แหล่งขายบริการทางเพศ

แหล่งขายบริการทางเพศ สถานที่ขายตัว
ซ่องโสเภณี หาย ขายเซ็กส์ผ่าน เน็ต-โอเกะ-หอพัก
ผล วิจัยชี้เมืองไทย ตกเขียว ซ่องโสเภณีหายเกือบหมด แฉเปลี่ยนโฉมขายบริการทางเพศใหม่เป็นร้านอินเตอร์เน็ต-คาราโอเกะ-ขายตรงทาง โทรศัพท์-หอพัก นักเรียนนักศึกษาอาศัยเครื่องแบบขายเซ็กส์ ค้าประเวณี

เมื่อ วันที่ 8 ส.ค. ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัย เรื่อง บทบาทชุมชนที่พึงประสงค์ในการป้องกันและเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะกรณีการค้าหญิงและเด็ก ใน 17 ชุมชน 7 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ พะเยา สระแก้ว ตราด ชลบุรี บุรีรัมย์ และมุกดาหาร ระหว่างเดือนพฤษภาคม – ธันวาคม พ.ศ.2550 พบว่า รูปแบบและสถานการณ์ความรุนแรงของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ การตกเขียวในพื้นที่ต้นทางเริ่มหายไป ขบวนการค้ามนุษย์พัฒนาวิธีการจูงใจและสร้างเงื่อนไขใหม่ ทำให้กลุ่มเสี่ยงและชุมชนมีมายาคติว่า การขายบริการทางเพศเป็นเรื่องส่วนตัว หารายได้เลี้ยงตัวเอง ไม่มีผู้ใดเสียหาย

การขายบริการทางเพศแบบสมัครใจหรือกึ่งจำใจจึงมีมาก ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรณีของเด็กเยาวชนที่เป็นนักเรียนนักศึกษา ทั้งเพศชายและหญิง ที่ประสงค์จะหาเงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ ยังมีกระแสความต้องการบริการทางเพศหนาแน่นในพื้นที่เมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยวผศ.ดร.จิตติ กล่าว

ผศ.ดร.จิตติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่ปลายทาง ซ่องโสเภณีแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยร้านคาราโอเกะ ,โรงแรม ,สถานบริการนวดแผนปัจจุบันและโบราณ ,ร้านอินเตอร์เน็ตที่มีการใช้เวบไซต์โชว์รูปและติดต่อซื้อขายกัน ,หอพักทั่วไปที่เป็นแหล่งขายบริการของนักศึกษาตลอดชีพ หมายถึงนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนทุกปีแต่ไม่เคยสำเร็จการศึกษา และอาศัยเครื่องแบบหารายได้ขายบริการ และการขายบริการทางเพศแบบอิสระ ซึ่งใช้วิธีการโทรศัพท์ติดต่อเพื่อซื้อบริการโดยตรง

คณบดีคณะสังคม สงเคราะห์ กล่าวด้วยว่า จากการศึกษาบทบาทของชุมชนในการแก้ปัญหาในเรื่องการค้ามนุษย์ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจในนิยามความหมาย หรือไม่มีบทบาท เพราะรู้สึกว่าเกินอำนาจหน้าที่ รวมทั้ง แกนนำบางชุมชนไม่สามารถดำเนินงานใด ๆ ได้เพราะขบวนการค้ามนุษย์มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในจังหวัดทั้ง ที่เป็นข้าราชการและไม่ใช่ข้าราชการ กิจกรรมที่ทำเป็นเพียงการผสมผสานเข้ากับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ หอกระจายข่าว จัดเวรยามดูเรื่องความปลอดภัย การอบรม เป็นต้น กิจกรรมต่าง ๆจึงไม่ได้มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ปัญหาโดยตรง ทั้งนี้ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในการป้องกันการค้ามนุษย์ต้องทำในหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน

ตอบ 1
ตีแผ่ แหล่งขายบริการทางเพศ สถานที่ขายตัว
จริงๆตัวผมยังมีเรื่องที่ไปตระเวณขอบอ่างติดค้างอยู่ใน Stock อยู่ 3-4 ที่
แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเพื่อนๆใน MSN ถามผมกันเกี่ยวกับเรื่อง 4
ที่นี้มากซะเหลือเกิน
ผมเลยขอลัดคิวมาบอกกล่าวกันเกี่ยวกับ 4 สถานที่นี้โดยละเอียดอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่คิดจะลองเที่ยวแนวนี้ หรืออยากรู้ข้อมูล
กรุณาช่วยอ่านกระทู้นี้ให้ละเอียดด้วยนะครับ
เพราะจริงๆหลายๆครั้ง หลายๆเรื่องที่ท่านถามผมมา
ผมมักจะเขียนบอกไว้ในกระทู้ผมโดยละเอียดไว้แล้ว

ที่แรกยศเส
อันนี้ผมต้องขอโทษจริงๆ ที่ post หัวข้อกระทู้เก่าว่าแม้นศรี
ด้วยความด้อยประสบการณ์ของผมเอง
จริงๆ แม้นศรีจะเป็นอีกที่นึง ซึ่งผมยังไม่เคยไป
จึงไม่สามารถจะบอกได้ทั้งสถานที่ตั้ง และราคาหรือบริการ
แต่ที่ยศเสที่ผมไปมานี้ จะบอกที่ตั้งกันโดยคร่าวๆแล้วกันนะครับ
คิดว่าใครที่ผ่านย่านนั้นบ่อยน่าจะไปกันถูก

ที่ตั้งของโรมแรมเนี้ย จะอยู่ด้านหลัง โรงบาล ชื่อดังแถวๆนั้น
ถ้าคุณไม่ได้ขับรถไปเอง สามารถจะเข้าไปทางด้านเดียวกับโรงบาลเลย
ยิ่งถ้าไปตอนกลางคืนจะสังเกตง่ายมาก คือเลย โรงบาลมานิดๆ
จะมีคิวแท็กซี่จอดอยู่ประมาณ 3-4 คันเป็นประจำ
ทางเข้าไม่เล็กมา คือรถพอจะขับออกมาได้
หน้าทางเข้าจะมีศาลคล้ายๆศาลพระภูมิตั้งอยู่
แต่ถ้าขับรถมาเอง ต้องเลี้ยวไปทางด้านโบ๊เบ๊ แล้วเลี้ยวเข้า ซ. แรก
(ซอยที่เค้าตั้งแผงขายของกันน่ะแหละ ซอยเล็กๆซอยแรกหลังจากเลี้ยวมา)
วิ่งเข้าซ.ไปประมาณ 100 ม. ก็จะเจอป้ายโรงแรมอยู่ซ้ายมือ
ก็ที่นั่นแหละครับ

ลักษณะของยศเสนี้ จะเป็นเหมือนโรงแรมจิ้งหรีด มีอยู่ 2-3 ชั้นผมไม่แน่ใจ
เข้าไปถึงจะมีอาแปะอยู่ ก็เข้าไปถามได้เลยว่ามีเด็กมั้ย
น้องๆเค้าจะมีอยู่ทั้ง 2 ชั้น คือชั้นล่างกับชั้นบน
อัตราค่าบริการเท่ากันคือ 450 บาท

ค่าบริการนี้ผมอยากให้เข้าใจว่าเป็นการจ่ายค่าห้องนะครับ ไม่ใช่ค่าตัวเด็ก
(แต่จริงๆเป็นยังไงคงไม่ต้องให้พูดกันมากนะ)

ทั้งนี้เพื่อออกตัวแทนทางโรงแรมว่าที่นี่ไม่ได้ขายประเวณี
เพื่อที่เพื่อนๆจะได้ไปนอนพักผ่อนกันอย่างมีความสุข
ไม่ต้องโดนท่านกากีมาซิวเข้าตารางไปซะก่อน

น้องๆจะนั่งรวมกลุ่มคุยกันอยู่ในห้อง ห้องละ 5-10
แล้วแต่ความคับคั่งของเด็กๆที่มาสนทนากันในวันนั้นๆ
อายุอานามของแต่ละคนส่วนมากจะเกิน 30 ขึ้นไปแล้ว
หลายๆคนชอบถามผมว่า สวยมั้ย เด็ดมั้ย
ผมต้องบอกว่า ไอ้สวยไอ้เด็ดเนี่ย เทียบกับอายุ
มันคงไม่สวยไม่เด็ดเท่าไหร่แล้ว
แต่เรื่องบริการ กับการเสียเงินแค่ 450 บาท
ซึ่งถ้าเอาไปเทียบกับสวนลุมหรือสนามหลวง ผมให้คะแนนด้านบริการกินขาดครับ
เพราะไม่มีการเร่งเวลา และมีการบริการเราอย่างเต็มที่

ส่วนช่วงเวลาที่ควรไป ผมไม่ทราบจริงๆครับ
เพราะไม่เคยไปตอนกลางวัน เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง
แต่คือที่รู้มา ที่นี่มีน้องๆให้บริการอยู่ตลอด 24 ชม. แหละครับ
สำหรับท่านที่อยากจะไปที่นี่
ผมแนะนำให้เป็นตัวเลือกแรกสำหรับผู้ที่ต้องการของถูกและมีคุณภาพด้านบริการ

เพราะส่วนใหญ่ หน้าตากับรูปร่าง ถัวเฉลี่ยจากเต็ม 100 คะแนน ผมให้ 45
คะแนนครับ
อันนี้คือถัวเฉลี่ยโดยรวมนะ
แต่บริการเนี่ยได้ซัก 75 ซึ่งเทียบกับค่าใช้จ่ายแค่ 450 ก็นับว่า ok
แล้วครับ

สรุป ถ้าคุณไม่คิดมากเรื่องหน้าตา รูปร่าง และอายุ
และอยากได้บริการที่ดีพอสมควร
เงิน 450 บาทถือว่า ok กับการเที่ยวที่นี่ครับ
กระทู้เก่าของยศเส
http://www.bkknight.com/bkkboard/index.php…p?showtopic=258

มาถึงสวนลุมกับสนามหลวง ผมขอพูดรวมกันเลยแล้วกันครับ
เพราะ 2 ที่นี้ บริการแย่พอๆกัน
จะต่างกันที่หน้าตากับอายุนิดหน่อยเท่านั้น
ทั้ง 2 ที่นี้จะมีค่าบริการใกล้เคียงกันด้วย ที่ 300-800 บาท
แต่ส่วนใหญ่จะเรียกราคากันที่ 500 บาท

ที่สวนลุม เดี๋ยวนี้จะยืนกันฝั่งถนนพระราม 4
ฝั่งสะพานไทยเบลเยี่ยมกันซะเยอะ
อายุมีตั้งแต่ 18-30 แต่ส่วนมากจะ 20 กว่าๆ
ลักษณะส่วนมากเหมือนคนติดยา คือตัวผอม หน้าตอบ ขอบตาคล้ำ ซะเป็นส่วนมาก
ที่สวนลุมนี้ หลังๆมีการพัฒนาการแต่งตัวเรียกลูกค้าด้วย
บางคนก็แต่งแนววัยรุ่น
บางคนก็แต่งเกือบเหมือนนักศึกษา บางคืนมีเซลเลอร์มูนด้วยซ้ำไป
การเลือกใช้บริการ ก็แค่ขับรถไปจอดเลียบๆเคียงๆ
เดี๋ยวน้องเค้าก็เดินมาหาที่รถถามคุณเองว่าเที่ยวมั้ย ก็ตกลงราคากันไปครับ
และส่วนมาก เค้าจะเลือกไปปฎิบัติกิจกันที่โรงแรมใน สาทรซ.1 ค่าห้องประมาณ
100 กว่าบาท ใครที่ไม่มีรถ คิดนั่ง Taxi ไป

อันนี้ก็ต้องขอบอกว่าอาจจะเลือกลำบากเล็กน้อยนะครับ
เพราะเด็กมักจะไม่ค่อยขึ้นรถ taxi กัน มักจะเลือกคนที่มีรถมากกว่า
ด้านการบริการ ต้องบอกว่าเลวสุด

บางคนตอนแรก ตกลงราคามาที่ 500 พอเข้าถึงห้อง ก็จะเริ่มเสนอ option พิเศษ
เช่นจะให้ โม็คเพิ่มอีก 200 อยากดูดนมเพิ่มอีก 200 ฯลฯ
ตามแต่ที่คุณเธอจะคิดหาเพื่อเพิ่มราคากันมาได้
ทั้งนี้ ถึงคุณจะตัดสินใจให้เพิ่มเติมไป
ก็ใช่ว่าจะได้รับการบริการที่ดีมากขึ้นนัก
และถ้าคุณตัดสินใจไม่ให้เงินเธอเพิ่ม เธอก็จะออกอาการฉุนเฉียว
แล้วก็นอนแผ่ให้คุณเอาแบบซังกะตาย
หนักกว่านั้น ถ้าคุณเป็นประเภทอึด หรือชอบทำนานๆ
คุณจะได้รับการเร่งจากคุณเธอตลอดเวลา
เธอจะถามคุณว่า เสร็จรึยังๆ จนคุณเหี่ยวหมดอารมณ์ไปเองนั่นแหละ
ถ้าจะให้คะแนน ก็ต้องบอกว่าทั้งหน้าตานั้นอาจจะได้ซัก 55 คะแนน
แต่บริการนั้นเอาไป 15 ก็น่าจะเกินพอ

ที่สนามหลวง จะมีดีที่อายุของน้องๆ หรือว่าหน้าตาของน้องๆนั้น จะเด็กแบบ
เห็นแล้วไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
ราคาส่วนมากก็จะเรียกกันที่ 500 ยกเว้นว่าหน้าตาเธอจะเป็นระดับสวยจริงๆ
ก็อาจจะมีเรียกราคาไปถึง 800 บ้าง
ส่วนใหญ่น้องๆที่หน้าตาดีๆ อายุน้อยๆ
จะเลือกสนามหลวงฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย
เป็นที่เรียกลูกค้า
วิธีการเลือกน้องๆก็ไม่ต่างจากที่สวนลุมมาก แต่คุณอาจจะนั่ง Taxi ไปได้
แล้วลงไปเดินดูเลย หรือจะขับรถไปก็ใช้วิธีเดียวกับสวนลุมนั่นแหละครับ
ถูกใจคนไหน ไปจอดรถเทียบ หรือเดินเข้าไปใกล้ๆ
เดี๋ยวน้องเค้าถามคุณเองว่าเที่ยวมั้ยพี่
แล้วก็ตกลงราคากัน พาไปโรงแรม เป็นอันจบ
บริการของที่นี่ อาจจะไม่เลวร้ายมากนักถ้าเทียบกับที่สวนลุม
คือมีการเล้าโลมบ้างพอสมควร แต่ก็ยังคงเร่งเวลาคุณอยู่ดี
ส่วนมากน้องๆจะให้เวลาคุณไม่เกินครึ่งชม.
ถ้านานกว่านั้นก็เตรียมตัวจ่ายตังค์เพิ่ม
หรือไม่ก็ให้คุณเธอเดินออกไปจากชีวิตคุณซะอย่างงั้นได้เลย
คะแนนหน้าตาถัวเฉลี่ยน่าจะให้ได้ถึง 70 คะแนน
บริการซัก 30 คะแนนแล้วกันครับ

กระทู้เก่าของสนามหลวง
http://www.bkknight.com/bkkboard/index.php…p?showtopic=603

มาถึงที่สุดท้าย โรงแรมสยาม ซึ่งต้องนับว่าน้องๆสวยสุดใน 4
ที่ๆพูดถึงในกระทู้นี้
และราคาก็แพงสุดเช่นกัน คือ 1300-2000 บาท
โรงแรมสยามนี้ บางคนก็ยังไม่รู้ว่ามันตั้งอยู่ตรงไหน
บางคนยังงงๆ นึกว่าเป็นโรงแรมข้างๆสยามเซ็นเตอร์ที่โดนรื้อไปแล้ว

ก็บอกอย่างนี้ครับ โรงแรมสยามนั้น ให้ตั้งหลักกันที่พันธ์ทิพย์พลาซ่า
น่าจะมีน้อยคนนะที่ไม่รู้จักพันธ์ทิพย์เนี่ย
ขับรถจากหน้าพันธ์ทิพย์ ขึ้นสะพานข้ามแยก วิ่งตรงไปจนถึงสี่แยกมักกะสัน
วิ่งตรงขึ้นไปอีกจนเห็นสะพานข้ามแยกอโศก
ก็ขึ้นสะพานข้ามแยกมาลง ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ พอลงสะพาน
ก็รีบชิดซ้ายไว้ได้เลยครับ
เพราะว่า รร. สยามนั้นตั้งอยู่ข้างหน้าคุณแล้ว

ที่นี่ ขับรถไปหรือจะนั่ง Taxi ไปเองก็ได้ครับ
ถ้าขับรถไป สามารถจอดได้ทั้งในตัวโรงแรมสยาม

หรือจะขับเลยไปจอดตรงหัวมุมที่เลี้ยวไปทางเส้น Local Road ก็ได้
แต่ถ้าวันไหนท่านกากีมา ก็ระวังจะโดนใบสั่งนะครับ

น้องๆจะมียืนอยู่ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านใน ด้านหลังของตัวโรงแรม
แนะนำให้เดินดูให้ทั่วๆก่อนค่อยเลิกก็ได้ครับ
แต่ถ้าโป๊ะเช้ะคนไหนแล้วจะเลือกเลยก็ไม่มีใครว่า
ส่วนใหญ่จะตกลงราคากันที่ 1300
และเห็นเพื่อนๆสมาชิกบอกมาว่าเดี๋ยวนี้บางคน
1300 ก็รวมค่าโรงแรมไว้แล้ว
เรียกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายกันไปพอสมควร
เพราะจริงๆจะมีค่าโรงแรมต่างหากอีกเกือบ
500 บาทเลยทีเดียว

วิธีการเลือกเด็กของที่นี่ แนะนำให้คุณเลือกด้วยตัวเอง
ไม่ต้องไปสนใจคนที่ทำตัวเป็น Agent ครับ เพราะคุณจะโดยบวกค่า Agent
เพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ

น้องๆที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นครับ ที่ยังศึกษาอยู่ก็มีไม่ใช่น้อยเลย
แต่ผมเอง ต้องออกตัวไว้อีกแล้วครับ
ว่าที่นี่ผมไปใช้บริการมาครั้งล่าสุดก็มีเฉียดๆปีนึงมาแล้ว
ดังนั้นเรื่องบริการของน้องๆเดี๋ยวนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว

แต่ผมจะขอเล่าประสบการณ์แย่ๆที่เคยเจอมาทั้งกับตัวและกับเพื่อนฝูงให้ได้รู้กันไว้เป็นอุทาหรณ์แล้วกันครับ
บริการดีๆผมคิดว่าที่นี่คงไม่ใช่จะไม่มี แต่เรามาพูดถึงบริการแย่ๆกัน
จะได้รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว
1. ไม่เล้าโลมคุณโดยสิ้นเชิง ไม่ทำอะไรทั้งนั้น นอกจากนอนแผ่เฉยๆ
2. ไม่ยอมให้คุณเล้าโลมเธอด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะดูดโฟโมสต์
หรือจับต้องสัดส่วนสงวน
3. เร่งเวลา
4. ขโมยทรัพย์สินของแขก
ที่เคยเจอๆกันมาก็จะมี 4 ข้อใหญ่ๆนี้แหละครับ

ถ้าจะให้คะแนนกัน หน้าตาจากที่ผมโฉบไปมาครั้งล่าสุดนี่เอาไปซัก 88
คะแนนคงไม่มากเกินไปนัก
ด้านบริการ ถ้าตัดสินจากประสบการ์เก่าๆผมว่า 50 คะแนนก็ถือว่ากรุณามากแล้ว
แต่จากที่ได้ยินมากทั้งจากเพื่อนผมเอง และสมาชิกใน Board
หลังๆนี้น้องๆบริการดีขึ้นเยอะแล้วครับ
อาจจะเป็นเพราะเด็กมายืนกันเยอะ
เลยต้องอาศัยบริการเป็นตัวทำให้ลูกค้าติดใจกันด้วยมั้ง

กระทู้เก่าของโรมแรมสยาม
http://www.bkknight.com/bkkboard/index.php…?showtopic=8434

เรื่องสำคัญที่สุดที่ผมอยากจะบอกให้เพื่อนๆสมาชิกได้รู้กันไว้สำหรับการเที่ยวในที่ๆไม่มีคนคอยควบคุมดูแลความประพฤติของน้องๆ
เพราะส่วนใหญ่จะถามคำถามแนวนี้กันมามากเหลือเกิน

คือน้องๆหน้าตาดีมั้ย สวยมั้ย อายุเท่าไหร่ บริการดีมั้ย
ของดีราคาถูก ไม่ใช่ไม่มีครับ
แต่ถ้าเทียบเป็น % ผมว่าของดีที่ราคาถูกคงมีอยู่ไม่ถึง 5%
เรื่องไหนที่ผมเขียนว่าบริการดี หน้าตา ok รูปร่างใช้ได้
ผมอาจจะมองเป็นกลางมากไปนิด คือผมเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ผมเสียไป
เช่นที่ ยศเส ผมเสียแค่ 450 และผมได้รับบริการที่ดี
น้องที่ผมเลือกขึ้นไปนั้น อายุยังไม่เลยเลข 3
รูปร่างก็ต้องบอกว่ามีทรวดทรง ถือจะไม่ได้ปิ๊งปั๊งเหมือนน้องๆในตู้ก็เหอะ
แต่ราคาแค่นี้ ได้ขนาดนี้ก็นับว่าดีแล้ว จริงมั้ยครับ

ที่โรงแรมสยาม ผมคิดว่าค่าใช้จ่ายขนาดนี้
ผมเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่ไปเที่ยวอาบอบนวด
ผมจะได้น้องๆที่หน้าตาไม่แพ้กันมาก แต่บริการกินขาด
แต่ก็อีกนั่นแหละ อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ในกระทู้เก่าของผม

คือผมอยากจะให้ที่นี่เป็นตัวเลือกหลังจากที่อาบอบนวดปิดไปแล้ว
คือเป็นตัวเลือกหลังเที่ยงคืนนั่นเอง
จริงๆยังมีข้อมูลของที่เที่ยวราคาประหยัด เช่นที่ ส.โบตั๋น วีนัส
โรงแรมศรีทองอยู่อีก
แต่ขอเวลาไป Update ข้อมูลซักนิดแล้วกันครับ
แล้วจะเอามาบอกกล่าวให้ฟังกันในโอกาสต่อไป
อยากจะเที่ยวที่ไหน แนวไหน

ข้อสำคัญคือควรจะมีข้อมูลและแบงค์ในกระเป๋าให้พร้อมซะก่อนครับ
บางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องไปครั้งแรกแล้วเที่ยวเลย
ลองไปเลียบๆเคียงๆดูหน้าตา ถามราคากันก่อน
ที่สำคัญ อย่าลืมป้องกันตัวเองอยู่เสมอนะครับ AIDS มันเข้าแล้วออกลำบาก
หลายๆสิ่งผมก็ไม่เคยบอกว่าให้เชื่อผมหมด
เพราะผมเชื่อว่ามีผู้ที่รู้มากกว่าผมอยู่อีกไม่ใช่น้อย
แต่หวังว่าบทความของผมจะพอเป็น Guide Line ให้กับมือใหม่หัดเที่ยวได้บ้าง
จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์ โดนเด็กหลอก หรืออาจจะโดนปลดทรัพย์
เท่านี้ผมก็ดีใจแล้วครับ

ตอบ 2
ท้องสนามหลวง วงเวียนใหญ่ พระราม 9
ขณะนี้กลายเป็นแหล่งค้าบริการทางเพศของเยาวชน เป็นเด็กผู้หญิง คงต้องช่วยกันดูแลหน่อยนะครับ
ที่มา กระทู้จากเน็ต

แฝงขายบริการ
สถานที่ขายตัว แหล่งขายบริการ ทางเพศ
ขอทานเด็กเขมรบุกกรุงเทพฯ เซ็นเตอร์พอยท์แฝงขายบริการ
วานนี้ (6 ต.ค.) นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว ในการประชุมโครงการความร่วมมือสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือยูเอ็นไอเอพี (UNIAP) โดยระบุว่า ปัญหาขอทานเด็กข้ามชาติ โดยเฉพาะเด็กกัมพูชา ในกรุงเทพฯ พบเป็นลักษณะที่นายหน้าจะล่อลวงเด็กมา และเป็นเด็กที่ตามพ่อแม่เข้ามา เนื่องด้วยคนไทยชอบให้ทาน จึงเกิดขบวนการนำเด็กมาขอทานเป็นอาชีพ โดยพวกมิจฉาชีพ มีการทำร้ายเด็กและนำเด็กพิการมาขอทานเพื่อให้ดูน่าสงสาร ตนได้ประสานไปยังประเทศต้นทางเพื่อให้ช่วยกันป้องกันปัญหาแล้ว

ทั้งนี้ น.ส.แคลร์ มิลิแกน นักวิจัยองค์กรเฟรนด์ กล่าวถึงผลวิจัยปัญหาเด็กขอทานต่างชาติ โดยเฉพาะเด็กกัมพูชาในเขตกรุงเทพฯ พบ ว่ามีประมาณ 140 คน โดยร้อยละ 41 เป็นเด็กทารกและเด็กเล็กอายุ 0 – 3 ขวบ และมีอายุ 15 ปี เป็นเด็กพิการ 8 คน ร้อยละ 55 มาจากปอยเปต ติดกับด่านอรัญประเทศ ส่วนรายได้จากการขอทานจะได้วันละประมาณ 250 ถึงกว่า 1,000 บาท เด็กจะขอทานตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก และแหล่งชุมชน โดยจะขอทานเฉลี่ยวันละ 8 – 18 ชั่วโมง

ขณะที่นายสำราญ อรุณธาดา เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล หรือศูนย์เมอร์ซี่ กล่าวถึงปัญหาเด็กเร่ร่อนขอทาน ว่า อยาก ให้มองเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งมีทั้งเด็กไทย กัมพูชา เวียดนาม พม่า ลาว ซึ่งเรื่องที่น่าห่วงคือจะมีการซื้อขายบริการทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยการซื้อของให้ พาไปเล่นเกม ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเข้าข่ายการละเมิดทางเพศเด็ก ทั้งนี้ ปัญหาเด็กเร่ร่อนขอทานในปัจจุบันถือว่ารุนแรงมาก โดยจุดใหญ่คือที่กรุงเทพฯ และพัทยา

“คนที่มาซื้อบริการทางเพศจะซื้อทั้งเด็กหญิงและเด็กผู้ชาย ที่เดินขายพวงมาลัย เช็ดกระจก และขอทาน พบในย่านเซ็นเตอร์พอยท์ และสยาม ซึ่งเด็กจะแต่งตัวดี สะอาด เพราะจะขายได้ดีกว่าแต่งตัวสกปรกมอมแมม” นายสำราญ กล่าว
ที่มา ไทยรัฐ

ผีขนุนกับชายขายน้ำ สนามหลวง สถานที่ ขายตัว แหล่งขายบริการ ทางเพศ
ผีขนุนกับผู้ชายขายน้ำ ความเฮี้ยนของ ผีขนุน สนามหลวง ที่ออกหลอกหลอนชายวัยกลัดมัน…รวมถึงแหล่งค้ากามวิตถารจำพวก ผู้ชายขายน้ำ ใกล้วงเวียนรักษาดินแดน ยังเป็นปัญหาด้านมืดของกรุงเทพมหานคร (กทม.)

เรื่อยมา ไม่ต่างจากไฟไหม้ฟางที่นานๆ จะลุกโชนขึ้นมาให้สังคมตะลึง แต่พอหมดกระแสสนใจเรื่องนี้ก็เงียบหายไป…สายลมหนาวเดือนพ.ย.พัดมาแล้ว แต่ ความเหน็บหนาวยามค่ำคืนไม่ได้ทำให้กลุ่มสาวขายบริการวัยกระเตาะรอบสนามหลวง อายุระหว่าง 16-20 ปี สะทกสะท้านแต่อย่างใด

ก๊วนผีขนุน หรือผีมะขามรอบสนามหลวงยังยึดเป็นทำเลทองยืนเรียกแขกริมทาง บนถนนหน้าพระธาตุ กลุ่มชายนักเที่ยวจะรู้ดีว่าพื้นที่ละแวกนี้ ผู้หญิง ยึดครอง ไล่ตั้งแต่หัวมุมตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลากยาวไปจนถึงหัวมุมพระบรมมหาราชวัง จนกลายเป็นภาพชินตาของคนที่ผ่านเส้นทางไปแล้ว

แต่พอพ้นรอยต่อด้านหน้ากระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย ข้ามไปถึงถนนเจริญกรุงจะเป็นโซน ผู้ชาย ยืนเรียงรายรอขาย ประตูหลัง ด้านหน้าสวนสาธารณะวังสราญรมย์ สองฝั่งเรียงรายจากข้างกองบัญชาการกำลังสำรอง หรือกรมรักษาดินแดนเก่าไปยันแยกสะพานมอญ ที่ลัดไปทางหลังกระทรวงมหาดไทยได้

นักเที่ยวที่เจนสนามกามจะขับรถวนรอบเส้นทางที่ว่านี้เพื่อเลือก สินค้าตามชอบใจ หากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ลูกค้าจะมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้สาวๆ กับหนุ่มๆ ที่มารับจ๊อบพิเศษเพิ่มขึ้นตามไปด้วยยอดรวมเกือบ 200 คน

ไอซ์ สาวน้อยเมืองปากน้ำ วัย 18 ปี ที่มาหากินด้วยลำแข้ง ยืนโชว์หวิวเรียกลูกค้าริม ถนน บอกว่า เพิ่งมายึดอาชีพนี้ได้แค่ 3 อาทิตย์ พักอยู่แถวพระประแดง จ.สมุทรปราการ คิดค่าตัว 800 บาท หลังจบชั้นปวช.โรงเรียนพาณิชย์ แต่ยังไม่มีงานทำ มาเที่ยวสะพานพุทธกับเพื่อน นั่งรถเมล์ผ่านเห็นมีสาวๆ มายืนขายบริการ เลยคิดว่ามาหาเงินคั่นเวลาก่อนได้งานทำดีกว่า หาเงินง่าย รายได้ดี ไม่ได้บอกทางบ้านว่ามาทำงานแบบนี้

สาวๆ ที่นี่จะยึดทำเลเป็นกลุ่มๆ กลุ่มใครกลุ่มมัน ยืนกระจายตามใต้ต้นไม้ เสาไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ฯลฯ ไอซ์ เคยทำเงินได้สูงสุดถึงคืนละ 6,000 บาท จนต้องทำงานเกือบทุกคืน เงินที่ได้มาหมดไปกับเรื่องกิน เที่ยว ซื้อเสื้อผ้า แต่ก็ยังเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งไว้ส่งเสียทางบ้านเดือนละ 4,000-5,000 บาท

แต่ถ้าเก็บเงินได้สักก้อน ไอซ์จะเลิกขายตัว และกลับไปเรียนต่อให้จบปริญญาตรี และหางานดีๆ ทำ สาวไอซ์ บอกความในใจ

น้องๆ สาวๆ หุ่นผอมบางในชุดสายเดี่ยว หรือชุดแซ็กเร้าใจวัยรุ่น กางเกงขาสั้น เผยให้เห็นขายาวเรียวขาว สวมรองเท้าส้นสูงดูดีมีสไตล์ สนนราคาค่าตัวบวกกับหน้าตาดีมีตั้งแต่ 500-1,000 บาท แลกกับเวลา 2 ชั่วโมง ไม่นับรวมค่าห้องอีกครั้งละ 80-350 บาท เบ็ดเสร็จแล้วน้องๆ จะมีรายได้ตกคืนละไม่ต่ำกว่า 2,500 บาท เมื่อรับลูกค้าอย่างน้อย 3 คน

ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะเป็นรอบทำงานของ สาวใหญ่ อายุเกินหลัก 4 ที่เรียงรายกันหาลูกค้าหนุ่มใหญ่วัยกลางคน ริมฟุตปาทด้านหน้าศาลฎีกาเรื่อยไปจนถึงริมคลองหลอดข้างกระทรวงมหาดไทย ราคาถูกมากแค่ 200-300 บาทต่อครั้ง หรือบางโปรโมชัน 100 บาทแลกกับการ อมนกเขา ป้าๆ พวกนี้ก็พร้อมบริการอย่างเต็มใจ!!

วังวนคาวโลกีย์ชาวกรุงนั้นไม่ได้จบแค่ผู้ชายเลือกสาวคู่ขาเท่านั้น ยิ่งทุกวันนี้กลุ่มชายรักร่วมเพศไม่ว่าจะเป็นตุ๊ด เกย์ หรือเสือไบที่เป็นได้ทั้งสองเพศ กล้าเผยตัวจากเงามืดกันมากขึ้น ผู้ชายป้ายเหลือง ที่เป็นเหมือนแท็กซี่คอยส่งคู่กามขึ้นสวรรค์ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้วงเวียนรด.เดิม เป็นแหล่งนัดพบของชายกลุ่มนี้ด้วย

ช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00-03.00 น. กลุ่มชายฉกรรจ์หล่อ ล่ำ หน้าตาดี ไปจนถึงพวกอ้อนแอ้นอรชรคล้ายสาวประเภทสอง ไม่ต่ำกว่า 20-30 คน อายุตั้งแต่ 12-30 ปี จะมายืนเตร็ดเตร่เร่หาแขก ลูกค้าส่วนใหญ่คือ ชายไม่แท้ รวมถึงชายอกสามศอกที่ชอบลองของแปลก อยากเปลี่ยนรสชาติเสพสมรูปแบบใหม่

ตั้ม หนุ่มเมืองนนท์ วัย 20 ปี ผู้ชายขายน้ำหุ่นนายแบบ ขาว ตี๋ เล่าว่า ราคาขายบริการเริ่มที่ 500 บาท แต่ถ้าเลยช่วงตี 2-3 ราคาจะขยับขึ้นไปถึง 1,000 บาท และถ้าลูกค้าติดใจลีลาอาจได้ออฟยาวเหมาค้างคืนรวม 1,500 บาท ไม่รวมค่าโรงแรม ซึ่งลูกค้าต้องควักเงินจ่ายให้ด้วย

เกรดของลูกค้าตลาดถั่วดำวันนี้ค่อนข้างมีฐานะร่ำรวย บางคนขับรถเบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู รถสปอร์ต มาจอดเทียบซื้อบริการเป็นประจำ ถ้าลูกค้าไม่มาก ชายขายน้ำกับลูกค้าก็จะยึดโรงแรมในย่านใกล้เคียง หรือข้ามไปฝั่งธนฯ แถวโรงแรมย่านปิ่นเกล้าเป็นสนามโลกีย์แทน เพราะคิดค่าชั่วโมงแสนถูก ราคาชั่วคราวหรือแค่ 3 ชั่วโมง แค่ 100-260 บาทเท่านั้น

ตั้ม บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยขายสินค้ากิฟต์ช็อปที่หน้าห้างดังย่านปิ่นเกล้า แต่พักหลังเริ่มขายได้ไม่ดี ส่งผลให้เงินทุนหมุนเวียนไม่ทัน สุดท้ายเลยต้องหยุดชั่วคราว และหันมาหา อาชีพเสริม ประเภทเงินดีและไม่เหนื่อยแทน ผลสุดท้ายจึงลงตัวด้วยการ ขายถั่วดำ หาเงินใช้เอง ไม่อยากให้พ่อแม่เดือดร้อน

เหตุผลของเด็กหนุ่มหน้าตาดีทั้งหลายในละแวกนี้ ถ้าไม่ตกงาน หลายคนก็ไม่เคยทำงานอะไรมาก่อน หยุดเรียนแล้วก็อยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีอะไรทำ จนตัดสินใจเลือกมายืนขายบริการแบบนี้จนกลายเป็นชีวิตประจำวัน นอนกลางวัน กลางคืนขายตัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ท้องที่ ประกอบด้วย สน.ชนะสงคราม ที่ดูแลพื้นที่รอบสนามหลวง สน.สำราญราษฎร์ ที่คุมพื้นที่หลังกระทรวงมหาดไทย รวมถึงสน.พระราชวัง ที่ต้องดูแลพื้นที่สวนสาธารณะวังสราญรมย์ ต่างก็เอือมระอากับ พฤติกรรมค้ากามริมทางแบบนี้ ชุดสายตรวจต่างส่ายหน้า แม้จะเพิ่มรอบตรวจมากขึ้นช่วง 22.00-24.00 น. และ 02.00-04.00 น. ก็กดดันกลุ่มผู้ค้ากามได้เป็นครั้งคราว

พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สารวัตรสืบสวน สน. ชนะสงคราม กล่าวว่า ตำรวจออกกวาดล้างเป็นระยะๆ แต่ดูเหมือนว่าโสเภณีเร่ร่อนทั้งหญิง-ชายจะไม่ได้ลดลงสักเท่าไร ยังคงมีให้เห็นอยู่ ตำรวจมีการจับกุมตัวมาดำเนินคดีทุกวัน บางวันจับได้มากที่สุดถึง 30-40 คน เท่าที่ทราบส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่ เดินทางเข้ามาจากที่อื่นตั้งแต่หัวค่ำ บางช่วงก็มีมาก บางช่วงก็มีน้อย ขึ้นอยู่กับท้องที่ไหนมีการกวาดล้างหนักก็จะหนีมาอยู่บริเวณสนามหลวง
ที่มา : Post Today

แหล่งขายบริการทางเพศ
ปิดตำนานโรงแรมสยาม
น้องหนูสะอื้น! ปิดตำนาน… โรงแรมสยาม
สวรรค์ของนักเที่ยวเสพเซ็กซ์ริมทางใจกลางกรุงเทพฯ ในนาม โรงแรมสยาม มีอันต้องล่มสลายลงเสียแล้ว หลัง เสี่ยจตุพร เจ้าของธุรกิจ ลงทุนควักกระเป๋า 1.5 พันล้านบาท สั่งทุบอาคารไม่เหลือซาก เนรมิตโฉมใหม่เป็นอัครสถานไฮคลาส 5 ดาว ทลายภาพฉาวคาวโลกีย์ที่ฝังลึกมานานกว่า 30 ปี…

นับจากวันนี้จนถึงวันนั้นต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ ส่งผลให้ สาวไซด์ไลน์ วัยทีนที่ยืนเรียงรายล่อเหยื่อยามราตรี ต้องระเห็จไปยึดริมถนนกำแพงเพชร 7 ห่างจุดยืนเดิมแค่คืบโดยไม่คิดเปลี่ยนอาชีพ จำใจค้ากามเลี้ยงปากท้อง พร้อมกับเผ่นหนีตำรวจท้องที่เหมือนเคย

เรื่อง ราวของสาวริมทางที่ใช้ริมฟุตปาทร่อนเร่ขายเรือนร่างใจกลางกรุงอันเป็นตำนาน ร่ำลือในหมู่นักเที่ยว ประจานปัญหาจริยธรรมในสังคมไทยที่ตกต่ำ ปล่อยให้ โปลิศ ไล่ปิดบัญชีสาวเอ๊าะๆ อย่างเดียวดาย!
_________________

ทุบ โรงแรมสยาม ปิดม่านเซ็กซ์ริมทาง
พี่ขา…เที่ยวมั้ยคะ
เสียงจ๊ะจ๋าเจื้อยแจ้วดังเล็ดลอดเข้ามาในรถทันทีที่ไขกระจกลง สาวน้อยวัยกำดัดปากแดงแก้มชมพู 2 อนงค์นาง พากันเดินปรี่เข้ามาที่รถ พร้อมยื่นข้อเสนอการขายที่กระทาชายไม่อาจปฏิเสธ

ค่ำคืนนี้ นายศร (นาม สมมติ) หนุ่มใหญ่วัยกำหนัดกับผองเพื่อนอารมณ์เปลี่ยว นัดหมายกันออกตระเวนราตรีขยี้กาม หลังจากร่ำสุราจนเมามายได้ที่ ก่อนจะควบจี๊ปโฟร์วีลมุ่งหน้าหาเป้าหมายที่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟ ด้านหลังโรงแรมชื่อกระฉ่อนย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ที่แวดวงคนกลางคืนรู้จักกันดีในชื่อ โรงแรมสยาม

เท่าไหร่จ๊ะน้องสาว หนุ่มศรถามกลับ

พันห้า แต่ถ้าพี่เหมาเพื่อนหนูด้วย เดี๋ยวหนูลดให้ได้ สนใจมั้ยคะ สาวน้อยพูดจาฉะฉาน พร้อมกับหว่านยิ้มยวนใจ

แล้วจะไปลงที่ไหน เขาถามต่อ

ที่โรงแรมเอวัน ซอยศูนย์วิจัย ใกล้ๆ นี่เอง ค่าห้องชั่วคราว 300 สาวน้อยตอบ

นายศรยังไว้เชิง ก่อนจะเล่นเหลี่ยมต่อรองอีกครั้ง แล้วน้องทำอะไรได้มั่ง

ได้ทุกอย่างค่ะพี่ รับรองบริการถึงใจ ใช้ปากให้ด้วย พวกหนูน่ะมืออาชีพ ไม่มีบ่น ไม่มีเร่ง เอาอย่างงี้ดีกว่า…หนูให้พี่ 2 คน สลับคู่นอนกับพวกหนูได้ นี่บริการพิเศษเชียวนะ ถ้าเป็นคนอื่นเขาไม่ยอมหรอก คราวนี้สาวน้อยผู้เจนโลกเสนอสินค้ามาเป็นแพ็กเกจ ในแบบที่เรียกว่า สวิงกิง

นายศรถึงกับเบิกตาโพลง ก่อนจะถามต่ออย่างละล่ำละลัก แล้วอย่างงี้คิดเท่าไหร่

ถ้าค้างคืนก็คนละสี่พันห้า เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หนุ่มใหญ่ตั้งสติอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยกลับไปว่า อ๋อเหรอ…งั้นรอพี่ผ่อนบ้านหมดก่อนละกัน จาก นั้นก็รีบไขกระจกขึ้น ก่อนจะเบนไปหาเป้าหมายใหม่ที่ยืนเรียงรายให้เลือกอีกมากมาย เหมือนเนื้อสดบนแผงค้าตลาดนัดที่ผู้บริโภคสามารถเลือกดูได้จนกว่าจะพอใจ

ตลาดนัดเนื้อสดย่านนี้ เปิดบริการตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนถึงย่ำรุ่ง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยก่อนหน้านี้จะอาศัย ล็อบบี้ โรงแรม สยามเป็นจุดนัดพบ ต่อมาเมื่อสินค้าเริ่มล้นตลาดตามอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงขยับขยายออกไปตามริมฟุตปาท ป้ายรถเมล์ ลามไปจนถึงรายทางด้านข้าง และด้านหลังโรงแรม โดยมีจุดขายที่โดดเด่นขึ้นชื่อกว่าย่านอื่นๆ คือ เป็นแหล่งรวมสาวน้อยวัยกระเตาะ ตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไปจนถึงวัยรุ่นปลายๆ ทั้งนักเรียน และนักศึกษาสาว ไซด์ไลน์ ที่มาหาลำไพ่พิเศษ เพื่อนำเงินไปเที่ยวกลางคืน หรือซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ นานา

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ โรงแรมสยามประกาศปิดกิจการชั่วคราว หวังแปลงโฉมเป็นโรงแรมระดับไฮคลาส 5 ดาว ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต้องระเห็จออกมาอาศัยถนนกำแพงเพชร 7 เลียบ ทางรถไฟด้านหลังโรงแรมเป็นทำเลหากินใหม่ บางคืนตลาดเนื้อสดคึกคักถึงขนาดทำให้การจราจรคับคั่งเป็นแถวยาวเหยียดเลยที เดียว แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการกวาดล้างจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นระยะ

เมื่อ โรงแรมสยามที่เคยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของหญิงงามเมืองได้ปิดปรับปรุง ทำให้กระทบต่อรายได้ของพวกเธอไม่น้อย บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนทำเลใหม่ไปหากินถึงเมืองพัทยา

ช่วงนี้ตำรวจกวนแทบทุกคืน คนเที่ยวก็หายไปเยอะ ยิ่งโรงแรมปิดก็ยิ่งซบเซา น้องแนท (นามสมมติ) เด็กสาววัย 21 ระบายความอึดอัดให้ฟัง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังเก็บรอบได้ถึง 2-3 รายต่อคืน ซึ่งนับเป็นรายได้ที่ค่อนข้างงามทีเดียว

เมื่อ สอดส่ายสายตาไล่เรียงดูรอบๆ บริเวณ จะเห็นชายฉกรรจ์ที่อยู่เบื้องหลังทำหน้าที่กำกับควบคุม คอยดูต้นทางหากเกิดสถานการณ์ไม่ปกติหรือมีผู้มารบกวน แล้วเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากหญิงบริการอีกทอดหนึ่ง แม้แต่เด็กขายพวงมาลัยก็ต้องจ่ายส่วยให้กับพวกนี้ด้วย เรียกง่ายๆ ภาษาชาวบ้านก็คือ แมงดา นั่นเอง

แมงดาเหล่านี้จะกระจัดกระจายอยู่ตามมุมมืดคอยสังเกตการณ์ บางครั้งก็เดินมาช่วยเชียร์แขกและทำหน้าที่แนะนำสินค้าอย่างแข็งขัน

ชอบแบบไหนพี่ น้ำเสียงเย็นยะเยือกชวนให้ขนพอง กระซิบอยู่ข้างหลังโดยไม่ทันตั้งตัว

นายชัย (นาม สมมติ) แมงดารุ่นเก๋าที่หากินอยู่ในละแวกนี้มานาน เดินมาด้วยอาการเมายาไม่ประเภทใดก็ประเภทหนึ่ง สังเกตได้จากมือที่สั่นไม่หยุดและดวงตาไร้แวว เขาแนะนำเด็กสาว 3-4 คนให้รู้จัก

เด็กแบบไฮโซก็มีนะพี่ ขับเก๋งมาเองเลย แต่ต้องรอแป๊บนึง เพราะตอนนี้รับแขกอยู่ ชัย กล่าว

แต่เมื่อลูกค้าไม่แสดงทีท่าสนใจมากนัก เขาจึงเสนอสินค้าอิมพอร์ตจากต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

หรือถ้าชอบเด็กรัสเซียก็มี อายุไม่เกิน 20 แต่ต้องไปที่ ซ.นานา ลองไปดูกับผมก่อนมั้ย ชอบไม่ชอบก็ค่อยว่ากัน แมงดาจอมตื๊อ กล่าวพร้อมกับฉุดมือจะให้ขึ้นรถแท็กซี่ไปดูให้ได้

หลังสลัดตัวหลุดจากแมงดามาได้ก็พบกับหญิงงามเมืองอีกรายหนึ่ง ยืนเฉิดฉายเพียงเดียวดาย ไม่มีใครมาคอยคุ้มกัน

เมย์ คือ ชื่อเล่นที่เธอตั้งขึ้นเอง เธอกล่าวพร้อมกับทำสีหน้าแอ๊บแบ๊วว่า ตอนนี้กำลังเรียนอยู่วิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่จำเป็นต้องส่งเสียตัวเองเรียนจึงต้องมาหางานไซด์ไลน์ทำ โดยคำชักชวนของเพื่อนๆ และเห็นว่ารายได้ดี ซึ่งแต่ละคืนสามารถทำเงินได้มากถึง 3-6 พันบาท หรืออาจมากกว่านั้นแล้วแต่ขยัน

หนูเรียนพยาบาลอยู่ รับรองว่าถูกหลักอนามัย ถ้าพี่ไปเดี๋ยวหนูให้เบิ้ลเลย ไม่คิดค่าโรงแรมด้วย เธอเสนอการขายชนิดที่ว่าตัดราคาคู่แข่งต่อหน้าตาต่อตา แถมยังมีโปรโมชันพิเศษ ลดแลกแจกแถมอีกต่างหาก

ทว่าแมงดาคนเดิมยังเดินตามมากระซิบอีกว่า อย่าไปเอาเลยพี่ ไม่เห็นเหรอว่าท้องโย้ซะขนาดนั้น

…นาที นั้นเอง รถตำรวจติดไซเรนวิ่งปราดเข้ามา เพียงชั่วพริบตาน้องเมย์ก็กระโดดผางขึ้นไปนั่งบนแท็กซี่ที่จอดรอพร้อมเผ่น ได้ทุกเมื่อ ส่วนคนอื่นๆ ก็พากันโกยอุตลุด เป็นอันว่าคืนนี้ต้องปิดการขายลงชั่วคราว!

ตร.ครวญ จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด

บริการ เซ็กซ์ริมทาง ย่าน โรงแรมสยาม ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องราตรีว่า เป็นแหล่งรวมนักเรียน นักศึกษาสาว ที่ออกมาหารายได้พิเศษช่วงค่ำคืน แต่เมื่อถูกตำรวจ สน.มักกะสัน กดดันอย่างหนักตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แหล่งค้ากามริมฟุตบาทแห่งนี้จึงไม่ใช่สวรรค์ของนักเที่ยวอีกต่อไป โดยแทบทุกคืนจะต้องมีสาวๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ราย ถูกกวาดต้อนไปโรงพัก จนกลายเป็นภาพชินตาของคนละแวกนี้ไปแล้ว…

ราว 6 ปีที่แล้ว กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุสถิติการจับกุมสาวค้ากามริมทางย่านนี้ได้มากถึง 500 คนทีเดียว ส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปจนถึงราว 30 ปีเศษ และข้อมูลที่น่าตกใจคือ ผู้ถูกจับกุมยังมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ

ขณะที่ตำรวจสืบสวน สน.มักกะสัน ยืนยันว่า บางรายเป็น นักศึกษาตัวจริง แถมบางรายยังมีใบหน้าสวยใสปิ๊ง สามารถเข้าสู่วงการบันเทิงได้สบายๆ!

ก่อน หน้านี้ ภาพการต่อรองราคามักอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมสยาม โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลงมานั่งฟังเพลง ส่วนเด็กไซด์ไลน์จะตั้งค่าตัวเสียสาวไว้คราวละ 1-2 พันบาท ไม่รวมค่าห้องต่างหาก เบ็ดเสร็จแล้วสนนราคาในการขึ้นสวรรค์จะตกราว 2-2.5 พันบาท

เมื่อทางโรงแรมทราบว่ามีสาวไซด์ไลน์เข้ามายึดพื้นที่เป็นแหล่งค้ากาม ทำให้เกิดมาตรการกดดันเด็กสาวพ้นพื้นที่ เพราะถือว่ารบกวนแขก

กระทั่งเมื่อถูกกดดันหนักเข้าก็ทำให้สาวไซด์ไลน์ต้องถอยร่นออกนอกพื้นที่ และทำให้เกิดศึกชิงลูกค้ากับ หมอนวดรุ่นใหญ่ ที่ยึดหัวหาดริมบาทวิถีอยู่ก่อนแล้ว แต่เกรดของหมอนวดอาจต่ำกว่าสาวไซด์ไลน์ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้า หากอายุมากราคาจะตกเหลือ 1 พันบาท หากอายุไม่เกิน 25 ปี สนนราคา 1.5 พันบาท ขึ้นอยู่กับเทคนิคการเจรจา แต่ราคามาตรฐานของ ซ่องกลางแจ้ง จะหยุดอยู่ที่ 1.5 พันบาท ยังไม่รวมค่าโรงแรมอีกอย่างต่ำ 300 บาท ส่วนค่าห้องที่โรงแรมสยาม ไม่เกิน 500 บาท

แม้ เจ้าหน้าที่จะเปิดยุทธการเชิงรุกออกกวาดล้าง แต่สาวๆ ที่ยืนอ่อยเหยื่อริมทางก็จะอาศัยรถแท็กซี่ขับวนรอบโรงแรมเป็นการคั่นเวลา รอจนพ้นสายตา เจ้าหน้าที่จึงวกกลับมาขายบริการต่อ

ข้อเท็จจริงนี้ พ.ต.ท.โอภาส หาญณรงค์ สว.สืบสวนปราบปราม สน.มักกะสัน กล่าวยืนยันว่า ตำรวจใช้มาตรการกดดันอย่างหนักทุกคืน โดยระดมตำรวจทั้งฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายจราจร กระจายกำลังโดยรอบ บางคืนสามารถกวาดจับหญิงขายบริการได้มากถึง 100 ราย และเมื่อทางโรงแรมสยามปิดปรับปรุง สถิติการจับกุมจึงลดลงเฉลี่ยเหลือคืนละ 15-20 คนเท่านั้น

แม้สาวไซด์ไลน์เหล่านี้จะรู้ดีว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี 2539 มาตรา 5 ฐานติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้า บุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน เพื่อการค้าประเวณี และต้องถูกตำรวจสั่งปรับโทษสูงสุดรายละ 1 พันบาทก็ตาม แต่ก็ยังดึงดันจะขาย ที่นาผืนน้อย ต่อไป โดยหลังถูกปล่อยตัวจากโรงพักก็กลับมายืนซุ่มตามมุมมืดเหมือนเคย

แฟ้ม บันทึกประวัติจับกุมในมือของสารวัตรโอภาส จึงเป็นสาวหน้าเดิมๆ ที่เคยถูกจับมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่เข็ด และเปลี่ยนกลยุทธ์จากที่เคยออกล่าเหยื่อช่วงหัวค่ำก็หันมารับงานช่วงหลัง เที่ยงคืนไปจนถึงเกือบรุ่งเช้า ขณะที่ตำรวจก็ไม่ลดละที่จะจัดกำลังมาสลายกลุ่มสาวขายเสียวริมทางแบบข้ามวัน ข้ามคืนเหมือนกัน

พ. ต.ท.โอภาส ยังสะท้อนความรู้สึกด้วยว่า ลึกๆ แล้วก็เห็นใจผู้หญิงกลุ่มนี้ เพราะบางรายแม้ไม่ใช่นักศึกษาจริง แต่มีครอบครัวและรับภาระต้องหาเลี้ยงคนทางบ้าน ฉะนั้นทางออกที่จะหารายได้มาจุนเจือครอบครัวง่ายที่สุดก็คือ ขายตัว

อย่าง ไรก็ตาม ตำรวจก็ต้องจับกุมไม่มีละเว้น แม้จะพยายามเรียกประชุมเหล่าสาวไซด์ไลน์ให้เลิกอาชีพนี้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถล้างระบบค้ากามให้หมดไปจากย่านนี้อย่างถอนรากถอนโคนได้

ตำรวจ เองก็ถูกกดดันมาก เพราะไม่สามารถกวาดล้างให้หมดไปได้ง่ายๆ เข้าใจว่าเมื่อโรงแรมสยามปิดปรับปรุงก็คงสร้างแรงกดดันได้ในช่วงแรกๆ แต่หญิงขายบริการก็จะเปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆ ทำให้ตำรวจต้องไล่ตามจับกันอีก พ.ต.ท.โอภาส กล่าว

วัฏจักร แหล่งค้ากามริมฟุตปาทไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่สังคมยังซุกปัญหาไว้ใต้พรม และคงไม่ใช่เฉพาะย่านนี้เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวทำนองนี้ในซอกมุมอื่นๆ เช่น แม่ค้าส้มตำหน้าหัวลำโพง สวนหย่อมวงเวียน 22 ป้ายรถเมล์หน้ากรมรักษาดินแดน (รด.) แหล่งรวม ไก่ รอบสวนลุมพินี และย่านค้ากามต่างชาติ ซ.นานาเหนือ หรือกระทั่งตำนานเก่าแก่อย่าง ผีขนุน ริมคลองหลอด และ สนามหลวง ฯลฯ

แนว ทางแก้ปัญหาด้วยการจับกุมจึงเป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุ ขณะที่ผู้ซื้อบริการยังมีจำนวนเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นตลอด และหากพูดให้ลึกลงไปก็คือ ปัญหาคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย กำลังถูกเขย่าให้สั่นคลอนถึงฐานรากจนยากจะเยียวยา
ที่มา โพสต์ทูเดย์