ยาอันตราย

ยาอันตราย
แม้ชั่วโมงนี้ สาวๆ จำนวนไม่น้อยในสังคมจะเริ่มสะกดคำว่า “พรหมจรรย์”
ไม่ค่อยจะเป็นกันและกำลังจะกลายเป็นของหายากเข้าไปทุกทีแล้วก็ตาม
แต่เรือนร่างในวัยแรกรุ่นที่ว่ากันว่า ทั้งหอมทั้งหวานไปหมดทั้งตัว
ก็ยังคงเป็นเป้าหมายที่บรรดาชายนักล่าต่างถวิลหาอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย

นอกจากฝีมือประเภทคารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง
หรือความเป็นเสี่ยกระเป๋าหนักทั้งหลายแล้ว อีกหนึ่ง “ตัวช่วย”
ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็เห็นจะหนีไม่พ้น “ยาเสียตัว”
หรือ “ยาเสียสาว” ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยาอัลปราโซแลม โดมิคุ่ม ยาเค ยาเลิฟ
และที่กำลังมาแรงสุดๆ ก็คือ ยาเคชนิดใหม่ที่นำเข้ามาจากประเทศอิตาลี
ซึ่งมีราคาแพงถึงขวดละ 2,000 บาททีเดียว

นี่คือ ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก แต่เป็นสุภาษิตสอนหญิงบทใหม่
ในยุคปัจจุบันที่ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือสาวๆ ต้องระมัดระวังตัวให้มาก
เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะต้องเสียตัวโดยไม่เต็มใจก็เป็นได้

เปิดสาแหรกยาอันตราย
จากการตรวจสอบพบว่า ยาที่ใช้ในหมู่มิจฉาชีพ มีอยู่หลายตัว
ที่พบเห็นแพร่หลายคือ ยาอัลปราโซแลม หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า
“โซแลม” เป็นยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน(Benzodiazepine)เป็นสารที่ใช้เสพแทนยาบ้า
เกิดขึ้นมากในพื้นที่ อ.นาแห้ว จ.เลย โดยจะนำมาจำหน่ายให้ลูกค้า
ตามสวนอาหารร้านคาราโอเกะและนอกจากนี้
ยังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนในราคาถูกเม็ดละไม่กี่สิบบาท

โซแลมมีลักษณะเป็นเม็ดกลมหรือเรียวสีชมพูอ่อนหรือ สีฟ้าขนาดเท่ายาแก้แพ้
ซึ่งเป็นตัวยาอีกชนิดหนึ่งที่พวกมิจฉาชีพนำใช้ล่าเหยื่อที่เผลอตัวรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ด้วยวิธีการผสมตัวยาลงในเครื่องดื่มให้เหยื่อดื่มกิน
เมื่อร่างกายรับยาตัวนี้เข้าไปพร้อมออกฤทธิ์เพียงเวลาไม่กี่นาที
จะมีผลกระทบต่อระบบประสาททำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายง่วงนอน
ลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ

และสุดท้ายเข้าไปทำลายประสาททำงานของกล้ามเนื้อให้เสียไป
เมื่อยาออกฤทธิ์เต็มตัวผู้เสพจะมีผลข้างเคียงทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ
หลังจากนั้นจะง่วงซึมและหมดสติในที่สุดก่อนจะจบสิ้นกระบวนลวงโลก
ด่านสุดท้ายด้วยการปลดทรัพย์หรือการสร้างตราบาปเจ็บช้ำทางกาย
ให้กับลูกผู้หญิงด้วยการขืนใจนอกจากนี้ หากร่างกายได้รับตัวยาดังกล่าว
ในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรง
เนื่องจากยาไปกดระบบการหายใจอาจทำให้เสียชีวิตได้

อีกตัวหนึ่งคือโดมิคุ่ม แม้จะกำหนดขอบเขตการจำหน่ายไว้อย่างเข้มงวด
แต่ยังคงมีการลักลอบนำไปใช้ผิดประเภทกันอยู่มาก
พ่อค้าหัวใสไปรับซื้อจากตัวแทนจำหน่ายเถื่อนเม็ดละละ 6 บาท
แต่นำมาขายถึงเม็ดละ 40-60 บาท ลูกค้ารายใหญ่อีกรายคือ
สถานบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยจากยาเสพติด เนื่องจากสามารถนำมาใช้ทดแทน
กรณีหากเกิดการเสี้ยนยาขึ้นมา

น.พ.สถาพร วงษ์เจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
บอกว่า ยาที่มีการนำไปใช้ผิดประเภทขณะนี้มีอยู่ 2 ตัวหลัก ๆ คือ
อัลปราโซแลม และ ยาโดมิคุ่ม โดย อัลปราโซแลมจัดอยู่ประเภท
วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท3 อนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยา
ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น และบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายยาประเภทดังกล่าว
จะต้องส่งบัญชีให้ อย.จะตรวจสอบทุกเดือน และเท่าที่สุ่มตรวจสอบก็ไม่ได้
มีตัวเลขที่ผิดปกติแต่อย่างใด

แต่ในทางกลับกัน เมื่อมีการตรวจจับกลับพบว่ามีการนำยาตัวนี้
ไปใช้ผิดประเภทกันมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อมาจากแหล่งผิดกฎหมาย
มีการลักลอบจากประเภทเพื่อนบ้านในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว

อีกตัวหนึ่งคือโดมิคุ่มนั้น เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ยาตัวนี้
อย.จะเป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว การรักษาจะต้องส่งรายงานให้
อย.ตรวจด้วยว่าให้ยากับคนไข้ชื่ออะไร หากมีการตรวจสอบกลับไปว่า
เป็นรายงานเท็จแพทย์ผู้นั้นก็จะมีความผิด ทั้งทางวินัยโดยแพทยสภา
และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ส่วนการซื้อขายผ่านกันทางอินเตอร์เน็ตนั้น น.พ.สถาพร ยอมรับว่า
ยังเป็นปัญหาอยู่ แต่การตรวจจับทำได้ยากเหลือเกิน ที่ทำ ๆ กันอยู่
ก็เหมือนโปลิศไล่จับขโมย มีการปรับรูปแบบวิธีการกันจนตามไม่ทัน
ดังนั้น จึงต้องขอความร่วมมือไปยังประชาชน ช่วยกันแจ้งเบาะแส
หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าว

ด้านน.พ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
คุณสมบัติที่สำคัญของยาเสียตัวก็คือ ผู้เสพเข้าไปแล้วจะเคลิบเคลิ้ม คุมสติไม่อยู่
ถูกชักจูงได้ง่าย โดยเฉพาะผู้หญิงนั้นเมื่อเสพยานี้เข้าไป
มีผู้ชายมาคุยและชวนเข้าโรงแรมก็ไปง่ายๆ ทำให้ถูกล่วงเกินทางเพศ

ทั้งนี้ ยาที่ต้องให้ความระมัดระวังอีก 2 ตัวก็คือ ยาแอลเอสดีและยาเลิฟ
โดยยาแอลเอสดีนั้น เป็นสารสกัดจากกรดไลเซอจิกที่มีในเชื้อราชนิดหนึ่ง
และชอบขึ้นในข้าวไรย์ มีลักษณะเป็นผง ละลายน้ำได้
ขณะนี้ระบาดมากในสหรัฐฯ โดยทำในรูปของแสตมป์
และพบว่าเริ่มเข้ามาในประเทศไทยแล้วในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่นำไปใช้ในงานฟูลมูนปาร์ตี้

ส่วนยาเลิฟเป็นยาเสพติดในกลุ่มเดียวกัน จะแตกต่างกันในด้านโครงสร้างทางเคมี
ที่ผ่านมาพบมากในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบออกเที่ยวในเวลากลางคืน

ยาเคชนิดใหม่ร้ายกว่าเก่า
อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการของทรชนก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่แค่ยาดังกล่าวข้างต้น เท่านั้น
หากยังมีความพยายามที่จะสรรหายาชนิดใหม่ๆ มาใช้อยู่เสมอ
และล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2547 ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลก็สามารถจับกุม
นักค้ายาเสียตัวชนิดใหม่ได้ โดยผู้ต้องหาคือนางสุกัญญา สายสีและ น.ส.ชาดา สายสี
สองแม่ลูกนำเข้ามาจากอิตาลีและเยอรมนีผ่าน ทางประเทศลาว

พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า
ยาเคหรือยาเสียตัวชนิดใหม่นี้มีคุณสมบัติทำให้ผู้เสพเคลิบเคลิ้มมากกว่ายาเคชนิดเดิม
โดยมีราคาแพงถึงขวดละประมาณ 2,000 บาท
ขณะที่ยาเคชนิดเดิมมีราคาเพียง 500-800 บาท

ทั้งนี้ ผู้ต้องหานำเข้ายาดังกล่าวผ่านทางประเทศลาวครั้งละมากๆ
และเป็นที่รู้จักในกลุ่มเอเย่นต์ยาเคในกรุงเทพฯ

“ของกลางที่เรายึดได้เป็นชนิดใหม่ทั้งแบบน้ำและแบบผง
โดยชนิดน้ำนั้นเมื่อใช้ต้องนำเข้าไมโครเวฟเพื่อให้เป็นผงเสียก่อน
ส่วนแบบผงใช้สะดวกกว่า เพราะเมื่อเปิดขวดแล้วสามารถใช้ได้ทันที
ไม่ต้องเอาไปเข้าไมโครเวฟอีก ทางตำรวจอยากให้ประชาชนระมัดระวังตัวให้มาก
เพราะมิจฉาชีพจะให้ยาเหล่านี้ในการมอมผู้หญิง เนื่องจากไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
ดังนั้น เมื่อสุภาพสตรีไปเที่ยวตามเธค ผับ ควรระวังให้ดี
เนื่องจากเมื่อถูกมอมด้วยยาเหล่านี้จะมีอาการมึนงง วูบ
ทำให้มิจฉาฉีพปฏิบัติการโฉดได้โดยง่าย”
จากผู้จัดการ

2 thoughts on “ยาอันตราย”

Leave a Reply