ถนนสายโลกีย์เมืองกรุง

ถนนสายโลกีย์เมืองกรุงทั้งหญิง-ชายยืนเร่ขายบริการทางเพศ
รอบสนามหลวง-พระบรมมหาราชวัง-เลียบทางรถไฟสุดฮิต
ตะลึง!!!แม้แต่พระยังออกจากวัดยามคํ่าคืนมาใช้บริการ”ผู้ชาย”

คํ่าคืนหน้าฝนเมืองกรุงยามนี้
หลายคนซุกตัวหลับตานอนใต้ผ้าห่มอย่างมีความสุข
แต่มีอีกหลายคนที่ต้องอดหลับอดนอนลุกขึ้นมาหาเลี้ยงชีพ
ที่มีทั้ง ยาม แม่ค้า คนเก็บขยะ
คนเหล่านี้เลือกเกิดไม่ได้
แต่เลือกที่จะหาอาชีพให้กับตัวเองได้
แต่บางชีวิตพอใจเลือกในหนทางที่แตกต่าง
นั่นก็คือการขายบริการทางเพศ

แม้อาชีพการขายบริการทางเพศในประเทศไทย
ไม่เป็นที่ยอมรับ
แต่ก็มีหญิงชายจำนวนไม่น้อยที่ยึดอาชีพนี้
ซึ่งมีหลายรูปแบบในเมืองกรุง
โดยเฉพาะตามย่านสถานบันเทิง
หรือถ้าจะเป็นแบบเปิดเผยในที่สาธารณะปัจจุบันมีหลายโซนพื้นที่
เช่น ที่หลายคนรู้จักกันดี คือ ผีขนุน
ผีมะขามตามสนามหลวง ที่ยึดใต้ต้นขนุน
และต้นมะขามตามสนามหลวงเป็นทำเลทองยืนเรียกแขก
เรียกว่าโซนนี้ผู้หญิงครอง

ถัดไปไม่ไกลกันนักบริเวณใกล้พระบรมมหาราชวัง
วังสราญรมย์ ข้างกระทรวงมหาดไทย ถนนเจริญกรุง
แยกสะพานมอญ โซนนี้เป็นของผู้ชายโดยเฉพาะ
ยามค่ำคืนจะยืนเรียงรายให้เลือก
มีตั้งแต่หล่อล่ำบึ้ก สูงยาวเข่าดี เตี้ยคมเข้ม
ไปถึงตี๋หล่อ บางคนเลียนแบบ “เรน”
นักร้องดังเกาหลี สวมหูฟัง ยืนเต้นยึกยัก
ท่าทางเมามัน สร้างความเพลิดเพลิน
จนมีคำฮิตเรียกกันว่า “ไปดูเรน”
หรือถ้าจะข้ามห้วยไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่
เดิมเราเคยเห็นคุณสาว ๆ สวย ๆ สวมเสื้อสายเดี่ยว
กางเกงขาสั้น ยืนให้เลือกสรรหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง
ตอนนี้คุณเธอก็ย้ายทำเลมายืนเรียงแถวริมถนนเลียบทางรถไฟ
(โลคัลโรด) ยาวตลอดแนวจนสุดถนนอโศกเลยทีเดียว

“โต” เด็กหนุ่มวัย 21 ปี รูปร่างหน้าตาดี
ยึดป้ายรถเมล์ ริมถนนเจริญกรุง ข้างกระทรวงมหาดไทย
เป็นทำเลทอง เปิดใจกับทีมงานว่า
มีเพื่อนร่วมอาชีพในย่านนี้ราว 100 คนเศษ
อายุตั้งแต่ 15-30 ปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวัย
ยี่สิบต้น ๆ
ตัดสินใจเข้ามาในเส้นทางนี้ด้วยตัวเองเพราะใช้เงินเก่ง
หลังนั่งรถเมล์ผ่านเลยเห็นพี่ ๆ
ที่ทำอาชีพนี้จึงสนใจเข้าไปสอบถาม
จนมาเข้าวงการได้ปีกว่าแล้ว
กลางวันเรียนหนังสือในระดับ
ปวส.สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง จนจบ ปวส.เมื่อ 6
เดือนก่อน ตอนนี้เลยทำเต็มตัวมาราว 6
เดือนแล้วที่นี่จะยึดทำเลเป็นกลุ่ม ๆ
กลุ่มใครกลุ่มมัน ยืนกระจาย ๆ ตามใต้ต้นไม้ เสาไฟ
ป้ายรถเมล์ ที่เลือกอาชีพนี้
เพราะหาเงินง่ายรายได้ดี แต่ละคืนได้สูงสุดถึง
6,000 บาท อาทิตย์ละ 40,000-50,000 บาท
ต่ำสุดก็อาทิตย์ละ 10,000 กว่าบาท
ทำงานเกือบทุกคืน เพราะมีลูกค้าเยอะ
โดยเฉพาะช่วงคืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์
จะเยอะเป็นพิเศษ จนต้อง
ปฏิเสธลูกค้าบางรายเพราะรับไม่ไหว

เงินที่ได้มาหมดไปกับเรื่องกิน เรื่องเที่ยว
ซื้อเสื้อผ้า แต่ก็เก็บส่วนหนึ่ง
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงกอบโกย ไม่เคยต้องนั่งตบยุง
เพราะลูกค้าเยอะมีทั้งขาจรและขาประจำ
ล่าสุดมาติดใจส่งเสียเลี้ยงดู ดาวน์บ้านให้
500,000 บาท ตนก็ผ่อนเอง
ถ้าเก็บเงินได้ซักก้อนก็คงจะเลิก
และกลับไปเรียนต่อให้จบปริญญาตรี และหางานดี ๆ ทำ

“ผมและเพื่อน ๆ ร่วมอาชีพในย่านนี้
ส่วนใหญ่เป็นเกย์ มีชาย 100% ไม่กี่คน
ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นเกย์ เป็นตุ๊ด
ตนให้บริการได้ทั้งรุกและรับแล้วแต่ว่าจะตกลงกัน
เร็วบ้างช้าบ้างแล้วแต่ว่ามีลูกค้ารายอื่นรอมากแค่ไหน
ค่าบริการต่ำสุดก็ 500 บาท ไม่รวมค่าห้อง
ซึ่งมีทั้งใช้บริการตามโรงแรมราคาถูกในย่านนี้ราคาครั้งละ
350 บาท บางครั้งลูกค้าก็พาไปบ้าน ไปคอนโดฯ
หรือโรงแรมในย่านอื่น ผมเลือกลูกค้าโดยดูจากรถยนต์
ถ้ารถใหม่โอกาสที่จะตกลงกันง่ายและได้เงินมากก็ไปด้วย
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้วิธีนี้ได้
หากรูปร่างหน้าตาไม่เป็นที่สะดุดตาก็ยากที่จะเลือกลูกค้าได้
วิธีนี้สงวนไว้สำหรับคนหน้าตาดีเท่านั้น”

ระหว่างนั่งคุยกันมีรถยนต์ขับมาชะลอตรงหน้าเป็นระยะ
ๆ นั่นหมายถึงว่ามีลูกค้ามาสนใจ

“วิธีหาลูกค้าทำได้ง่าย คือ การจิกตามองตามรถ
คนในรถก็จะมองตอบ พอใจคนไหนก็ตกลงคุยกัน
แล้วพาขึ้นรถไป เสร็จธุระก็พามาส่ง
ดูลูกค้าได้ง่าย ๆ
ก็คือพวกที่ขับรถมาวนย่านนี้ตั้งแต่ 4 ทุ่ม
ถึงตีสี่ โดยขับช่องซ้ายสุดที่ติดฟุตปาธ
ลูกค้ามีทั้งขับรถยนต์ธรรมดาไปถึงรถยนต์หรูหราราคาแพง
รถแท็กซี่มีบ้างแต่ไม่มาก
แต่ลูกค้าของผมไม่มีที่เดินลงจากรถเมล์
ถ้าไม่อยากรับลูกค้าผมก็จะเดินหนีหรือก้มหน้านิ่ง
ๆ ไม่สนใจ ลูกค้าเหล่านี้จะรู้กันเองว่าไม่ตกลง
ลูกค้าที่มาที่นี่มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ดารา
นักการเมือง ฝรั่งชายจากถนนข้าวสาร
ไม่เว้นแม้แต่พระ !! จากวัดบริเวณนี้
ซึ่งในกลุ่มผมจะปฏิเสธเพราะกลัวคุก
โดยลูกค้าผู้ชาย 70%
ส่วนที่เหลือก็มักจะเป็นพวกสาวแก่แม่ม่าย
มีบ้างที่เป็นนายหน้าของบรรดาคนดังทั้งหลายที่จะมาดูตัวแล้วเรียกไป”

“ผมรู้ว่าอาชีพนี้ผิดกฎหมาย
เพราะทุกคืนตำรวจจะส่งกำลังมากวดขันหลายรอบ
พวกผมก็ต้องวิ่ง วิ่งไม่ทันก็โดนจับไป สน.
เสียค่าปรับ 500 บาท ข้อหาชักจูงให้ร่วมประเวณี
ก็ไม่เข็ด เพราะคุ้มกับเม็ดเงินที่ได้มา
บางรายไม่มีเงินเสียค่าปรับก็ต้องนอนโรงพัก 1 คืน
เช้าก็ถูกปล่อยตัว
แต่พวกผมก็คิดว่ามันเป็นงานเป็นอาชีพ
แต่ก็ต้องป้องกันสุดฤทธิ์ ใส่ถุงยางกันถึง 2 ชั้น
ถ้าจะให้โมคก็ต้องผ่านถุงยางเพราะกลัวโรค
และต้องปกปิดไม่ให้ที่บ้านรู้
ผมจึงแยกออกมาพักต่างหาก แต่ก็ใช้ชีวิตในด้านอื่น
ๆ ตามปกติ กลัวที่สุดคือพ่อแม่ที่บ้าน และเพื่อน ๆ
รู้ ผมต้องปิดเป็นความลับไปจนตาย
แต่ก็เคยมีที่เพื่อน ๆ นั่งรถเมล์ผ่าน
พอเจอที่โรงเรียนก็ถามผม ผมก็บอกว่าไปนั่งรอรถเมล์
เค้าก็ไม่ติดใจ”

ระหว่างพูดคุยราวเที่ยงคืน
มีพระรูปหนึ่งเดินมาที่ป้ายรถเมล์
พวกเราเอะใจทำไมพระถึงมารอรถเมล์???
สักพักพระรูปนั้นก็ถามเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นเพื่อน
“โต” พร้อมเสนอราคา 900 บาท !! แต่เด็กหนุ่มปฏิเสธ
พร้อมไล่ให้กลับวัด “โต”
บอกว่าบางคนที่ไม่มีทางเลือกมากนัก ก็ตอบตกลง
ซึ่งต้องทำตัวเป็นญาติไปเยี่ยมพระ
หรือแกล้งเป็นเด็กวัด
เพื่อเข้าไปปฏิบัติภารกิจนี้ในวัด !!!
หากเป็นที่โรงแรมเหมือนคนอื่น ๆ เสี่ยงติดคุก

ลองข้ามไปดูวิถีชีวิตของหญิงสาวรอบ ๆ
สนามหลวงกันบ้าง

“เอ๋” วัย 23 ปี
ยึดทางเท้าริมสนามหลวงฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าว่า
รอบสนามหลวงมีหญิงสาวมาขายบริการทางเพศเกือบ 200
คน มีทั้งกลางวันกลางคืน กลางวันอายุมากหน่อย
ราคาถูกมาก 200-300 บาทต่อครั้ง แต่มีน้อย
ส่วนกลางคืนหน้าตาดีหน่อยมีกว่า 100 คน มีตั้งแต่
500-800 บาท ขึ้นอยู่กับหน้าตา
ตนเข้าสู่วงโคจรของอาชีพนี้มานานเกือบปีแล้ว
เดิมทำงานที่ร้านคาราโอเกะแต่เพราะต้องการอิสระ
จึงลาออกและเปลี่ยนมาเลือกอาชีพขายบริการทางเพศ
รายได้ดีได้เงินง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไร
แต่ละครั้งได้ค่าบริการรายละ 500-800 บาท
ซึ่งลูกค้าจะเป็นคนจ่ายยังไม่นับค่าห้องอีกครั้งละ
80-350 บาท แล้วแต่เกรดและเวลาที่ใช้ในโรงแรม
แต่ละคืนมีรายได้ราว 1,000-1,500 บาท
อาจเพิ่มหรือลดตามจำนวนลูกค้า

“บางคืนนั่งตบยุงก็มี เพราะไม่ได้ลูกค้า
นี่ก็ไม่ได้มา 2 วันแล้ว
หนำซ้ำเมื่อคืนก่อนยังโดนจี้โทรศัพท์มือถือไปอีก
โดยทำทีมาเป็นลูกค้า จอดรถไกล ๆ
แล้วเดินมาหาก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถปิกอัพ
พอข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าไปก็เอาปืนจี้โทรศัพท์มือถือไปเลย
ก่อนจะปล่อยเราทิ้ง ทำอะไรไม่ได้
ถือว่าเป็นคราวซวย เพื่อน ๆ
ที่ขายบริการด้วยกันก็โดนจี้ปล้นบ่อยทั้งเงินทั้งโทรศัพท์
แถมลูกค้าบางรายชักดาบใช้บริการแล้วหนีบ้าง
บางครั้งก็เจอบรรดาลูกค้าที่ชอบความรุนแรง
และมีรสนิยมทางเพศที่แปลก ๆ บ้าง
แต่นั่นก็เหมือนฝันร้ายในบางคืน
เมื่อตื่นขึ้นในวันใหม่
ก็ต้องก้มหน้าก้มตาขายร่างทำมาหากินกันต่อไป”

“ต้องเลือกลูกค้าให้ดี แม้ว่าจะเลี่ยงไม่ได้
ก็เลยต้องเลือกจากภายนอกไว้ก่อน เช่น
ลูกค้าที่ขับรถมาเองก็น่าเชื่อถือกว่านั่งแท็กซี่
เพื่อนบางคนดูยี่ห้อรถเลยด้วยซ้ำ
ต้องเป็นรถใหม่ด้วย รถเก่า ๆ ไม่เอา
ยิ่งพวกที่เดินเลือกนี่ไม่ไหว น่ากลัว
ถ้าวันไหนไม่ขัดสนจริง ๆ ขอเลี่ยงดีกว่า
แต่บางทีลูกค้าที่ขับรถดี ๆ มาก็ร้ายยิ่งกว่า
เคยเจอครั้งหนึ่งคราวนั้นมีอะไรกันเสร็จแล้วแหละ
จากนั้นเขาก็ให้เรามาร้อยหนึ่งให้ไปซื้อบุหรี่ที่เซเว่นฯ
ไอ้เราก็เห็นว่าหน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี
คิดว่าน่าจะมีเงินแถมยังรออยู่หน้าร้าน
ก็ตกลงเดินเข้าไปซื้อให้
แต่พอเดินออกมาเขาก็หนีไปแล้ว”

เมื่อถามว่า ลูกค้าประเภทไหนที่สาว ๆ
อย่างพวกเธอชอบที่สุด
เธอรีบตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า
ต้องเป็นฝรั่งต่างชาติ
เพราะพวกนี้ไม่ร้ายเหมือนคนไทยด้วยกันเอง
ซ้ำยังให้ค่าตอบแทนราคางาม มีพาไปเลี้ยงข้าว
แถมบางรายกลายเป็นลูกค้าประจำกันไปนานเลยทีเดียว

เสียงเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกดัดแปลงของวัยรุ่นชายดังแทรกเป็นระยะ
ในระหว่างที่เราคุยกัน แต่โดยไม่ทันจะเปล่งเสียงคำถาม
“ผู้ชายพวกนี้คือคนรักของเพื่อน ๆ ร่วมอาชีพของเธอ
ที่จะคอยรับส่งแฟนสาวของพวกเขา
คอยดูแลความปลอดภัยในกรณีมีพวกแสร้งเป็นลูกค้า
แต่กลับไม่ใช้บริการซ้ำยังลวนลามฟรี ๆ
บางทีก็มีตีกันนะ ลูกค้าคนไหนไม่ใช้บริการแต่เข้ามาหาเรื่อง
แถมบางคนยังแอบจับหน้าอกแฟนเขา
ก็จะโดนกระทืบซึ่งก็สมควรแหละค่ะ” “เอ๋”
เล่าพลางหัวเราะ

ถึงกระนั้นเรายังแปลกใจ
เหตุใดคนรักกันถึงให้แฟนของตนทำอาชีพเช่นนี้
“ถ้าพี่มีคนเอาเงินให้ใช้ฟรี ๆ
พี่เอารึเปล่าล่ะ… แค่คอยมาส่ง คอยยืนเฝ้า
ไม่ต้องทำอะไรเลย” “เอ๋” พูดด้วยน้ำเสียงสนุก ๆ
“คิดว่าตัวเองเป็นปัญหาของสังคมไหม” เราถาม “เอ๋”
นั่งนิ่งก่อนจะบอกว่า
เข้าใจว่าคนในสังคมมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่ดี
เป็นด้านมืดของสังคม
แต่ถ้ามีโอกาสที่ดีกว่านี้ก็คงจะไม่ทำ
แต่เราต้องใช้เงิน ต้องเลี้ยงตัวเองต้องเลี้ยงแม่
และอาชีพนี้ก็หาเงินง่าย ไม่ต้องแบมือขอเงินใครฟรี
หรือไปขอทาน
เป็นอาชีพสุจริตไม่ได้ไปโกงไปจี้ปล้นใครมา
แต่ก็ยอมรับว่าจะต้องปิดเป็นความลับ
เพราะตอนนี้อยู่กับแม่
ต้องบอกแม่ว่ามีงานต้องทำกลางคืน
แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามาทำอะไร
เพราะรู้ว่าแม่ต้องรับไม่ได้
คิดว่าจะทำต่อไปสักพัก พอเก็บเงินได้ก็คงจะเลิก
ตนไม่อยากจะทำอาชีพแบบนี้ไปตลอดชีวิต
เพราะไม่อยากเป็นอีกหลาย ๆ
คนที่ยึดมุมมืดข้างพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่ขายบริการกันมานับสิบปี
อายุมากแล้ว ได้ค่าบริการครั้งละ 100-150 บาทเอง

ในขณะที่ “น้องแนน” สาวสวยวัย 20 ปี
ที่ยืนเรียกแขกริมถนนเลียบทางรถไฟ บอกว่า
เป็นคนต่างจังหวัดจึงไม่กลัวพ่อแม่รู้
ตอนนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
ทำอาชีพนี้มา 2 ปี แล้ว
แถวนี้เรียกค่าบริการขั้นต่ำครั้งละ 1,500 บาท
แต่ละคืนก็ได้หลายพัน
จึงไม่ต้องขอเงินที่บ้านใช้สำหรับค่าเล่าเรียน
ค่าแต่งตัวจิปาถะ กลัวก็แต่เพื่อน ๆ จะมาเห็น
จึงต้องแต่งหน้าจัด ๆ อำพราง ตนและเพื่อน ๆ
แถวนี้เกรดดีกว่าสนามหลวง ทั้งรูปร่างหน้าตา
และความสด ราคาจึงแพงหน่อย
ลูกค้าที่มามีรถทั้งนั้น อย่างน้อยก็มารถแท็กซี่
ไม่ใช่เดินมาเหมือนกรรมกร ถ้าเกิดมารวยก็คงไม่ทำ
แต่นี่ต้องหาเลี้ยงตัวเอง เรียนจบได้งานดี ๆ
ทำก็คงเลิก
แต่ตอนนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองแบบนี้ไปก่อน

ที่มา : เดลินิวส์

Leave a Reply