จับ จูบ ลูบ เล้าโลม เพศสัมพันธ์

จับ จูบ ลูบ เล้าโลม เพศสัมพันธ์
จับ จูบ ลูบ และเล้าโลม…สู่การมีเพศสัมพันธ์
เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่มาบุญครอง
ก็เลยเดินเลยไปดูศูนย์ชุมนุมวัยรุ่นวัยโจ๋แถวเซ็นเตอร์พ้อยต์
แถวสยาม แทบตกใจ เพราะไม่เชื่อสายตาตนเอง พอดีไปเห็นในช่วงหัวค่ำ
บรรยากาศมืดๆ สลัวๆ

ความที่นั่งใต้ต้นไม้จะเห็นหนุ่มสาวนั่งเป็นคู่ๆ
บางรายเก้าอี้นั่ง นั่งได้เกือบ 4-5 คน
แต่เด็กสาวกลับไปนั่งซ้อนตัวเพื่อนชายให้โอบเอว ฝ่ายหญิงโอบคอ
โน้มตัวไปกอดจูบกันอย่างเปิดเผย อีกคู่ยืนอยู่ในมุมตึกที่มืดๆ
ยืนลับๆ ล่อๆ กัน แล้วทั้งคู่ก็หายเข้าไปในห้องน้ำสาธารณะแถวนั้น
อีกคู่ถ้าเดาอายุของทั้งสองแล้วไม่เกิน 15 ปี
ฝ่ายเด็กหญิงใส่เสื้อเกาะอก โชว์สะดือ เดินคลอเคลียฝ่ายชาย
ส่วนมือฝ่ายชายก็ไม่อยู่นิ่งลูบคลำแถวบั้นท้ายฝ่ายหญิง…
ยังมีอีกหลายคู่ที่คงบรรยายไม่หมดเพราะล้วนแต่จะเข้าข่ายหนังเรตอาร์เชียวล่ะ

ภาพของวัยรุ่นหนุ่มสาวข้างต้นมันมิใช่เป็นภาพอันน่าชวนมองเลย
แต่รู้สึกสะเทือนใจมากกว่า
นี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่ผู้เขียนได้ไปพบเจอกับภาพการนัวเนียของหนุ่มสาวจริงๆ
มันมิใช่การนัดเจอเที่ยวกันเฉยๆ ซะแล้ว
แต่มันแฝงเรื่องอารมณ์ใคร่

การแสดงออกถึงความรักความใคร่ต่อกันแบบเปิดเผย
พวกเขาไม่อายกับการกระทำเหล่านั้น
ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ควรนำไปสู่ทางมีเพศสัมพันธ์
รวมทั้งการอยู่ด้วยกันลำพัง อยู่ในที่ลับตา มีการใช้สุรา
ยาเสพติด มีการกระตุ้นหรือเล้าโลมทางเพศ ฯลฯ จากการศึกษาพบว่า

การสัมผัสระหว่างฝ่ายหญิงในลักษณะต่างๆ
จะสามารถพัฒนาการไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ ดังนี้
จับมือถือแขน 10% กอดจูบ 60% ลูบคลำ 80% เล้าโลม 100%

พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหว
รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆของลูก
อย่าปล่อยให้ลูกเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น
เพราะลูกจะไขว่คว้าหาความสุขนอกบ้าน
ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนทำให้ขาดเพื่อนไม่ได้

คงจะต้องฝากพ่อแม่ผู้ปกครองให้ตระหนักและดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ถ้าท่านยังไม่อยากให้ลูกๆ หลานๆ มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
แต่หากเกิดปัญหาขึ้นแล้วและวัยรุ่นตั้งครรภ์ขณะยังไม่พร้อม
จะทำอย่างไร? จากบทสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ของคุณเสาวนีย์ พัฒนาอมร
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวไว้ว่า
ความพลาดพลั้งจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของวัยรุ่น
อาจทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ตามมาได้
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คงไม่ใช่เวลาที่จะโทษว่าใครผิด ใครถูก
เพราะเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้วัยรุ่นขวัญเสียพออยู่แล้ว

สำหรับผู้เป็นพ่อแม่ของเด็ก ก็ขอให้ทำใจให้สงบ
ทำใจยอมรับว่าเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว
หากคุณตีลูกให้ตายก็ไม่สามารถทำให้เหตุการณ์ต่างๆดีขึ้นได้จึงขอให้คุณระงับความไม่พอใจเอาไว้
(แม้คุณจะรู้สึกเสียหน้าอย่างมากก็ตาม)
เรียกเด็กทั้งฝ่ายชายและหญิงมาพูดคุยกัน ด้วยความเห็นใจ ไม่ตำหนิ
ว่าเขาทั้งคู่คิดอย่างไรต่อเรื่องนี้

เขาคิดจะทำอย่างไรต่อการตั้งครรภ์ การเลี้ยงลูก
และอนาคตด้านการเรียน ช่วยให้เขามีทางเลือกหลายๆทาง เช่น
ถ้าเขาต้องการเอาลูกไว้ เขาจะต้องพักการเรียนไว้ก่อน
เมื่อคลอดลูกแล้วค่อยกลับไปเรียนต่อ ช่วยหาคนเลี้ยงลูกให้
หรือหาที่อุปการะลูก หากเด็กไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวเองได้
แต่ถ้าทั้งคู่ ไม่ต้องการเรียนต่อ ก็ต้องช่วยเขาวางแผนอนาคต
ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ควรประกอบอาชีพอย่างไร
เพื่อให้เขาทั้งคู่สามารถพึ่งตัวเองได้ระดับหนึ่ง
ซึ่งทุกขณะพ่อแม่ก็ควรให้กำลังใจ
คอยเป็นที่ปรึกษาในกรณีที่เขามีปัญหาในทุกเรื่อง
เพื่อให้เขาสามารถประคับประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่ง
และไม่สร้างปัญหาให้กับทารกตาดำๆที่จะเกิดมาดูโลกโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่

สำหรับวัยรุ่นเอง หากพลาดไปแล้ว
ก็อย่าพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เราจะเป็นต้องปรึกษาผู้มีประสบการณ์ที่เรารู้สึกว่าไว้วางใจได้
อาจเป็นพ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง หรือครู
เพื่อขอคำปรึกษาและหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกัน
โดยก่อนอื่นต้องยอมรับว่าความพลาดพลั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวัยเรียน
เป็นเรื่องที่เราอาจต้องโดนตำหนิจากผู้ใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนเดือนร้อน
พ่อแม่ผู้ใหญ่เขาต้องรู้สีกผิดหวังในตัวเรา
ต้องรู้สึกเสียหน้าถ้าเพื่อนบ้านรู้
และตัวเราเองก็อาจเสียอนาคตหากเราตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างไม่เหมาะสม
ฉะนั้นเราต้องพยายามอดทนต่อการถูกต่อว่า
การตำหนิด้วยสายตาที่มองเราอย่างสมเพช
….ต้องอดทนให้ได้เพื่ออนาคตของเราเอง….
และเลือกทางออกที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเราและลูกของเรา

หากคิดว่าปรึกษาคนใกล้ตัวไม่ได้ เพราะกลัวว่าเขาอาจรับไม่ได้
ก็สามารถปรึกษาได้กับสถาบันพัฒนาประชากร หรือสมาคมวางแผนครอบครัว
ซึ่งมีศูนย์บริการรับปรึกษาปัญหาการตั้งครรภ์อยู่ในชุมชนทั่วไป
ที่อยู่ใกล้บ้าน
เพื่อพูดคุยและหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับตัวเองต่อไป

… อย่าเพิ่งคิดสั้นหรือคิดทำลายลูกในท้อง
ก่อนตัดสินใจให้รอบคอบ….เพราะ…
…ปัญหาทุกปัญหา ย่อมมีทางออก
หากเรามีความตั้งใจจริงในการแก้ไข….
…ขอให้คิดว่า ทำอย่างไรจึงจะทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต…
By: พี่ชาย

Leave a Reply