ติดเข็มกลัดกลับหัวส่งซิกขายตัว

ติดเข็มกลัดกลับหัวส่งซิกขายตัวฮิตเชียงใหม่

“ติดเข็มกลัดกลับหัว”ส่งซิกขายตัวฮิตเชียงใหม่
นักศึกษาสาวไซด์ไลน์เปลี่ยนแนวใหม่เลือกลูกค้ามากกว่าให้ลูกค้าเลือก
พร้อมขยับราคาเป็น 3,000-5,000 บาท
เน้นขายแบบรายเดือนให้นายทุนกระเป๋าหนักทั้งไทย-เทศ
ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กรับตามเด็กไม่ทันวอนหน่วยงานรัฐ-เอกชน
บูรณาการแก้ปัญหา

แม้ในปัจจุบันหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนจะร่วมกันการรณรงค์ให้วัยเด็กสาววัยรุ่นรักนวลสงวนตัว
เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง ทั้งการทำแท้งและติดเชื้อเอชไอวี
แต่ปรากฏว่าการขายตัวของกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา
ยังคงมีให้เห็นจนกลายเป็นเรื่องปกติและยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ
องการติดต่อขายบริการให้สังเกตได้ง่ายขึ้น

น.ส.ก้อย (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.เชียงใหม่
เปิดเผยว่า ขณะนี้ในกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนใน จ.เชียงใหม่
ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการขายบริการโดยรับเอารูปแบบมาจากทางกรุงเทพฯ
ซึ่งกลุ่มนักเที่ยวจะสังเกตได้จากการติดเข็มกลัดของมหาวิทยาลัยกลับหัวลง
แสดงว่านักศึกษาคนนั้นขายตัว
โดยรูปแบบการขายบริการจะแตกต่างไปจากเดิมบ้าง คือ
กลุ่มเหล่านี้จะเลือกลูกค้าที่เข้ามาขอใช้บริการมากกว่าที่ลูกค้าจะเป็นผู้เลือกเอง
การขายนั้นจะอยู่ประมาณ 3,000-5,000 บาท แล้วแต่ละมีการตกลงกัน
แต่หากถูกใจกันมากอาจจะไปด้วยกันและให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้
ปัจจุบันนักศึกษากลุ่มนี้เริ่มที่จะเปลี่ยนจากการขายบริการเป็นครั้งคราว
เป็นการเหมาแบบรายเดือน ตกเดือนละประมาณ 15,000 บาท
ซึ่งบางรายอาจจะมีการซื้อรถให้ใช้หรือส่งเสียเลี้ยงดูต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจจากกรุงเทพฯ ที่มาเปิดกิจการใน
จ.เชียงใหม่ รวมทั้งกลุ่มต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่
จ.เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง
สำหรับกลุ่มนักศึกษาด้วยกันเองจะไม่นิยมใช้บริการด้วยกัน
เนื่องจากกลุ่มนี้ค่อนข้างที่จะเลือกลูกค้าและมีราคาแพง

น.ส.ก้อย กล่าวอีกว่า
พฤติกรรมการขายบริการของนักศึกษากลุ่มนี้
จะเน้นเดินหาลูกค้าตามห้างสรรพสินค้าโดยกลุ่มลูกค้าที่รู้จะเข้ามาทักทาย
หากถูกใจจะมีการตกลงราคา และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการแนะนำจากคนรู้จักกัน
โดยใช้ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟเป็นที่นัดพบ อย่างไรก็ตาม
หากตกลงกันได้จะพากันไปที่ห้องพักซึ่งทางนักศึกษาเช่าทิ้งไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
แต่ไม่นิยมไปโรงแรมเนื่องจากเป็นสถานที่พลุกพล่านเกรงว่าจะพบกับคนรู้จัก

ด้านนางรสสุคนธ์ ทาริยะ
เลขานุการคณะกรรมการดำเนินการศูนย์ประสานงานเพื่อพิทักษ์สิทธิเด็ก
กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเคยได้ยิน
การเปลี่ยนรูปแบบการขายบริการในปัจจุบันเร็วมาก จนบางครั้งทางศูนย์ฯ
ตามไม่ทัน
การทำงานกับกลุ่มเหล่านี้จะต้องใช้เวลามากกว่ากลุ่มที่ถูกบังคับให้ทำ
เนื่องจากกลุ่มนี้จะทำโดยการสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับ

ดังนั้นการดำเนินการจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

แต่ทั้งนี้จะให้ทางศูนย์ฯ
ทำงานเพียงฝ่ายเดียวคงจะไม่สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือกันทุกฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นจากทางโรงเรียน มหาวิทยาลัย ผู้ปกครอง
รวมไปถึงกระทรวงวัฒนธรรม ที่จะต้องเข้ามาร่วมกันทำงาน
โดยเฉพาะผู้ปกครองจะต้องให้ความสนใจในบุตรหลานมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้
เด็กที่ทำในลักษณะนี้อาจจะเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นในครอบครัว
หรือครอบครัวแตกแยก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่เช่าหอพักอยู่เอง
ผู้ปกครองจะต้องทราบความเคลื่อนไหวของบุตรหลานด้วย
ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเพียงฝ่ายเดียว

ขณะเดียวกัน กลุ่มอาจารย์ฝ่ายปกครองต้องดูแลนักเรียน
นักศึกษาอย่างใกล้ชิดในเวลาที่อยู่ในสถานศึกษาและต้องคอยให้คำปรึกษากับเด็ก
ไม่ใช่คอยจะจ้องจับผิดเพียงอย่างเดียว
เพราะในปัจจุบันสังคมเริ่มเปลี่ยนไปการใช้ไม้แข็งเหมือนครูในสมัยก่อน
จะไม่ได้ผลกับเด็กในสมัยนี้ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจและการพูดคุย

ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมน่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องการฟื้นฟูวัฒนธรรมของไทย
ซึ่งปัจจุบันเริ่มที่จะจางหายไป ให้หวนกลับคืนมาบ้าง
ถึงจะได้กลับมาไม่หมด แต่ก็อย่าให้หายไป
นอกจากนั้นในเรื่องของสื่อลามกต่างๆ
จะต้องมีการกวดขันเข้มงวดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
จะต้องมีการปราบปรามกันอย่างจริงจัง
เชื่อว่าหากมีการร่วมมือกันทำงานแล้วนั้น
ปัญหาการขายตัวของนักศึกษาจะลดน้อยลงไปได้บ้าง
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ความคิดเห็นที่ 2
มันก้อขายกันทุกภาค โทรศัพท์เครื่องละหมื่น
พ่อมันยังไม่มีปัญญาซื้อ แล้วลูกมันเอาตังค์มาจากไหน

Leave a Reply