sex phone เซ็กซ์โฟน

sex phone เซ็กซ์โฟน
เรื่องที่ฮิตติดสังคมไทยในยุคนี้อีกเรื่องหนึ่งเห็นจะหนีไม่พ้น เซ็กซ์โฟน
มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์กันหลายรูปแบบ
ทั้งการบอกต่อตามหนังสือนิตยสารต่างๆ
รวมทั้งผ่านทางอินเตอร์เน็ตหาสมาชิก

ความจริงแล้วเรื่องของเซ็กซ์โฟนนี้มีมานานมาแล้ว
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเกิดขึ้นในประเทศทางแถบตะวันตก
และแพร่ระบาดต่อมาเรื่อยๆ
ถ้าจะท้าวความไปในตอนแรกนั้นเซ็กซ์โฟนเกิดจากการที่หนุ่มสาวที่มีความรักกัน
ไม่สามารถจะเป็นของกันและกันได้เนื่องจากมีอุปสรรคจากพ่อแม่
หน้าที่การงานที่ต้องแยกกันอยู่คนละถิ่นฐานบ้านช่อง
หรือบางคู่นั้นคนรักเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ
หรือเดินทางไปทำงานต่างประเทศบ่อย
ทำให้ไม่สามารถที่จะมีโอกาสแสดงความรักด้วยภาษากายเป็นของกันและกันได้
ก็เลย ต้องอาศัยเสียงของคนรักเป็นตัวสื่อให้มีจินตนาการ
แล้วใช้การช่วยเหลือตนเองให้มีความสุขไป

นอกจากนี้บางครั้งไม่สามารถที่จะปฏิบัติกิจกรรมแห่งความรักที่ โลดโผนโจนทะยาน
แต่ใจอยากก็อาศัยการพูดคุยผ่านสายโทรศัพท์แล้วจินตนาการเอาเองเป็นการปลด
ปล่อยความปรารถนาบางชนิดออกไปและเมื่อกลับมาเจอกันก็มีการแสดงความใคร่ตาม ปกติ
นั่นแหละครับเป็นต้นกำเนิดของ เซ็กซ์โฟน

ต่อมาเมื่อมีอาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และเพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนหรือไม่เป็นที่พึงปรารถนา
สถาบันเกี่ยวกับเพศศาสตร์ศึกษาหลายสถาบัน
ก็ได้มีการแนะนำกระบวนการในการมี ความสัมพันธ์ทางเพศที่ปลอดภัยหรือ SAFER SEX
ซึ่งการใช้ เซ็กซ์โฟน ก็เป็นกระบวนการวิธีหนึ่ง
ที่แนะนำให้หนุ่มสาวยึดถือปฏิบัติเมื่อยังไม่พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์
ทำให้ได้รับความสุขสมหวังไปบ้างพอประทังอารมณ์ปรารถนา

จะเห็นได้ว่า เซ็กซ์โฟน นั้นกำเนิดขึ้นมา
ด้วยความหวังว่าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาโปรด
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปไหงกลายเป็นเรื่องยั่วยุกามารมณ์ไปก็ไม่รู้

เรื่องของเรื่องมันต่อเนื่องมาแบบนี้ครับ
กาลเวลาต่อมา เมื่อมีคนรู้เรื่องการใช้โทรศัพท์ในการโทรไปหาคนรักแล้ว
ระบายอารมณ์ปรารถนา ซึ่งกันและกันแล้ว
ก็มีผู้ไม่หวังดี และคนที่อาจมีความผิดปกติทางจิตใจ
โทรไปลวนลามผู้หญิงตามเบอร์โทรศัพท์ที่มีอยู่ในสมุดโทรศัพท์
และในบางครั้งคนโสด หรือคนที่มีคู่ไปเป็นตัวเป็นตน
ก็โทรศัพท์ไประบายอารมณ์กับเพื่อนต่างเพศให้ เกิดความรำคาญ
จึงเกิดมีคนหัวใสคิดการจัดบริการทางเพศผ่านสายโทรศัพท์ขึ้น
เซ็กซ์โฟน ในแง่ของการพาณิชย์จึงเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้

แถมหญิงสาวหลายรายเห็นเป็นประโยชน์
ที่จะทำรายได้จากการรับฟังการ ระบายอารมณ์จากหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย
ที่โทรศัพท์กันมาหาเธอ นอกจากนี้สาวๆ ทั้งๆ ที่โสด
หรืออาจจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วเหล่านั้นก็มาคิดอีกว่า
ไม่ต้องเสียตัว ไม่ต้องเสี่ยงตั้งครรภ์ ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้การคุมกำเนิดชนิดต่างๆ
แถมไม่ติดโรคอีกด้วย และคนที่โทรมาก็ไม่เห็นหน้าค่าตา
ไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรอยู่ที่ ไหน

แค่หารูปผู้หญิงหน้าตาดีๆ หุ่นงามๆ แต่งตัวโป๊ๆ
และเขียนบรรยายให้เกิดอารมณ์กระสันสวาทแล้วไปลงโฆษณตามนิตยสาร
ที่หนุ่มๆ ชอบอ่าน และรอรับโทรศัพท์รับเงินลูกเดียว

จะเสียเวลาบ้างที่เพียงแต่ต้องทำเสียงเซ็กซี่
หรือเสียงปลุกเร้าอารมณ์และพูดคำพูดต่างๆ
เกี่ยวกับบทมหัศจรรย์ที่อีกฝ่ายต้องการทำเท่านั้นก็ได้เงินมาใช้แล้ว

เพราะเมื่อเกิดการใช้บริการนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องมีเครดิต
และต้องให้หักเงินจากบัตรเครดิตได้จึงจะสามารถใช้บริการได้
ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะผู้ที่จะมีบัตรเครดิตได้นั้นในต่างประเทศจะต้องบรรลุนิติภาวะ
และมีงานมีการทำแล้วจะได้ไม่เป็นการยั่วยุกิเลสของวัยรุ่น

นอกจากนี้ผู้หญิงบริการทางเพศที่ใกล้ปลดระวาง
เพราะสุขภาพทรุดโทรมไม่สามารถที่จะรับแขกได้แล้ว
ก็ยังสามารถให้บริการทางสายโทรศัพท์ได้อีกด้วย
เลยกลายเป็นบริการยอดฮิตไป…ทำไมทราบไหมครับ

ก็เพราะว่าผู้หญิงก็ใช้ได้ ผู้ชายก็ใช้ดี
มีบริการเซ็กซ์โฟนผ่านสายโทรศัพท์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ผู้ชายบางคนภรรยาไม่สามารถตอบสนองท่วงท่าและลีลาแห่งความรักที่ตน
ต้องการได้ก็โทรไปใช้บริการ
อยากให้คุณผู้หญิงผู้ขายบริการเสียงสวาทผ่านเซ็กซ์โฟนพูดอะไรก็ได้
ทำเสียงครวญครางอย่างไรก็ได้ ก็ตอบสนองต่อความต้องการของตนเองได้

ผู้ชายโสดๆ ที่จะไปมีสัมพันธสวาทกับเพื่อนหญิง
หรือไปใช้บริการกับหญิงบริการทางเพศแต่กลัวติดโรคก็ใช้บริการผ่านสายโทรศัพท์ได้
ผู้ชายที่เหงา ปรึกษาภรรยาในบางเรื่องไม่ได้ก็โทรไปปรึกษาได้
ผู้หญิงที่สามีเป็นพวกบ่มีไก๊ ก็โทรไปคุยได้ทั้งฝ่ายชายตามสาย
หรือประเภทชอบผู้หญิงด้วยกันแต่ไม่กล้า
แสดงออกก็อาศัยโทรไปหาฝ่ายหญิงที่ขายบริการสายสวาทผ่านเซ็กซ์โฟนได้
คนที่มีความเก็บกดทางอารมณ์ก็โทรไประบายอารมณ์ได้ ฯลฯ

เซ็กซ์โฟนเลยกลายเป็นบริการที่ฮิตติดอันดับ ในต่างประเทศ
เคยมีนิตยสารผู้หญิงชื่อดังไปสัมภาษณ์
ผู้หญิงที่ให้บริการสายสวาทดังกล่าวพบว่าบางคนมีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
และปกติก็เป็นแม่บ้านดูแลบ้านอย่างเดียว
ต่อมากิจการสามีไม่ดี
และเอเย่นต์มาติดต่อก็ลองรับโทรศัพท์ดูและก็บอกว่าคิดว่าเป็นการทำงานอย่าง หนึ่ง
สามีก็รู้ บางครั้งพูดโทรศัพท์ขายบริการสายสวาทอยู่นั่นน่ะ

สามีก็อยู่ในบ้าน กิจการดีถึงขนาดต้องใช้โทรศัพท์มือถือ
จะได้ถือไปพูดที่ไหนก็สะดวก บางเวลาพูดไปรีดผ้าไปก็มี
ไม่ทราบว่า พูดไปแล้วให้บริการสามีตัวเองไปด้วยหรือไม่
เพราะไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าวมา

เรื่องเซ็กซ์โฟนในต่างประเทศนี้จิตแพทย์บางท่านก็สนับสนุนว่า
เป็น ทางออกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนโรคจิตอาจจะลดอาชญากรรมทางเพศลดลง
เพราะมีทาง ระบายอารมณ์ออกไปแล้ว
อาจจะด้วยการช่วยเหลือตนเองในขณะที่คุยทางโทรศัพท์
หรือทำเองต่อหลังจากคุยเสร็จแล้วก็ได้

การที่หนุ่มสาวที่รักกันและต้องแยกกันเพราะการเรียน
เช่นคนหนึ่ง ไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรืออาจจะแยกกันอยู่คนละเมืองคนละประเทศ
เพราะหน้าที่การงานก็จะเป็นการช่วย ให้สัมพันธภาพยังคงอยู่
เพราะมีทางที่จะระบายไฟปรารถนาแห่งหัวใจออกไปได้

แต่แพทย์และนักอาชญวิทยาที่ไม่เห็นด้วยก็แย้งว่า
อาจจะเป็นการกระตุ้นให้คนเกิดอารมณ์
และไปกระทำการที่มิดีมิร้ายกับคนบริสุทธิ์ก็เป็นไปถ้าควบคุมไม่ดี

ดังนั้นเซ็กซ์โฟนจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปใช้ในทางใด
ถ้าใช้ไปในทางที่ดีก็เป็นประโยชน์ ถ้าใช้ผิดทางก็จะเกิดโทษแทน
ยิ่งเดี๋ยวนี้ยิ่งยากที่จะควบคุมเพราะมีทั้งอินเตอร์เน็ตโฟน
แช็ทรูมทางอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่โทรได้ง่าย
เปิดบริการที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ที่การควบคุมของบ้านเมืองและกฎหมายเข้าไปยาก
ความรู้ด้านเพศศึกษาที่ถูกต้องตามวัยจึงมีความจำเป็นในยุคโลกาภิวัตน์นี้

เพื่อให้ทุกคนในโลกนี้ได้รู้เรื่องราวที่ถูกต้อง
และขจัดความเข้าใจผิดๆ รวมทั้งพฤติกรรมทางเพศที่ผิดๆ ออกไป
เซ็กซ์โฟนจึงยิ่งเป็นเสมือนดาบสองคม
ที่ถ้าตกลงไปมือของคนที่นำไปใช้ในทางที่ผิดแล้วอาจจะเป็นเช่นนี้

คนที่คุยผ่านทางเซ็กซ์โฟนแล้วทำการช่วยเหลือตนเองไปด้วยทำไป
บ่อยๆ เข้าก็จะกลายเป็นโรคติดเซ็กซ์
เมื่อใช้จิตนาการบ่อยๆ สมองต้องใช้งานมากเสียพลังงานจากการใช้สมองนั้น
จะมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์
หลังจากห้วงเวลาแห่งการจินตนาการผ่านไปก็จะอ่อนเพลียง่าย
ไม่มีแรง นานไปนานไปสุขภาพก็เสื่อม
การเรียนการศึกษา การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพลดลง
อาจเรียนได้ไม่จบตามความประสงค์ หรือโดนไล่ออกจากงาน
เพราะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

ถ้ามีอารมณ์ต่อเนื่อง แล้วไปใช้บริการทางเพศต่อ
หรือมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายและเพื่อนสาวโดยไม่มีการป้องกันตนเอง
อาจติดโรคร้ายแรงจำพวกเอดส์ ซึ่งเป็นแล้วเสียชีวิตมาทำให้อนาคตเสียไป

คู่รักจับได้อาจจะทำให้เข้าใจผิด ระหองระแหงจนแยกทางกันเดินก็ได้
เพราะการกระทำดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม
เข้าตำรา…อะไรที่ง่าย ใช่ว่าจะดี จิ้ม (โทรศัพท์)
ไม่กี่ทีก็ดึ๋งดั๋ง…พิจารณาเอาเถอะ จะได้เปลี่ยนคมดาบด้านร้ายให้กลายเป็นดีซะ
นายแพทย์พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ

http://www.naewna.com/news.asp?ID=65460
เซ็กซ์โฟน (เลียบวิภาวดี)
เซ็กซ์โฟน มีขายบริการในบ้านเรานานหลายปีแล้ว แต่ตำรวจเพิ่งตื่นจากฝันจัดการจับกุมเจ้าของบริษัทและสาวเซ็กซ์โฟนกันใน วันนี้ โดยมีมูลนิธิ กระจกเงา เป็นผู้ไปปลุกให้ตำรวจตื่น
จับทั้งทีก็เพิ่งจับได้รายเดียว โดยมีผู้เกี่ยวข้อ 17 คน ประกอบด้วย สาวเซ็กซ์โฟน 14 คน และเจ้าของกิจการชายอีก 3 คน ทั้งๆ ที่บริษัทขายบริการเซ็กซ์โฟนมีมากมายราวกับดอกเห็ด
ที่ว่าตำรวจเพิ่งตื่นจากฝัน เพราะบริการเซ็กซ์โฟนเป็นธุรกิจโกยกำไรที่กำลังฮอตสุดฮิตในยุคนี้ และทำกันอย่างเปิดเผยเย้ยกฎหมายอย่างท้าทาย มีการโฆษณาทั้งในหนังสือรถ หนังสือกีฬาและหนังสือนู้ด
แน่นอน ในเว็บไซต์ลามกต่างๆ ก็มีการโฆษณาเซ็กซ์โฟนกันอย่างโจ่งแจ้ง
ข้อความโฆษณาขายเซ็กส์โฟนมักจะไม่ซับซ้อนมีความหมายสื่อไปในทางเพศ คล้ายๆ กันเช่น สาวสวยสุดเซ็กซี่ มีทีเด็ดฉอเลาะให้คุณเห็นสวรรค์ได้ หรือ หากคุณเหงา เชิญเม้าท์วาบหวามกับน้องหมิว โทร.สยิวกับน้องแอนน์ คุยแนบแน่นกับน้องตุ๊ก มีบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ว่ากันว่า หมายเลขโทรศัพท์ของบริการเซ็กซ์โฟนเกือบทั้งหมดจะเป็นสายด่วน 1900 และตามด้วยเลขจำง่ายๆ อีก 6 หลัก
สาวเซ็กซ์โฟนส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่ถูกฝึกให้พูดจายวนยั่วได้ เยี่ยมเป็นอันดับหนึ่ง ลามกต่ำกว่าสะดือเป็นอันดับสอง ครวญครางอย่างใจง่ายเป็นอันดับสาม และกระซิบกระซาบซิกซี้รัญจวนใจเป็นอันดับสี่ ซึ่งล้วนเป็นกลยุทธ์ที่มัดใจลูกค้าให้ใช้บริการยาวนานเกินกว่า 300 นาที
แน่นอน ลูกค้าเกือบทุกรายมักสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองไปด้วยในขณะพูด
การขายบริการเซ็กซ์โฟนนั้น ใครจะกล้าประกันว่า สาวเซ็กซ์โฟนบางรายจะไม่นัดหมายขายบริการทางเพศแบบ ตัวถึงตัว ให้แก่ลูกค้า หลังจากที่เม้าท์ลามกจนต่างฝ่ายต่างสุกงอมได้ที่แล้ว
หลังจากเซ็กซ์โฟนทำให้ศีลธรรมบ้านเราเรียวแหลมมาหลายปี บัดนี้ตำรวจตื่นจากหลับมาจับเซ็กซ์โฟนแล้ว ยังไงๆ ก็อย่าให้เป็นแค่ผักชีโรยหน้า หรือจับรายสองรายเป็นกระสวยยาเท่านั้น
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม

แฉเซ็กส์โฟนรับวันละ 2แสน
แฉ! เซ็กส์โฟนรับวันละ 2แสน TOT รับเละปีละ 250 ล้าน
มูลนิธิ กระจกเงาแฉบริษัทเซ็กส์โฟนมีรายได้วันละเหยียบ 2 แสนบาท ทีโอทีรับส่วนแบ่งราว 250 ล้านบาทต่อปี จวกเป็นธุรกิจเพศพาณิชย์ของรัฐแห่งแรก จี้แสดงความรับผิดชอบยุติธุรกิจ ขู่หากไม่ดำเนินการยื่นหนังสือถึงกทช.เลิกสัญญาสัมปทานกับทีโอท ี

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2550 ที่มูลนิธิกระจกเงา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานมูลนิธิกระจกเงา แถลงข่าว “เบื้องลึก…เบื้องหลัง Sexphone 1900xxx”ว่า ขอเรียกร้องให้บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน)ในฐานะเป็นผู้ให้สัมทานกับบริษัทเอกชน ทำธุรกิจการให้บริการออดิโอเท็กซ์ประเภทแชทไลน์(1900 xxx)
จนมีการ ใช้เป็นช่องทางในการให้บริการเซ็กส์โฟนผ่านหมายเลข 1900 xxx และแบ่งรายได้ให้บริษัท ทีโอทีฯ สัดส่วน40 % ของรายได้ ดังนั้น บริษัท ทีโอทีฯหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงต่อการกำกับดูแลและควบคุมให้ บริษัทดำเนินการตามสัญญาสัมปทาน แต่ละเลย ปล่อยมีการกระทำความผิด จึงต้องออกมารับผิดชอบ

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มูลนิธิฯได้ทำหนังสือถึงบริษัท ทีโอทีฯเพื่อขอให้ยกเลิกสัมปทานกับบริษัทที่มีการให้บริการลักษ ณะนี้ ได้รับคำตอบว่าจะยกเลิกสัญญากับบริษัท แต่จนขณะนี้ยังคงเพิกเฉย ไม่มีการดำเนินการใดๆ เท่ากับบริษัท ทีโอทีฯ มีเจตนาหรือสมรู้ร่วมคิดในการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและบริษั ทที่เปิดบริการ
บริษัท ทีโอทีฯจึงต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ซึ่งหากไม่ดำเนินการใดๆ มูลนิธิฯจะยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กท ช.)เพื่อขอให้ยกเลิกสัมปทานกับทีโอที เพราะไม่เคยเห็นประเทศไหนดำเนินการเพศพาณิชย์ โดยองค์กรของรัฐ

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากบริษัท ทีโอทีฯแล้วเปิดให้บริการเซ็กส์โฟน 10 บริษัท โดยมีการโฆษณาบริการเซ็กส์โฟนผ่านสื่อต่างๆอย่างกว้างขวางทั้งน ิตยสารบันเทิง หนังสือพิมพ์ฟุตบอล เวบไซต์ต่างๆ และโทรทัศน์ ยกตัวอย่างเช่น ข้อความ “คุยเสียวกับนักศึกษาสาว” เป็นต้น เด็กและเยาวชนหลงเข้าไปใช้บริการด้วยความอยากรู้จำนวนมาก
หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคน หายฯ กล่าวอีกว่า ทำให้บริษัทธุรกิจ ต้องจัดแบ่งพนักงานรับโทรศัพท์ที่เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18 – 25 ปี เป็น 3 กะต่อวัน กะละ 15 คน แต่ช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากจะเพิ่มพนักงานเป็นกะละ 30 คน และบังคับให้แต่ละคนต้องทำยอดขั้นต่ำในการคุยกับลูกค้าให้ได้ 200 นาทีต่อวัน
หากยืดเวลาได้นานถึง 300 นาทีต่อวันจะได้รับโบนัสพิเศษ โดยพนักงานจากมีรายได้ประมาณ 250 – 300 บาทต่อวัน รวมถึง มีการเรียกตัวออกมาข้างนอก โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ให้บริการ ครั้งละ 2,500 บาท เมื่อคำนวณหารายได้จากค่าบริการนาทีละ 13 บาท เท่ากับบริษัทมีรายได้จากธุรกิจเซ็กส์โฟนวันละประมาณ 175,000 บาท
มี บริษัทที่ให้บริการลักษณะนี้ทั้งสิ้น 10 บริษัท แต่ละบริษัทต้องแบ่งรายได้ 40 %ให้กับบริษัท ทีโอทีฯ เท่ากับว่าบริษัท ทีโอทีฯมีรายได้จากธุรกิจนี้ประมาณ 250 ล้านบาทต่อปี บวกกับค่าสัมปทานปีละ 1 ล้านบาทต่อบริษัท

จาก การส่งสายไปทดลองใช้บริการเซ็กส์โฟน พบว่ามีการพูดคุยลักษณะลามก อนาจาร ถึงขั้นสำเร็จความใคร่ เป็นการค้าประเวณีทางเสียง ซึ่งผู้ประกอบการมีความผิดล้วนๆแต่ยังผิดและเลวไม่เท่าบริษัท ทีโอทีฯ เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐและรับภาษีประชาชน
จึงอยากให้บริษัท ทีโอทีฯ ยกเลิกสัญญาสัมปทานที่ให้กับบริษัทเป็นเวลา 15 ปี ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะมีหลักฐานการกระทำผิดสัญญา โดยการใช้สัมปทานไปในลักษณะลามกอนาจารชัดเจน และดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยการควบคุมด ูแลการให้บริการออดิโอเท๊กซ์ 1900 xxxนาย เอกลักษณ์ กล่าว
ที่มา Mthai