรายได้ดี ไม่ต้องใช้ความรู้มาก เด็กที่
มาขายบริการส่วนหนึ่ง เป็นนักศึกษา อายุประมาณ 21-22 ปี
เด็กที่ขายตัวส่วนใหญ่ เป็นเด็กชอบเที่ยว ชอบใช้ ของแพง มีค่านิยมตามเพื่อน
และต้องการทดลอง มักจะมาสมัครขายบริการ ช่วงปิด เทอมมาก ส่วนใหญ่บอกว่า
ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน ขอทำเป็นไซด์ไลน์ มีเด็กบางคนบอกว่า ให้หาฝรั่งมาเปิด
บริสุทธิ์ให้หน่อย คิดราคา 15,000-30,000 บาท ก็ไม่รับปาก เคยถามเด็กว่า
ทำไมถึงขายตัว บางคนบอกว่า บ้านยากจน จึงแนะนำ ให้ลอง ไปทำที่เลาจน์
ตัวเองไม่เคยวิ่งไปหาเด็กมาทำอาชีพนี้ แต่เด็กที่มาอยู่มักชักชวน กันมาเอง
ไม่เห็นด้วยกับสิ่ง ที่เด็กเหล่านี้ทำ อยากบอกไปถึงคุณพ่อคุณแม่ว่า
อย่ามัวทำงานเก็บเงิน ลูกขอเท่า ไหร่ก็ให้ เป็นการทำร้าย ลูกที่สุด
ควรสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ให้กำลังใจ เชื่อว่าปัญหานี้คงลดลงบ้าง
อย่างที่ตัวเองทำอาชีพ นี้เพราะ เคยแต่งงานมีลูก แต่หย่ากับสามี
ประกอบกับไม่มีความรู้ก็เลยคิดว่า ถ้าทำงาน นี้จะเลี้ยงลูกได้แม้จะไม่ชอบ
และในฐานะแม่ก็ไม่อยากให้ลูกทำอย่างนี้–

” คุณนก (นามสมมุติ) อดีตผู้ประกอบ การแถวพัฒน์พงษ์
“–การกำหนดราคาจะขึ้นกับหน้าตา ทรวดทรง เช่น อกใหญ่ขนาด 35-36 นิ้ว สีผิว
ไม่ใช่ปัญหา เป็นคนเอาอกเอาใจ การคิดค่าบริการขึ้นอยู่กับว่าเป็นการ
ให้บริการ ชั่วคราวหรือค้างคืน ค่าใช้จ่ายในการให้บริการในปัจจุบันอยู่ประมาณ
2,000-4,000 บาท นางแบบ 5,000 บาท ค้างคืน 4,000 บาท
ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ส่วนมากอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่จะมีอายุ 40
ปีขึ้นไป การคิด ราคาในการบริการ คือ 3 ชั่วโมง 2,000 บาทต่อครั้ง
ให้ตัวแทนนักศึกษา 500 บาท และนักศึกษา 1,500 บาท ถ้าใช้บริการทั้งคืน
ผู้ใช้ต้อง จ่ายให้ร้าน 700 บาท และตกลงกับผู้ขายบริการเอง ประมาณ
3,000-5,000 บาท ราคาของคนใหม่และ คนเก่า เท่ากัน
ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ เจ้าหน้าที่ธนาคาร วัยรุ่น และบุคคล
ทั่วไป ถ้าใช้บริการโดย นั่งพูดคุย ในร้าน 45 นาที สั่งดริ๊งก์ 1 ครั้ง 120
บาท เด็กให้บริการได้ 70 บาท ร้านได้ 50 บาท ถ้าพูดคุยแล้วเกิดความ
พอใจจะใช้บริการ ทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงกับตัวแทน เพื่อไปใช้บริการข้างนอก
ถ้าถามว่ารู้สึกอย่าง ไรกับงาน ที่ทำ ในฐานะที่ได้รับเงินเดือนจากร้าน
ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่จะไม่มีการ บังคับเด็กเด็ดขาด เป็นความ
พอใจของเด็กเอง เพราะตัวเองก็มีลูกมีครอบครัว ไม่อยากเห็นนักศึกษาขายตัว
อยากให้มีงานที่ดีกว่า นี้ทำ–” น้องไก่ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี
นักเรียนมัธยมปลาย “–ขายบริการมา 3 ปีแล้ว ครั้งแรกเป็นฝ่ายเดิน เข้าไป
ถามเพื่อนเอง ไม่ได้ถูกชักจูง ที่ทำเพราะได้เงินมาก ถ้าชั่วคราวประมาณ
2,000-2,500 บาท ค้างคืน 3,000 บาท ได้ประมาณสัปดาห์ละ 7,500 บาท
ต้องจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน ส่งให้พ่อแม่ และน้อง 2 คน ที่บ้านไม่มีใคร
รู้ว่าขาย บริการ และไม่เคยถาม เพราะรู้แต่ว่าทำงานโรงงาน และเรียนหนังสือ
ก็รู้สึกอึดอัด เคยชักชวนเพื่อนๆ ให้มา ขายบริการประมาณ 3-4 คน
คาดว่าจะทำต่อไปจนเรียนจบ เคยเสียใจเหมือนกันที่เลือกอาชีพนี้
ถ้าเลือกได้ใหม่ จะไม่ทำ–” (update 11 สิงหาคม 2001) ที่มา…
หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน

บทความด้านมืด ตอนที่ 2 “ช๊อปปิ้งเซ็กซ์”
พบห้างฯ ดังแหล่งค้าเซ็กซ์ ตีแผ่ถนนโลกีย์ไทย 2543 พบห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
เป็นแหล่งชอปปิ้งเซ็กซ์ เปิดขายบริการกันอย่างโจ๋งครึ่ม!
มีทั้งค้าเซ็กซ์ในร้านอาหาร ผับใ นห้างฯ และที่สะบึมสุดๆ คือ เคาน์เตอร์
เครื่องสำอาง ส่วนคุณตัวทั้งหลายมีให้เลือก
ตั้งแต่สาวสายเดี่ยวระดับมหาวิทยาลัย ไก่อายุ 14-17 ปี คุณตัวมือ
อาชีพและกะเทยทีเด็ด ราคามีตั้งแต่เกรด A ลงมาถึงระดับ “ถูกใจให้ฟรี
ทำดีได้เบิล” เชื่อไหม… หากจะบอก ว่ามี
หนุ่มสาวสำเร็จความใคร่ในห้างสรรพสินค้า ฟังแล้วอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่พ.ศ.นี้ สถานที่ซึ่ง เรียกกันว่า “ห้างสรรพสินค้า”
ที่เป็นศูนย์กลางพักผ่อนทางด้านชอปปิ้ง และแหล่งสันทนาการ ความบันเทิง
ของประชาชน กลับไม่ใช่ถูกใช้ประโยชน์แต่เพียงซื้อข้าวของเครื่องใช้เท่านั้น
ปัจจุบันห้างสรรพสินค้า คือ แหล่งชอปปิ้งทางเซ็กซ์
หรือแหล่งปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ ในเวลากลางวันที่นิยมที่สุดและกล่าวกันว่า
เย้ายวนที่สุดในพ.ศ.นี้ นอกจากผู้ชายแท้ จะแสวงหาซื้อบริการทางเพศจากซ่อง
สถานเริงรมย์ อาบอบนวด และซื้อหาด้วยการโทรศัพท์แล้ว
วินาทีนี้ห้างสรรพสินค้ากำลังเป็นสถานที่ระเริงสวาทอีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง สามารถ
ซื้อหาบริการได้อย่างโจ๋งครึ่ม ห้างสรรพสินค้าอาจไม่ใช่ถนนโลกีย์แห่งใหม่ของ
การขายบริการทางเพศ ของ เหล่า คุณตัวทั้งหลาย แต่ศูนย์การค้าในวันนี้
กำลังเป็นสถานทีซึ่งได้รับความนิยมจากนักขายบริการทางเพศ เหตุผลสำคัญคือ
เมื่อตลาดขายบริการทางเพศในช่วงเวลากลางคืนมีการแข่งขันสูง
สถานบริการไม่ว่าจะเป็น ซ่อง อาบอบนวด ค็อกเทลเล้านจ์ คาราโอเกะ และบาร์เหล้า
(อะโกโก้) เปิดตัวกันอย่างคึกคัก พร้อมสร้าง กลยุทธ์ดึงนักเที่ยว
ด้วยการลดแลกแจกแถม ถนนโลกีย์ยามราตรีจึงคลาคล่ำและดูตีบตันสำหรับการเจาะ
ตลาด ส่งผลให้ตลาดค้าบริการทางเพศในช่วงกลางคืนขยับขยายเข้าสู่ในเวลากลางวัน
และห้างสรรพสินค้า นับเป็น แหล่งที่เอเยนต์ค้ากาม
และคุณตัวทั้งมืออาชีพที่มีสังกัดและไร้สังกัด โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา
ที่ยึด อาชีพขายบริการ
ต่างมองว่าน่าจะเป็นหนทางใหม่ที่จะสามารถกอบโกยจากนักเที่ยวได้มากขึ้น
“ผู้จัดการรายวัน”
ได้ลงพื้นที่สำรวจตามห้างสรรพสินค้าหลังจากที่ได้รับการเปิดเผยจากเหล่านักเที่ยวว่า
สถานที่ชอปปิ้ง ทางเพศ แห่งใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของหมู่นักเที่ยวในขณะนี้
คือบริเวณศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า แม้ว่าการค้า
เซ็กซ์ซึ่งใช้ห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ขายบริการจะมีมาหลายปีแล้ว
แต่ไม่ได้แพร่หลายมากนัก ทว่าปัจจุบัน
ตลาดค้าบริการทางเพศในห้างสรรพสินค้าได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และที
่สำคัญห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง มีคุณตัว
ทุกรูปแบบจับจองพื้นที่เปิดบริการชนิดที่คุณคาดไม่ถึง
การขายบริการที่ห้างสรรพสินค้าจะมีการแบ่งจุด แบ่ง เกรด แบ่งตลาดความต้องการ
สำหรับนักเที่ยวอย่างชัดเจน คุณสามารถเลือกและแสวง หาความต้องการ ได้ตาม
กำลังทรัพย์และความพึงพอใจ

พบห้างฯ ดังแหล่งค้าเซ็กซ์ ศูนย์การค้าแห่งแรก ที่ถือเป็นซ่องระดับ 5 ดาว คือ
ศูนย์การค้าในย่านปทุมวัน ซึ่งที่นี่หลายคน
ต่างขนานนามเป็นถนนสายแฟชั่นของเมืองไทย แต่อีกด้านหนึ่ง ที่นี่ คือถนนสาย
โลกีย์ อีก แห่งหนึ่ง ที่นักชอปปิ้งเซ็กซ์สามารถแสวงหาได้อย่างเสรี
เหล่านักเที่ยวในย่านนี้ เปิดเผย ว่า พวกที่นิยมของ แพงระดับเกรด B ถึง A
หรือพวกนิยมสาววัยขบเผาะ ชอบใส่สายเดี่ยวหรือ เสื้อ เกาะอก อายุระหว่าง 14-18
ปี ต้องลองให้ไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณสยามสแควร์ ซอย 2 รับรอง
ว่าที่นี่ไม่ ทำ ให้คุณผิดหวัง ร้านอาหารแห่งนี้
มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษและเป็นร้านที่ถือว่าเก่าแก่ มีขนาดใหญ่ 3 คูหา
ที่บริการ ขายอาหาร และเครื่องดื่ม ภายในร้านอาหารแห่งนี้
จะมีโต๊ะและเก้าอี้ที่มีพนักสูง จัดวางใน ลักษณะเหมือนคาเฟ่
มีเด็กเสิร์ฟเกือบสิบชีวิตยืนคอยให้บริการแก่ลูกค้า และสภาพโดยทั่วไปก็ไม่ได้
เป็น ที่ผิดสังเกต สำหรับ
ผู้สัญจรไปมาในละแวกนั้นว่าที่นี่มีหญิงสาวขายบริการ
เนื่องจากหากคนทั่วไปเข้าไปสั่งอาหาร ก็คงไม่มีอะไร
มากไปกว่าการนั่งกินแต่ถ้าเป็นผู้ชายที่ดูภูมิฐาน ดูดีมีสตางค์
ไม่ได้มากับภรรยา ไม่นานนัก ก็จะมีเด็กเสิร์ฟ มาแนะนำว่า
“พี่อยากหาเพื่อนแก้เหงาหรือเปล่า หากพี่ต้องการเรามีสาวๆ ให้เลือก”
ทันทีที่คุณ โอเค เด็กเสิร์ฟ
ก็จะยืนชี้ไปที่โต๊ะอาหารอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ด้านลึกของร้าน
แล้วก็พบกับพวกคุณเธอทั้งหลาย “สาวอายุ 14 ปี ผมไม่แน่ใจ แต่อายุ 16,17,18
และ 20 ขึ้นไปมีเยอะและแต่ละคนก็โชว์สัดส่วน ในชุดสาย เดี่ยว กางเกงสั้นๆ
กระโปรงสั้นๆ กันทั้งนั้น ราคาที่ออฟออกไปก็มีตั้งแต่ 1,500-2,000 บาท”
หนุ่มนักเที่ยวผู้เคย ใช้บริการ แนะนำอีกว่า หากอยากใช้บริการที่นี่
ต้องมาประมาณเที่ยงตรงเป็นต้นไป และถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็ควร
แวะมาในช่วงประมาณบ่ายโมง บ่ายสองโมง รับรองว่า…เด็กตรึม!
ไม่เพียงแต่ร้านแห่งนี้หนุ่ม นักเที่ยวยัง แนะนำ อีกว่า
หากคุณไม่พอใจในความงาม ของหญิงบริการในร้านที่กล่าวมาข้างต้น ให้ลองเดิน
มาที่บริเวณ เซ็นเตอร์พ้อยต์
หรือเดินไปบริเวณร้านแม็คโดนัลด์ภายในศูนย์การค้า โดยที่นี่
เด็กวัยรุ่นขายบริการอายุ 15-16 ปี ก็พร้อมที่จะให้คุณเคลม
ซึ่งคุณจะสังเกตคุณตัวทั้งหลาย คือมือของเธอจะคีบบุหรี่ นั่งอยู่คนเดียวโดดๆ
วิธีที่คุณจะเข้าไปติดต่อ ก็ต้องใจกล้าถามเธอไปตรงๆ ว่า
“หารายได้พิเศษหรือเปล่า” ถ้าใช่ ราคาเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ตกลง
“ส่วนใหญ่ครั้งหนึ ่งราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาท ต่อรองกันได้
ซึ่งเด็กวัยรุ่นพวกนี้จะเลือกคน ไม่พอใจพวกเธอจะไม่ไป แต่ถ้าพอใจก็ไปได้เลย
ทั้งเป็นเพื่อนเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง และสิ้นสุดที่เตียงนอน”

ห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่ง ที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ
ห้างสรรพสินค้าในย่านปิ่นเกล้า ที่นี่มี การขายบริการทางเพศมานานหลายปีแล้ว
ซึ่งเมื่อคุณไปเที่ยวห้างแห่งนี้ อยากจะใช้บริการทางเพศ ก็ให้
ไปยืนบริเวณบันไดทางขึ้นห้างแห่งนี้จะมีหญิงสาวขายบริการทางเพศยืนอยู่ตามจุด
ทั้งบริเวณบน สะพาน ลอย
ทางขึ้นและบริเวณตามซุ้มที่นั่งบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า สังเกตได้ง่าย
คุณตัวทั้งหลาย มักจะยืน เดี่ยวโดด
สะพายกระเป๋าสตางค์สีดำมักไม่ค่อยหลบสายตาเวลามอง หากใครอยากไปใช้บริการ
แต่ไม่แน่ใจว่า “ใช่หรือเปล่า”
ให้ถามแม่ค้าและมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวนั้นก็ได้ พวกเขาทราบดี
สถานีตำรวจในท้อง ที่ให้ข้อมูล ว่า โสเภณีที่เร่ขายบริการอยู่ในบริเวณนี้
เป็นกลุ่มเดียวกับโสเภณีที่ขายบริการสนามหลวง แต่กลุ่มนี้ไม่ใช่
หญิงบริการประเภท “ผีขนุน” หรือกลุ่ม “ผีมะขาม”
แต่เป็นกลุ่มที่ขยับระดับจากกลุ่มดังกล่าวขึ้นมาซึ่งอาจเรียกว่า “ผีห้างฯ”
ก็ได้ “ถ้าจะให้เกรดสาวๆ ขายบริการก็น่าจะอยู่ในระดับ C ลงมา อัตราค่าบริการ
มีตั้งแต่ต่ำสุด 200 กว่าบาทจนถึงสูงสุด 800 บาท ต่อรองราคาตรงนั้นเลย ”
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ มักเป็นที่นิยมของชายสูงอายุ ประเภทอาแปะ
รวมทั้งหนุ่มสามล้อเครื่องและแท็กซี่ แต่พวกผู้ชายผูกไท
ก็มีคนเคยเห็นยืนต่อรองราคา เคาน์เตอร์เครื่องสำอางสวาท
แหล่งชอปปิ้งเซ็กซ์อีกที่หนึ่ง ที่แอบแฝงอยู่ในห้างสรรพสินค้า คือบริเวณ
เคาน์เตอร์ เครื่องสำอาง ใครจะไปคิดว่า
แผนกเครื่องสำอางที่มีพนักงานขายหญิงสาวหน้าตาดี พวกเธอบาง
คนจะขายบริการทางเพศ แต่ความจริงก็คือความจริง
เมื่อห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า, รังสิต และห้างสรรพ สินค้า ย่านวังบูรพา
อยู่ในเมนูเซ็กซ์ของนักเที่ยว “เคยรู้จักพนักงานขายเครื่องสำอางคนหนึ่ง
ที่ห้างสรรพสินค้า ปิ่นเกล้าเธอแนะนำว่า มีเพื่อน
อาชีพเดียวกันต้องการหาลำไพ่พิเศษ หากอยากได้เพื่อนคลายเหงา คิดราคา กันเอง
2,000 บาท แต่พี่ต้องออกค่าโรงแรมหรือหาสถานที่เอง”
ผู้ใช้บริการทางเพศในย่านนี้ระบุอีกว่า
ในครั้งนั้นตนเองตัดสินลองหลังจากเสร็จกิจเธอบอกว่า
หากต้องการได้เพื่อนคลายเหงา ก็ติดต่อเธอ ยังมีเพื่อน
เธออีกสองคนอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเดียวกัน บริการหาลำไพ่พิเศษ
ราคาก็แล้วแต่ตกลงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า
การขายเซ็กซ์ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางตามห้างสรรพสินค้า
มีจริงและมีมานานแล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบ กันดีในหมู่นักเที่ยวและนายตำรวจหลายๆ
คน “มันไม่ใช่เรื่องแปลกการขายบริการมีทุกที่ เคาน์เตอร์เครื่อง สำอาง
ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ขายบริการ แต่พวกนี้จะเลือกคน ไม่ได้ขายพร่ำเพรื่อ
มันก็เหมือนสาว ออฟฟิศบาง คนที่ขายตัวแต่ก็จะรู้กัน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลอีกว่า เคาน์เตอร์สวาทจะมีเกือบทุกห้าง
แต่ที่ตำรวจเคย ได้รับเบาะแส ก็มีห้างสรรพสินค้าแถวปิ่นเกล้า, ย่านวังบรูพา
และห้างสรรพสินค้าแถวรังสิต แหล่ง”จับไก่” มือดีได้-มือร้ายอด

ศูนย์การค้าอีกจุดหนึ่ง
ที่นักชอปปิ้งเซ็กซ์นิยมเป็นห้างสรรพสินค้าแถวงามวงศ์วาน และ ห้างสรรพสินค้า
ย่านลาดพร้าว ซึ่งทั้งสองแห่งนี้นักเที่ยวต่างให้สมญานามว่า เป็นที่ “จับไก่”
ห้างสรรพ สินค้า ย่านงามวงศ์วาน แห่งนี้
ไม่ได้เหมือนที่บริเวณเซ็นเตอร์พ้อยต์ และห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า
ที่มีหญิงสาว ขายบริการ นั่งหรือยืนอยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง
แต่ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมของเด็กวัยรุ่นใจแตก หรือที่ศัพท์ของ
นักเที่ยวเรียกกันว่า “ไก่” ซึ่งพวกเธอมักแสวงหาผู้ชายที่ถูกอกถูกใจ
และพร้อมให้ทั้งกาย โดยอาจแลก กับ เงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท
หรือแลกกับเบียร์เพียงขวดเดียว ที่สำคัญกลุ่มวัยรุ่นและสาวๆ ใจแตกที่นี่ ส่วน
ใหญ่ยังสวมเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา “ไก่” ที่นี่จะนั่งประจำอยู่
บริเวณชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นโรง ภาพยนต์ และตู้เล่นเกม และอีกจุดหนึ่งคือ
บริเวณที่นั่งพักหน้าห้างฯ ซึ่งเด็กสาวเหล่านี้ มักจะจับกลุ่มประมาณ 2-3 คน
นั่งประจำอยู่ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ห้างฯแห่งนี้ จะมี “ผับกลางวัน”
และร้านขายสุราอยู่ 2 แห่ง คือ บริเวณชั้น 5 ซึ่งเป็น ผับกลางวัน
มีดนตรีแนวป๊อบ และร็อกเขย่า อารมณ์เย้า ยวนให้ เข้าไปเที่ยว โดยเฉพาะ ร้าน
บริเวณชั้น 5 นี้ ถือเป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น แม้จะมีป้ายหน้าร้าน
ระบุว่าห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
แต่ดูเหมือนจะติดเป็นธรรมเนียมตามกฎหมายเท่านั้น เพราะภายใน ร้าน ส่วนใหญ่
จะมีวัยรุ่นชายหญิงเดิน เข้าออกอย่างสะดวกสบาย ที่สำคัญร้านแห่งนี้
ถือเป็นสถานที่ซึ่งเด็กวัยรุ่นผู้หญิงใจแตกมักจะเข้ามาหาเหยื่อ
ด้วยการนั่งอยู่ตามโต๊ะเหล้า
เพื่อรอชายหนุ่มที่ต้องการแสวงหาความใคร่จากพวกเธอ
อีกร้านหนึ่งอยู่บริเวณชั้น 3 จัดเป็นร้านขายเครื่องดื่มประเภทเหล้า เบียร์
ที่นี่นับเป็นแหล่งรวม ของนิสิตของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในย่านนั้น
และร้านแห่งนี้ “ผู้จัดการรายวัน” ได้สอบถามไปยังกลุ่มนักดื่มในร้าน นักล่า
“ไก่” ยืนยันว่า “ผู้หญิงขาย ตัวที่นี่ ไม่ค่อยพบ แต่ประเภท “ไก่” มี เยอะ
ผมเคยมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งรู้จักกันที่ห้างสรรพสินค้า
แห่งนี้ โดยเธอยินยอมพร้อมใจมานั่งกินเบียร์ที่ร้านแห่งนี้ หลังจากนั้นก็จบลง
ที่เตียงในอพาร์ทเม้นต์ของผม” อย่างไรดี “ไก่”
ที่นี่ก็ยังไม่คึกคักเท่ากับห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว ซึ่งนักเที่ยว
และหนุ่มๆ หลายคนนิยามว่า “เป็นแหล่งรวมสาวใจถึง” ที่เชลล์
ชวนชิมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เด็กมัธยมผูกคอซอง, สาวพาณิชย์, สาวมหาวิทยาลัย
หรือหญิงใจแตกสุดเซ็กซี่ ที่นี่มีหมด
ซึ่งแหล่งนัดพบของพวกเธอจะนั่งอยู่บริเวณ ชั้นใต้ดินและมักจะ ยืนอยู่
บริเวณชั้น 2 และ 3 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
ให้ข้อมูลว่า มีกลุ่มเด็กสาวๆ ขาประจำหน้าเดิมๆ
มานั่งรอตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าเปิด บางคนก็ใส่ชุดนักเรียน
บางคนก็ใส่ชุดหวือหวา ไม่เพียงแค่นั้นตกบ่ายก็จะมีแก๊งนิยมเสื้อสายเดี่ยว
เสื้อเกาะอก มาชุมนุมกันอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน ชั้น 2 และชั้น 3
“ผมไม่แน่ใจว่าพวกเธอใช่ “ไก่” อย่างที่ผู้ชายทั่วไปเรียกกันหรือเปล่า
แต่เห็นสาวๆ พวกนี้มาเที่ยวที่ห้างฯ ทุกวัน ยิ่งช่วงวันศุกร์ เ สาร์
และอาทิตย์พวกนี้จะจับกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก” พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
แนะนำว่า เห็นเขาว่ากันว่าใครอยากจับพวกเธอให้ส่งซิกส์ด้วยการชูหนึ่งนิ้ว
หลิ่วตาหนึ่งข้าง ก็อาจจะได้เธอ มาครองหรือหากใครมั่นใจว่าหน้าตาดี
ยิ่งไม่มีปัญหา ไม่ต้องส่งซิกส์ ส่งสายตา สาวๆ พวกนี้จะเข้ามารุมคุณเอง
กะเทยยึดห้างฯ “ถูกใจให้ฟรี ทำดีได้เบิล”
ไม่เพียงแต่การชอปปิ้งเซ็กซ์ที่จะต้องใช้เงินซื้อหา หากคุณอยากจะ
สำเร็จความใคร่โดยไม่เสียสตางค์ แนะนำว่าควรจะไปที่ห้างสรรพสินค้าย่านสีลม
และห้างสรรพสินค้าบริเวณ แยกราชประสงค์ ที่ตั้งติดอยู่พระพรหมเอราวัณ
ที่บอกว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญและอาจจะไม่ต้องเสียสตางค์เลย ก็เพราะที่นี่
คือแหล่งกะเทย ขายตัวและเกย์ ซึ่งยึดทำเลห้างสรรพสินค้า ทั้งสองแห่งนี้
แสวงหาผู้ชายมาบำเรอ เป็นเรื่องที่ทราบกันในหมู่นักชอปปิ้งเซ็กซ์ว่า
การขายบริการทางเพศที่นี่เป็นแหล่งสนอง ผู้ชายประเภทไม้ป่า เดียวกัน
และยิ่งพิสูจน์ได้ชัดเจน เมื่อ “ผู้สื่อข่าว” ได้ลงพื้นที่
และบังเอิญเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เหตุเกิด
ที่ห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าย่านสีลม บริเวณชั้น 2 วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์
เวลา ประมาณ 20.15 น. ขณะที่ “ผู้สื่อข่าว” กำลังยืนล้างมือในห้องน้ำ
ทันใดนั้นห้องถ่ายทุกข์ห้อง หนึ่งก็เปิดขึ้นพร้อมชายวัยประมาณ 20 กว่าปี
เดินออกมา เขาทิ้งกระดาษชำระ ท่าทางลุกลี้ลุกลน เร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องน้ำ
จริงๆ แล้วดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่ห้องถ่ายทุกข์ห้องเดิมก็ปรากฏชายวัยรุ่นผมย้อมสีทองเดินออกมา
เขาวิ่งออกมาโยนกระดาษชำระทิ้ง และ วิ่งออกจากห้องน้ำไป “ผู้สื่อข่าว”
ได้สอบถามพนักงานขายในบริเวณนั้น ได้รับข้อมูลว่า ห้องน้ำแห่งนี้คือ สวรรค์
ของการเสพสม ของกระเทยกับผู้ชายที่ฝักใฝ่ในเรื่องนี้
และไม่เพียงแต่ห้องน้ำชั้นนี้ที่บริเวณห้องน้ำชั้น 3
ก็นับเป็นสถานที่บำเรอรักของพวก นี้เช่นกัน “พนักงานชายทุกคนที่ทำงานที่นี่
ล้วนแต่เคยเห็นเหตุการณ์ ทำนองนี้ บางคนถึงขนาดเคยแอบดู ถึงได้ทราบกันว่า
พวกนี้ใช้ปากสำเร็จความใคร่ในห้องน้ำ” กะเทยหนุ่มวัย 24 ปี (ขอสงวนนาม)
เปิดใจ ว่ากะเทยและเกย์ที่หากินบริเวณห้างสรรพสินค้า ย่านสีลม
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียว กับที่ทำงาน ในบาร์ย่านพัฒนพงษ์
โดยหากในช่วงบาร์ยังไม่เปิด พวกนี้ก็มักออกมาจับผู้ชาย “ชายชาตรีบางคน
เขาก็นิยมมาใช้บริการ ให้เราใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ เพราะอาจเห็นว่า
การไปเที่ยวผู้หญิงบริการ มันเสี่ยง ต่อการติดเอดส์”
ส่วนราคาค่าบริการไม่แน่นอน มีตั้งแต่ 200-400 บาท แต่ส่วนใหญ่จะบริการฟรี
เพราะกะเทย ที่นี่ ยึดสโลแกนว่า “ถูกใจให้ฟรี ทำดีได้เบิล” ใครคือเอเยนต์ ?
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจ แห่งชาติให้ ข้อมูล ว่า
ผู้หญิงขายบริการที่ยึดอาชีพตามห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่จะมีเอเยนต์
คอยคุมหรือดูแลผลประโยชน์
เพราะถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการทำธุรกิจค้ากาม
อย่างที่ร้านอาหารย่านสยามสแควร์ซอย 2 แห่งนี้เจ้า
ของร้านจะเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ คือเมื่อลูกค้าออฟผู้หญิงออกจากร้าน
ก็จะต้องโดนหักเปอร์เซ็นต์ ประมาณ 40-50% เช่น ราคาค่าตัว 2,000 บาท
เอเย่นต์หรือเจ้าของร้านก็จะหักไว้ครึ่งหนึ่งประมาณ 800 -1,000 บาท ส่วน
หญิงขายบริการก็จะได้ประมาณ 1,000-1,200 บาท
ในขณะที่ผู้หญิงบริการที่เตร่ขายประจำ อยู่บริเวณห้างสรรพ สินค้า
จะมีเอเยนต์ดูแลเช่นกัน และเอเยนต์เหล่านี้
มักจะเป็นกลุ่มเดียวกับเจ้าของกิจการค้า ประเวณีในย่าน นั้นๆ เช่น แถวปทุมวัน
สีลม ก็เป็นเจ้าของกิจการที่อยู่ในย่านพัฒนพงษ์
ส่วนค่าหัวคิวหรือเปอร์เซ็นต์นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 70:30 หรือ 80:20
คือ หญิงขายบริการจะได้ 70%, 80% และเอเยนต์จะได้ 30%, 20% อย่างไรก็ตาม
หญิงค้าบริการบางรายก็ค้าอย่างอิสระไม่พึ่งพิงเอเยนต์ แต่พวกนี้อยู่ได้ไม่นาน
เพราะจะ มีอิทธิพล มืดคอยเล่นงาน
ซึ่งในที่สุดแล้วก็ต้องยอมให้เอเยนต์คุ้มครอง “สถานีตำรวจแต่ละท้องที่
ต่างทราบถึงแหล่งค้า ประเวณีในห้างสรรพสินค้า หรือทราบว่าใครคือเอเยนต์
แต่ที่ไม่ได้กวาดล้างและจับกุมยอมรับว่า สถานีตำรวจ บางแห่ง ไม่ค่อยสนใจ
บางแห่งก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น ถ้า นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยากได้ผู้หญิง
เอเยนต์ เหล่านี้ก็จะส่งผู้หญิงมาให้”
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวทิ้งท้าย ถนนโลกีย์ไทย พ.ศ.นี้ จึง
ไม่ได้ร้อนแรงอยู่เพียง ซ่อง อาบอบนวด ค็อกเทลเล้านจ์ คาราโอเกะ เธค
หรือผับในวันนี้ทำเนียบค้าเซ็กซ์
ยังบรรจุห้างสรรพสินค้าเข้าในเมนูเซ็กซ์ของนักเที่ยวอีกด้วย
ที่สำคัญเมนูเซ็กซ์ใน ห้างสรรพสินค้า มีหญิงสาว ขายบริการทางเพศจำนวนหนึ่ง
ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ระเริงการค้า เซ็กซ์กัน อย่าง
โจ๋งครึ่ม

ถ่าย… ก่อนขายตัว (ข่าวจาก www.bangkokbiznews.com)
ใน ความคิดที่ว่า “ในเมื่อใครๆ ก็ทำได้ ทำไมตัวเองจะทำไม่ได้”
ทำให้หญิงสาวหลายคน พกความมั่นใจ เดินเข้าร้านถ่ายรูป แล้วเปลื้องผ้าถ่ายนู้ด
โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า เก็บไว้ดูเล่น แต่เมื่อ ‘ปมอวดตัว’
เล่นตลกและเจ้าตัวนึกสนุก การเปลื้องผ้าครั้งนั้น
จึงนำตัวเองเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี พิษณุรักษ์ ปิตาทะสังข์ รายงาน
เพราะภาพหนึ่งภาพมีความหมายมากกว่าคำพูดล้านคำ หลายคนจึงเลือกบันทึก
ความทรงจำ ด้วย การถ่ายภาพ และเพราะไม่สามารถย้อนเวลาหาอดีตได้
อีกหลายคนก็เลือกเก็บวันเวลาในเป็นภาพถ่าย ยิ่งได้ช่างภาพดีๆ กับมุมกล้องสวยๆ
แสงเงาพอเหมาะ ทำให้ภาพนั้นทรงคุณค่า แม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ไม่ว่า
ชายหรือหญิง เรือนร่างที่สมส่วนกับวัยที่สมบูรณ์
ใครก็อยากจะเก็บความทรงจำนั้นไว้

เปิ้ล นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกเก็บสัดส่วนสวยๆ ด้วยการถ่ายภาพ
รูปร่างของเด็กสาววัยที่ผ่านมาแล้ว 19 ฝน กำลังได้รูป
เธอจึงถูกชักชวนให้ถ่ายรูปนู้ด เพื่อเป็นแบบให้กับ ช่างภาพที่รู้จัก
ตอนนั้นเปิ้ลคิดอยู่นานเพราะอาย แต่ความที่ไว้ใจทำให้ลดความกลัวไปได้มาก
ประกอบกับตอน นั้นต้องการใช้เงินด้วย จึงตัดสินใจถ่าย
“เพื่อนสนิทบอกว่าถ่ายเป็นศิลป์ก็น่าลอง เพราะเก็บไว้ดูได้ คิดว่าเป็น
เรื่องส่วนตัว ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายด้วย” เปิ้ลจึงตัดสินใจถ่าย
เธอยังจำวินาทีที่ต้องเปลื้องผ้าได้ดี ราว 4
เดือนก่อนเปิ้ลก็เพิ่งเข้าสตูดิโอถ่ายภาพนู้ดอีกครั้ง
แต่ภาพถูกนำไปเพื่อจุดประสงค์อื่น “ตอนหลังถ่ายเอา ไปให้พี่ๆ เขาไว้
เขาเป็นคนหาลูกค้าให้ เมื่อก่อนหาเองแต่ตอนหลังเพื่อนแนะนำให้ฝากตัวกับเขา
เลยสบาย หลังๆ นี้ไม่ค่อยอายๆ เพราะคุ้นเคยกับพี่ช่างภาพ
เพื่อนที่ขายก็ถ่ายกัน” วันนี้ เปิ้ลเลือกหารายได้พิเศษ ด้วยการขายบริการ
เมื่อมีลูกค้าต้องการเอเย่นต์จะโทรศัพท์มาเรียกผ่านทางรูปภาพที่เธอเคยฝากไว้
เปิ้ลเลือกถ่ายชุดนักศึกษาปลดกระดุม เพราะบ่งบอกสถานะของเธอได้ชัดเจน
ค่าใช้จ่ายเพียง 300-500 บาทต่อหนึ่งรูป
คุ้มค่าพอสำหรับรายได้ที่จะตามมาครั้งละ 1,000 เป็นอย่างน้อย Act 1 :
กล้องไฟพร้อม นศ.ก็พร้อม
การถ่ายภาพนู้ดเป็นสิทธิส่วนบุคคลซึ่งได้รับความนิยมมาช้านานช่างภาพบางคน
ว่าจ้างหญิงสาวเป็นแบบให้ถ่ายภาพศิลป์
เพื่อให้ร่างกายเป็นตัวบอกเรื่องราวและอารมณ์ของมนุษย์
หญิงในตระกูลชั้นสูงนิยมว่าจ้างให้ช่างภาพมือฉมังที่คุ้นเคย
บันทึกสัดส่วนตนไว้เชยชมในอนาคต ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง
แต่ปัจจุบันไม่ใช่แค่นั้น การถ่ายภาพนู้ดกำลังได้รับความนิยม กับกลุ่มคน
ที่หลากหลายขึ้น “นักศึกษาถ่ายนู้ดกันมากขึ้น

” โน้ต ช่างภาพอาชีพ 8 ปี เจ้าของสตูดิโอเฮ้าส์กลางเมืองเชียงใหม่กล่าวสั้นๆ
ก่อน แจก แจงประเภทของคนถ่าย ภาพนู้ดว่า มีด้วยกัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ
คนทำงานกลางคืน พวกหมอนวด หรือเด็กทำงานตามเลาจน์ หรือร้านคาราโอเกะ
กลุ่มนี้ต้องถ่ายเพราะต้องการเอารูปไปใช้ในการงาน
กลุ่มต่อมาพวกที่ถ่ายแบบภาพศิลปะ เป็น Fine Art บ้าง
คนกลุ่มนี้มีหลากหลายอายุตั้งแต่วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ยันคนทำงาน
กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มนักศึกษา เป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นไม่นานนัก โน้ตบอกว่า
ก่อนนี้นักศึกษาจะมาให้ถ่าย เป็นภาพนู้ด
ที่เป็นศิลปะเพื่อจะเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่น
แต่ระยะหลังทางร้านให้บริการทำเป็นการ์ดพิเศษ มีปฏิทินด้านหลัง
คล้ายบัตรประจำตัว หรือ’นู้ดการ์ด’ ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจมากขึ้น
ถ่ายเก็บเป็นแฟชั่น “กลุ่มนักศึกษาที่สนใจ ส่วนหนึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา
ที่เที่ยวกลางคืน เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่า เด็กกลุ่มนี้ขายตัว แต่เพราะ
เป็นคนที่เที่ยวกลางคืนด้วย และพอจะรู้จักเอเย่นต์หลายคน
เขาชี้ให้ดูรายตัวเลยว่า คนนั้นคนนี้ขายตัว และเคยเป็นเด็กในสังกัด
เรารู้ก็อึ้งไปเลย เด็กบางคนเที่ยวด้วย ขายด้วย แล้วก็เล่นยาด้วย”
โน้ตบอกเล่า
นู้ดการ์ดเป็นสิ่งที่เข้ามาแทนที่แค็ตตาล็อกนู้ดซึ่งคล้ายกับรายการสินค้าขายตรง
แต่เปลี่ยนจากสินค้าเป็น หญิงสาวในกิริยาเซ็กซี่
แล้วบอกสัดส่วนหรือเบอร์โทรติดต่อกลับที่อาจจะพบเห็นได้ตามตู้โทรศัพท์
หรือเคาน์เตอร์บริษัท หรือที่พักโรงแรมทั่วไป
แต่แค็ตตาล็อกต้องหลีกทางให้นู้ดการ์ด ซึ่งนักเรียน นักศึกษาที่ ขายตัว
สามารถนำไปเสนอขายให้กับเอเย่นต์อย่างเป็นส่วนตัว
ในจำนวนนักศึกษาที่ขายบริการนิยมถ่าย ในเครื่องแบบนักศึกษา
เหตุผลเพราะขายง่าย และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ช่างภาพคนเดิมบอกว่า
คอลเล็คชั่นชุดนักศึกษาเพิ่งมานิยมในช่วงปีหลังนี้
ซึ่งได้กระแสมาจากนักศึกษาขายตัว บางคนแกะกระดุม ออกหนึ่งหรือสองเม็ด
เด็กบางคนถ่ายกับเสื้อเชิร์ตแต่ไม่ใส่เสื้อชั้นใน หรือบางคนเปลือยอกก็มี
ที่ผ่านมาพบว่า พวก ที่ต้องการถ่ายแบบศิลปะน้อยกว่าพวกที่ถ่ายตามกระแส
“เด็กเขาไม่วอรี่เลย บอกให้แก้ก็แก้เดี๋ยวนั้น แล้วเด็กออกแบบท่าทางเองด้วย
บางคนท่าไม่สวยหรือยังอายอยู่ เราก็ใช้วิธีก็อปท่าจากวิดีโอโป๊ของญี่ปุ่น
พวกที่มีท่าเซ็กซี่ แต่เราเน้นท่าที่เป็นธรรมชาติสำหรับลูกค้า
บางคนวันเดียวมา 3 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นแบบ ปากต่อปาก
เพื่อนที่เคยถ่ายก็ชวนกันมา ช่วงหลังผู้ชายก็มาถ่ายเหมือนกัน”
ค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำนู้ด ของร้านมีหลายราคา โน้ตบอกว่า ตั้งแต่ 250-600 บาท
แต่ทั้งหมดยืนยันว่าเป็นความลับระหว่างลูกค้ากับช่างภาพ
ไม่มีการนำไปเผยแพร่ที่ไหน เพราะทั้งหมดเก็บเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ซึ่งลูกค้าจะทราบรหัสผ่าน (Password) “เขาไม่ถ่ายกับเรา
เขาก็ต้องไปถ่ายที่อื่น” ประสบการณ์กว่า 8 ปีทำให้โน้ตคิดอย่างนั้น
เพราะช่างภาพที่ถ่าย นู้ดมีหลายคน เขาบอกว่า
คนถ่ายบางส่วนเพื่ออยากเก็บไว้ดูตอนแก่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่บางส่วนอาจจะ
ถ่ายเพราะ เป็นเรื่องของกระแสโดยเฉพาะเด็กๆ
หรือนำไปทำธุรกิจซึ่งต้องว่ากันเป็นรายๆ ไป

Leave a Reply