วัยรุ่นหญิงยุคใหม่หน้าตาเฉยถูกฟันแล้วทิ้งเรื่องเล็ก

วัยรุ่นหญิงยุคใหม่หน้าตาเฉยถูกฟันแล้วทิ้งเรื่องเล็ก
ข้อความ : ‘วัยรุ่นหญิง’ยุคใหม่ หน้าตาเฉยถูกฟันแล้วทิ้งเรื่องเล็ก
วุฒิสภาตาค้าง’วัยรุ่นหญิง’ยุคใหม่ หน้าตาเฉยถูกฟันแล้วทิ้งเรื่องเล็ก
ข่าวจากหนังสือพิมพ์ มติชน

วุฒิสภาเปิดเวทีสัมมนา ‘ฟันแล้วทิ้ง หญิงจะทำอย่างไร’ ให้เยาวชนลุกขึ้นมาจ้อ
หญิงรุ่นใหม่ไม่หวั่นถูกทิ้ง กลัวมีเซ็กซ์แล้วท้องมากกว่า
ฝ่ายชายชี้ช่องสังเกตหญิงผ่านชายมาแล้วให้ดูอก

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม คณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ วุฒิสภา
จัดสัมมนาเรื่อง”ฟันแล้วทิ้ง ผู้หญิงจะทำอย่างไร” ที่รัฐสภา งานนี้มีนิสิต
นักศึกษา ให้ความสนใจ ร่วมสัมมนาจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
โดย พ.ญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ หมอผ่าศพชื่อดัง กล่าวว่า
พบเหตุผู้หญิงถูกฟันแล้วทิ้ง
มีหลายรายเข้ามาขอความช่วยเหลือให้พิสูจน์ฝ่ายชายว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงจริง
ส่วนใหญ่หญิงถูกชายบังคับ และมักอยู่ในวัยเรียน ฝ่ายหญิงกึ่งปฏิเสธกึ่งยอม
สุดท้ายก็ห้ามใจไม่อยู่

พ.ญ.พรทิพย์กล่าวว่า มีกรณีหนึ่งผู้หญิงถูกเพื่อนแฟนข่มขืน
พิสูจน์พบอสุจิในช่องคลอด แต่เมื่อขึ้นศาล ทนายซักไซ้
ผู้ชายบังคับให้มีความสัมพันธ์กันในอ่างน้ำและฝ่ายหญิงอยู่บน
ศาลก็พิพากษาว่าผู้หญิงยินยอม ซึ่งก็ไม่สามารถเอาผิดผู้ชายได้

หลังจากนั้นเปิดเวทีให้เยาวชนที่เข้าร่วมงานแสดงทรรศนะ ปรากฏว่า นายติ๊ก
มเหศักดิ์ เยาวชนดีเด่นสาขาคุณธรรม ปี 2544
กล่าวถึงทรรศนะและพฤติกรรมของผู้ชายว่า ถ้าผู้ชายอิ่มท้องเมื่อไร
เรื่องเซ็กซ์ก็จะเกิดขึ้นในสมอง

ผู้ชาย 9 ใน 10 มองผู้หญิงเรื่องเซ็กซ์เป็นอันดับแรก นึกถึงภาพสัดส่วน
จะมองว่าผู้หญิงคนนั้นเคยนอนกับผู้ชายมาหรือยัง
และบรรดาผู้ชายจะสังเกตจากท่าทางการเดิน และหน้าอกก็พอประมาณได้

“เวลาผู้ชายนั่งจับกลุ่มกันเห็นผู้หญิงเดินมา จะดูท่าทางการเดิน
ดูเนื้อส่วนบน(หน้าอก)ว่าเดินแล้วสั่นไหวหรือเปล่า ถ้าเดินขากางๆ
เนื้อสองข้างสั่นไหวให้สันนิษฐานเลยว่าต้องโดนมาแล้ว
ส่วนการมองอวัยวะด้านล่างจะตามมา ซึ่งนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์กันภายใน 3
อาทิตย์

จากการหาข้อมูลของผมจากผู้หญิงอายุ 25-30 ปี
ที่ถามว่าถ้าโดนฟันแล้วทิ้งจะทำอย่างไร
ส่วนใหญ่บอกว่าถ้าเป็นการสมยอมไม่เป็นไรเพราะทั้งคู่ต่างก็ขึ้นสวรรค์เหมือนกัน
หรือถ้าฟันแล้วท้องผู้หญิงวัยนี้จะมองว่าไม่เป็นไรลูกคนเดียวเลี้ยงได้
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ถูกข่มขืนผู้หญิงส่วนใหญ่จะแอนตี้มาก” นายติ๊กกล่าว

น.ส.พนิชญา โพรังวงศ์ จากองค์การบริหารนักศึกษา สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา
เสนอความเห็นว่า ปัจจุบันการที่หญิงชายจะมีเพศสัมพันธ์กันไม่จำเป็นต้องรอถึง
3 สัปดาห์เพียงแค่คืนเดียวเที่ยวด้วยกันก็สามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้แล้ว
และปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน
เป็นเพื่อนกันก็นอนด้วยกันได้แล้ว คำว่า เซ็กซ์กลายเป็นเรื่องปกติ
ยุคที่นักศึกษานิยมจะอยู่กินด้วยกันเกิดจากความสมยอม เป็นเรื่องปกติมาก
การเจอกันใช้เวลา 3 สัปดาห์ถือว่าเป็นเรื่องล้าสมัยแล้ว
แค่เที่ยวด้วยกันคืนเดียวก็นอนด้วยกันได้ ตื่นเช้ามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ซึ่งเดี๋ยวนี้ผู้ชายนิยมมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนเพราะมันง่ายกว่ามีกับแฟนเพราะมันไม่ผูกมัด

ด้านนายสมพงษ์ จิตระดับ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
ไม่เพียงแต่จำนวนของผู้หญิงที่ถูกฟันแล้วทิ้งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
เท่านั้น แต่วัยรุ่นชายต่างมีวิธีการต่างๆ นานาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง
ซึ่งในปัจจุบันพบว่าวัยรุ่นชายมักจับกลุ่มกันเพื่อช่วยกันล่าเหยื่อผู้หญิง
จริงๆ แล้วปัญหาฟันแล้วทิ้งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก
เพราะผู้หญิงที่โดนกระทำเช่นนี้ไม่มีอะไรมาช่วยเหลือหรือรองรับเลย
นับวันจะรุนแรงขึ้น
จากข้อมูลที่ได้รับทราบว่านักเรียนในระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลายกำลังนิยมที่จะ
จับกลุ่มกันประมาณ
7-10 คน แล้วไปนั่งกินเหล้าเพื่อให้เกิดความคึกคะนอง
จากนั้นเมื่อได้ที่ก็จะลงมือล่าเหยื่อที่เป็นผู้หญิงแล้วรุมโทรมซึ่งพบมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากเสร็จสิ้นการสัมมนาได้มีการแบ่งกลุ่มย่อยอภิปราย น.ส.ลัดดาวัลย์
ขอสงวนนามสกุล นักศึกษาจากสถาบันราชภัฏชื่อดัง กล่าวว่า
เดี๋ยวนี้ผู้หญิงไม่กลัวฟันแล้วทิ้งแต่กลัวฟันแล้วท้องมากกว่า
ฟันแล้วท้องเป็นปัญหาที่ยากแก่การแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการสัมมนาบรรดาผู้เข้าฟังซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิสิต
นักศึกษาทั้งชายหญิงร่วม 100 คน ต่างสนุกสนานเฮฮาตลอดเวลา
บางตอนที่มีการกล่าวถึงทรรศนะของผู้ชายที่นิยมฟันแล้วทิ้ง
บรรดาเยาวชนไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกกับค่านิยมเหล่านี้
แต่เห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน แม้แต่ตอนนี้
น.ส.ลัดดาวัลย์แสดงความคิดเห็นเรื่องไม่กลัวฟันแล้วทิ้ง
แต่กลับฟันแล้วท้องบรรดาเพื่อนๆ ที่ฟังก็หัวเราะกับคำพูดดังกล่าว
ไม่มีใครลุกขึ้นโต้เถียงแม้แต่คนเดียว
ขณะที่ผู้ใหญ่ซึ่งร่วมสนทนาต่างก็มองว่าปัญหาฟันแล้วทิ้งไม่ใช่เรื่องสนุก
เป็นปัญหาที่เยาวชนน่าจะวิตกกังวลมากกว่า
จาก : kumakidensu – 17/03/2002 12:31

Leave a Reply