โสเภณีชาย

โสเภณีชาย
วิทยานิพนธ์เรื่องโสเภณีเด็กชาย บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง “โสเภณีเด็กชาย : ศึกษาเฉพาะกรณีเด็กชายเร่ร่อน ขายบริการทางเพศ” เป็นการศึกษาถึงเงื่อนไข และปัจจัยที่ทำให้ เด็กชายเร่ร่อนใช้ชีวิตขายบริการทางเพศเรียนรู้ถึงสภาพ และวิถี การดำเนินชีวิตของพวกเขา เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจถึงปรากฏการณ์ที่เป็นจริง แล้วทำการวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม รวมถึงการทำ ความเข้าใจสภาพปัญหาดังกล่าว อันจะนำไปสู่การแสวงหาแนว ทางในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของเด็กกลุ่มนี้

การศึกษามุ่งเน้นไปที่ตัวเด็กชายขายบริการทางเพศเป็นสำคัญโดย คัดเลือกเด็กที่เป็นเด็กชายเร่ร่อนจำนวน 10 คน ที่มีอายุต่ำกว่า18 ปี เคยใช้ชีวิตขายบริการทางเพศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในขณะทำ การศึกษาพวกเขายังใช้ชีวิตขายบริการ ทางเพศอยู่ เป็นเด็กที่ไม่ สังกัดตามบาร์สำหรับพวกรักร่วมเพศ โดยผู้ศึกษาเข้าไปคลุกคลีทำ ความคุ้นเคย และใช้ชีวิตอยู่ในโลก ของพวกเขาตามความเป็นจริง ใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยการสังเกตและการสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ พูดคุยในฐานะเพื่อน ครู หรือพี่ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือน
ผล การศึกษา ทำให้เห็นภาพความเป็นตัวตนของเด็กชายขายบริการ ทางเพศกลุ่มหนึ่ง ย่านสีลม-สวนลุมพินี เงื่อนไขที่ทำให้เด็กชายหัน มาขายบริการทางเพศ เพราะต้องการเอาตัวรอด ต้องการใช้เงิน และการปลดปล่อย/ ตอบสนองทางเพศ นอกจากเกิดจากตัวเด็กเองแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เด็กขายบริการทางเพศ ยังเกิดจากความต้องการของ ผู้ซื้อบริการที่เป็นรักร่วมเพศ สภาพแวดล้อมและกลไก การควบคุมทางสังคมที่บกพร่องและอ่อนแอ หากไม่สังเกตจะไม่สามารถ แยกภาพของเด็กขายบริการทางเพศได้อย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ปรากฏว่ามีเอกลักษณ์อะไรที่โดดเด่น แต่สามารถจะค้นหา เด็กเหล่านี้ได้โดยการเข้าไปยังบริเวณที่คาดว่าน่าจะมีการขายบริการทาง เพศอยู่ เด็กเหล่านี้มี อายุระหว่าง 12-18 ปี ส่วนใหญ่มีรูปร่างและหน้าตาดูดี มักแต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีคล้ำออกดำโดยมีแบบแผนพฤติกรรมการรวมกลุ่ม แต่ไม่มีความยึดเหนี่ยวมั่นคงนัก บางคนแยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยว ส่วนมากจะนิยมสูบบุหรี่ และเสพสิ่งเสพติด แต่พบว่ามีเด็กบางคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดประเภทใดเลย เด็กทุกคนมีพฤติกรรมพูดไม่จริง และพูดเกินจริง ในลักษณะที่เป็นภาพทางบวกของพวกเขา และยังพบพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
ภาษา ที่เด็กขายบริการส่วนใหญ่ใช้ในกลุ่มเพื่อนจะมีลักษณะที่หยาบ กระด้างและแข็งกร้าว แต่ก็ยังพบว่า มีการใช้ภาษาที่สุภาพอยู่บ้างขึ้น อยู่กับบุคคลที่จะสื่อสารด้วย บางคนเคยมีประสบการณ์ทางเพศก่อน ทำการขายบริการทางเพศมาบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่เพียงเคยเข้าไปยุ่ง เกี่ยวบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ เด็กส่วนใหญ่เข้าสู่อาชีพการขายบริการทางเพศโดยการเชิญชวนของเพื่อน ที่บอกว่าเป็นงานง่าย แต่ได้ค่าตอบแทนสูง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อเอง พวกเขามองว่าการขายบริการทางเพศไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้หญิงทำได้ ผู้ชายก็ทำได้ เช่นกัน ในขณะที่พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับเขา แต่ก็ไม่อยากให้คนรู้ว่าเขาประพฤติตนเช่นนี้
การดำเนินชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปได้ตามสภาพแวดล้อม และสถานการณ์ แม้ว่าจะมีรายได้ จากการขายบริการทางเพศมาก แต่ไม่มีการเก็บออมแต่อย่างใด รายจ่ายส่วนใหญ่หมดไปกับการ เที่ยวเตร่สนุกสนาน รวมทั้งยาเสพติดประเภทต่าง ๆ พวกเขาไม่มีที่พักอาศัยหลับนอน จะใช้โรงแรม ที่พักของลูกค้า สวนสาธารณะ รถเมล์ โรงภาพยนตร์ หรือซอกหลืบอาคารเป็นที่พักผ่อนหลับนอน ในตอนกลางวัน แม้จะออกมาเตร็ดเตร่เร่ร่อน แต่มีเด็กบางคนที่ใช้ เวลาในระหว่างที่เร่ร่อนและขายบริการทางเพศเรียนรู้ด้วยตนเองจากประสบการณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ
การ ซื้อขายบริการทางเพศเป็นการปฏิสังสรรค์ระหว่างเด็กกับ ลูกค้าที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของบุคคลทั้งสองฝ่าย เด็กแต่ละ คนจะมีเทคนิคในการเลือกเป็นของตัวเอง ส่วนมากจะเลือกลูกค้าชาวต่างชาติ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีเงินจ่าย ให้เขาได้มาก นิยมเลือกลูกค้าที่เป็นฝ่ายรองรับ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงบทบาทของเพศชายอยู่ค่อนข้างมาก และนิยมให้บริการเพียงชั่วคราว การติดต่อกับลูกค้ามีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบคือ การที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อเอง และการที่เด็กเป็นฝ่ายเข้าไปติดต่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพ แวดล้อมและสถานการณ์ ลักษณะการติดต่อจะเป็นแบบการสื่อสาร ทางสายตาและการสื่อสารด้วยคำพูด นอกจากนี้ยังมีการติดต่อโดยผ่านนายหน้าอีกด้วย แต่ไม่มีลักษณะเป็นแบบ “ขาใหญ่” หรือ “พี่ใหญ่” และมีญาติผู้ใหญ่ของเด็กบางคนเป็นผู้แนะนำให้เด็กไปหาลูกค้าด้วย ยังพบว่ามีเด็กบางคนบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อ ขอให้สามารถหาลูกค้าได้
ผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับจากการขายบริการทางเพศก็คือ การเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศมากเกินไป มีอัตราเสี่ยงต่อการติดโรค ทางเพศสัมพันธ์มากกว่าเด็กเร่ร่อนกลุ่มอื่น หรือชายขายบริการทาง เพศที่สังกัดตามบาร์ การที่ตกอยู่ในแวดวงสังคมที่อันตราย ทำให้ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย มีโอกาสที่จะประกอบ ความผิดทางกฎหมายได้มากด้วยเช่นกัน แต่อัตราที่จะเข้าสู่โลกเบี่ยง เบนทางเพศมีค่อนข้างต่ำ เนื่องจากอิทธิพลของกลุ่มเพื่อน ที่ยังคงบทบาทความเป็นเพศชายได้อยู่
ที่มา กระทู้จากเน็ต

บาร์-สวนสาธารณะ-เซาน่า แหล่งนัดพบชายรักชาย
ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานทั้ง ภาครัฐและเอกชนออกมารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องโรคเอดส์อย่างต่อเนื่องทว่ายังคง มุ่งเน้นไปยังกลุ่มหญิงขายบริการและผู้ใช้บริการ โดยละเลยกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (Men who Have Sex with Men หรือ MSM) องค์การแฟมิลี่ เฮลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (FHI) จึงเปิดตัวโครงการ “Sex Alert”เพื่อรณรงค์ผ่านสื่อโฆษณาให้กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายได้ ตระหนักและระมัดระวังการมีเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น

ดร.ฟริทส วัน กรีนสแวน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย โครงการเอชไอวี/เอดส์ ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข กล่าวว่า มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงและอัตราการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่ม MSM ในช่วงปี 2548 ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีใครสำรวจถึงอัตราเสี่ยงและพฤติกรรมของคน กลุ่มนี้ โดยกลุ่ม MSM แยกเป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย, กลุ่มชายที่ขายบริการ และกลุ่มชายที่แต่งตัวเป็นหญิง

ใน งานวิจัยนั้นมีอาสาสมัครเข้าร่วมประมาณ 2,000 คน อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 15-21 ปี อยู่ในระดับอุดมศึกษา และมีเพศสัมพันธ์กับชายในช่วง 6 เดือนก่อนการสำรวจ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และภูเก็ต รองผอ.ฝ่ายวิจัย โครงการเอชไอวี/เอดส์ ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข เผยผลสำรวจว่ากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอมีเพียง 53.6% โดยอัตราผู้ติดเชื้อเอดส์กลุ่ม MSM ในกรุงเทพฯ จากปี 2546 มี 17.3% เพิ่มเป็น 28.3% ในปี 2548 ขณะที่ปี 2548 จ.เชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อเอดส์ 15.3% และที่ภูเก็ต 5.5% ขณะที่กลุ่มชายที่ขายบริการที่กรุงเทพฯ ติดเชื้อเอดส์ 22.6% ที่เชียงใหม่ 11.4% และภูเก็ต 14.4%

“ย่านที่ กลุ่ม MSM ไปรวมกันบ่อย ๆได้แก่ จตุจักร, สีลม, สุขุมวิท, รามคำแหง และรัตนโกสินทร์ ทั้งนี้อัตราของการแพร่เชื้อเอดส์มักพบในกลุ่มที่ใช้บริการบาร์ สวนสาธารณะ และเซาน่า โดยมีอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นถึงปีละกว่า 5% จากอัตราผู้ติดเชื้อปี 2546-2548 แยกเป็นกลุ่มบาร์ เดิม 13% เป็น 23% กลุ่มสวนสาธารณะเดิม 16.9% เป็น 29.6% และเซาน่าเดิม 22% เป็น 31.9% ที่น่าตกใจก็คือกลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากปี 2546-2548 ถึง 50% คาดว่าสาเหตุที่กลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเนื่องมาจากความอยากลอง อยากรู้อยากเห็น และขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการ รณรงค์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาครัฐที่จะต้องหันมาให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้ให้มาก ขึ้น”
นายกิตตินันท์ ธรมธัช ประธานกรรมการบริหารเครือ เดอะบีช กรุ๊ป กล่าวว่า MSM แบ่งเป็นกลุ่มคนที่ขายบริการซึ่งความจริงอาจมีครอบครัวแล้ว แต่ต้องขายบริการเพราะเงิน กับกลุ่มที่อยาก รู้อยากลอง เพราะ MSM หมายถึงชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ส่วนกลุ่มชายรักชาย ถือเป็นกลุ่มย่อยของ MSM มีความต่างกันตรงวัตถุประสงค์ของผู้ที่มีเซ็กซ์ ชายรักชายมีความรักต่อกัน อยากอยู่ด้วยกัน โดยกลุ่ม MSM มักจะมีการนัดพบตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น บาร์ เซาน่า สวนสาธารณะ ยิม หรือนัดหมายหรือรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันสังคมมีการยอมรับมากขึ้นทำให้คนกลุ่มนี้ออกมาเปิดตัวเยอะขึ้น “แต่ยิ่งเปิดตัวมากความระวังในการแพร่กระจายของเชื้อเอดส์ก็ต้องเพิ่มตามไป ด้วย เพราะข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ มักไม่ถึงคนกลุ่มนี้ จึงจำเป็นต้องมีการรณรงค์ที่ถูกต้องและเข้าถึง

อย่างบางเรื่องคน เข้าใจผิดคิดว่าใส่ถุงยางหลายชั้นจะปลอดภัย ซึ่งความจริงอันตรายด้วยซ้ำเพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีมากขึ้น ใส่แบบปกติก็พอแต่อาศัยใช้สารหล่อลื่นช่วยด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีจน เกิดแผลนำไปสู่การติดเชื้อ แต่ต้องเลือกที่มีคุณภาพดี ไม่ใช่ใช้อะไรก็ได้ เพราะสารบางชนิดเมื่อเจอกับถุงยางอนามัยจะทำปฏิกิริยาทำให้ละลาย”
ที่มา อินเทอร์เน็ต

สวรรค์เบี่ยง ภาคพิสดาร ทัวร์สาวยุ่น มั่ว “ไอ้ตัว” ไทย
โลก เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน!!! เปลี่ยน “นรก” ให้กลายเป็น “สวรรค์” ประเภท “ทำเทียม” และทั้ง “นรก” กับ “สวรรค์” ต่างก็มีชายแดนติดกันแค่เอื้อมก็คว้าถึง…ผู้คนวันนี้ จึงแยก 2 สิ่งนี้…ออกจากกันไม่ได้!!!เรื่องราวที่จะพูดถึงในวันนี้ แม้จะมีการเพียรอ้างว่า…เป็นการพัฒนาของโลก สู่สิ่งที่เรียกขานกันเป็นสังคม “ฟรีเซ็กซ์” การคบชู้สู่ชายกลายเป็น “สิทธิ” มากกว่าจะถูก “ด่าทอ” เหมือนเช่นอดีต

แต่มันก็เป็นเรื่อง ราวที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง???เพราะมันบทพิสูจน์เดียว ที่สามารถยืนยันได้ว่า..การศึกษาไม่อาจช่วยให้คนบนโลกนี้มี “จริยธรรม” และจำนวนคนที่หันหลังให้คุณธรรมกับการยึดมั่นในจารีตประเพณี ลดจำนวนลงอย่างน่าใจหายเรื่องราวในวันนี้ ขอให้อ่านอย่าง เปิดใจกว้าง ยอมรับในความเปลี่ยนแปลงของ สังคมโลก อย่าได้คิดในแง่ว่า เป็น…เรื่องราว “เรตเอ็กซ์” ลามกจกเปรต!!!

ต้องมองในแง่ที่ว่า…ยังมี “ความจริง” มากมาย ที่ยังไม่มีการ “นำเสนอ” บอกกล่าวต่อสังคมโลกและสังคมไทยเพราะคำว่า “จริยธรรม” และ “ความอาย” เป็นตัวขวางกั้น…วันนี้…เราจะพาท่านไปพบกับ ผู้ชายขายตัว!!!เป็น โสเภณีชาย ทั้งกลุ่ม ที่…MADE IN THAILAND และ MADE BY THAILAND (อิมพอร์ตเข้ามา)และ ยังเป็นสินค้าที่…กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ควบคุมราคาการขาย!!! ผู้ชายขายตัว!!!ความอัปลักษณ์แห่งอารยธรรมและค่านิยมผิดๆ เช่นนี้ เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานนับร้อยๆ ปี จากตะวันตกแพร่กระจายถึงตะวันออก

เมืองไทย…กลายเป็น “เมืองหลวง” ของการให้บริการ “ผู้ชายขายตัว” ในความคิดของชาวต่างชาติส่วนใหญ่ ตลอดช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมาเรื่อง “โสเภณีผู้หญิง” ไม่ต้องพูดถึง เมืองไทย “ขึ้นชั้น” เวิลด์คลาส มานมนานแล้วแต่กับ “โสเภณีชาย” หรือที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า “โฮสเตส” (ผู้มีหน้าที่คอยบริการลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากสุดเท่าที่จะทำได้) นี่สิเพิ่งจะโด่งดังข้ามประเทศ ก็เพิ่งไม่กี่ปีมานี้เอง!!!

นอก จากกรุงเทพฯ แล้ว ว่ากันว่า…จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ ตั้งแต่…เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น พัทยา จนถึงเกาะภูเก็ต ล้วนแต่มีการเปิดสถานบริการ “เซลส์” ชื่อที่ถูก “อัพเกรด” สำหรับ ธุรกิจ “โสเภณีชาย” กันอย่างดาษดื่นโจษจันกันถึง “ดินแดนปลาดิบ” กระทั่ง สาวนักธุรกิจและพวกไฮโซฯ สาว ตั้งแต่…รุ่นกระเตาะ รุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ จนถึงรุ่นดึก “เหมาทัวร์” ขึ้นเครื่องบินมาเสพสุขกับ “โสเภณีชาย” ในเมืองไทยที่เรา “บางกอกทูเดย์” ไม่ขอย้ำชัดๆ ว่า…เป็น “โสเภณีชาย” ชาวไทย ก็ด้วยเหตุที่สาวญี่ปุ่นหลายคน ต้องการอะไรที่มากกว่า…แค่การ “เอาอกเอาใจ” ของผู้ชายไทย

รูปร่าง ขนาด ความบึกบึน และ น้ำอดน้ำทน…กลายเป็น “ปัจจัยใหม่” ของการตัดสินใจสำหรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มนี้นิโกร หรือชายผิวดำ จาก…ไนจีเรีย, จาเมกา ฯลฯ คือ “คำตอบสุดท้าย” ของพวกเธอค่านิยม “ของดำ” วันนี้…ยังได้แพร่กระจายเข้าไปยัง กลุ่มนักท่องเที่ยวสาวไทย โดยเฉพาะ พวกที่เคยผ่านการศึกษาเล่าเรียน ทำงาน หรือเคยใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนตะวันตกมาก่อน

เรียกว่า…ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมตะวันตก คนกลุ่มนี้ชื่นชอบมากๆ กับ “คุณสมบัติเฉพาะ” ของพวก นิโกรจะ ว่าไปแล้ว การจัดแบ่งกลุ่มลูกค้าของ “โสเภณีชาย” นั้น แยกได้เป็น 3 รูปแบบ คือ…กลุ่มที่ให้บริการเฉพาะผู้ชาย (เกย์) ด้วยกันกลุ่มที่ให้บริการได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงและ กลุ่มที่ให้บริการเฉพาะผู้หญิงเพียงอย่างเดียวประเด็นที่เรา “บางกอกทูเดย์” สนใจ และต้องการเจาะลึกถึงการให้บริการ “โสเภณีชาย” นั้น ขอ “โฟกัส” เฉพาะกลุ่มหลังสุด

กลุ่ม “โสเภณีชาย” ที่ให้บริการเฉพาะลูกค้านักท่องเที่ยวผู้หญิงจากข้อมูลที่มี พบว่า…ลูกค้าที่แห่แหนมาใช้บริการ “โสเภณีชาย” แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มนักเที่ยวผู้หญิงไทยมีตั้งแต่…นักธุรกิจ, นักการเมือง, ข้าราชการ, ดารา นักแสดง, เมียเก็บ และ เมียน้อย แม้กระทั่ง “โสเภณีหญิง” ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ไม่ได้รับความอิ่มเอมทางเพศจากสามีหรือ “ผู้มีอุปราคะคุณ”

ต้อง การอะไรที่สามารถจะสนองตอบสนองต่อความต้องการ ชนิดถึง “ขีดสุด” และ “ไร้ขีดจำกัด” โดยไม่มีพันธะใดๆ ผูกพันไม่เพียงแค่นั้น พบด้วยว่า…ใน กลุ่ม นักเที่ยวผู้หญิงไทย ปรากฏว่า…มี กลุ่มนิสิต นักศึกษาสาว, เซเล็บ (สาวไฮโซรุ่นใหม่) และ ลูกสาวเศรษฐี…คนมีเงินหลายคนที่มีรูปร่างและหน้าตาดีมากๆ !!!รวมถึง กลุ่มแม่บ้าน ประเภท “ผัวเผลอแล้วเจอกัน” ที่แอบย่องมาใช้บริการ “โสเภณีชาย” กันเป็นว่าเล่น

บางรายมี “ชายชุดดำ” ยกขบวนมาคอยทำหน้าที่ “บอดี้การ์ด” อยู่ห่างๆ สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับ “โสเภณีชาย” ที่โดน “ออฟ” ออกนอกพื้นที่…ได้ไม่น้อยทีเดียวอีกกลุ่มก็คือ นักเที่ยวสาวต่างชาติก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ยามนี้…นักธุรกิจ ระดับ “ซีอีโอ” จากดินแดนปลาดิบ “ขึ้นชื่อ” ว่าเป็นผู้ซื้อบริการหนาแน่นและ “ตั๋ง” (มีเงินมาก) ที่สุดแต่ก็อย่า เพิ่งชะล่าใจ เพราะ สาวๆ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง แม้กระทั่ง จากจีนแผ่นดินใหญ่ ก็เริ่มมี “นายหน้า” จัดกรุ๊ปทัวร์มาซื้อบริการ “โสเภณีชาย” ในเมืองไทยกันบ้างแล้ว

ใครที่ชอบขนาด “พอดีคำ” และการเอาอกเอาใจที่เป็นเลิศ ก็ต้องเลือก “โสเภณีชาย-ไทย”แต่ถ้าประสงค์จะเลือก “ไซซ์” ตั้งแต่ระดับ มิดเดิ้ลเวท จนถึง เฮฟวี่เวท และ ซูเปอร์เฮฟวี่เวท ล่ะก็มี “โสเภณีชาย-ต่างชาติ” ทั้งจาก…แอฟริกา อเมริกากลาง รวมถึง ฝรั่งชาติตะวันตก ไว้คอยให้บริการรวมถึง “โสเภณีชาย-ไทย” ที่ไป “อัพไซซ์” จนมีขนาดมหึมา ไม่แพ้ฝรั่งและนิโกร!!!สำหรับ “โสเภณีชาย-ไทย” พบว่า…มีคนระดับ ดารา นายแบบ และ มิสเตอร์ ที่ผ่านเวทีประกวดประขัน มาขายบริการกับเขาด้วย

ส่วน มากจะเป็นพวก “ไร้งานบันเทิง” หรือไม่มีงานส่งป้อนมากนัก มีทั้ง…ทำงาน “ประจำ” และพวก “ไซด์ไลน์”เรียกว่า…มีภาพถ่ายของ “โสเภณีชาย-ไทย” และบรรดา “สตาร์-ตกอับ” รวมกันเป็น…อัลบั้มๆมีการบอกถึง…อายุ ผิวสี สัดส่วน รูปร่าง ส่วนสูง น้ำหนัก รสนิยม การศึกษา ฯลฯ และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ…ขนาดของ “น้องชาย”ถ้าเป็น “โสเภณีชาย-ไทย” ก็มักจะมีการเปิด นวดแผนไทย หรือ ธุรกิจสปา บังหน้า

แต่เบื้องหลัง…มีการขายเซ็กซ์กันอย่างโจ๋งครึ่ม!!! “เซลส์” ย่านวิภาวดี รัชดาฯ สุขุมวิท นานา สีลม สุรวงศ์ ฯลฯ ก็มักจะเป็นพวก “เกรดสูงๆ”แต่ถ้าเป็น..ย่านสวนลุมพินี ประดิพัทธ์ สะพานควาย รามคำแหง ล่ะก็“เกรดต่ำ” ถึงต่ำมากๆประเภท “ไซด์ไลน์” ฉายเดี่ยว…คงไม่พ้นย่านวังสราญรมย์ ท่าช้าง ริมคลองหลอด ฯลฯโดย เฉพาะกลุ่มหลังนี้ หากนักท่องเที่ยว “ถูกใจ” ก็จะ “ออฟ” และพากันไปเสพสุขในโรงแรม หรือ “เซฟเฮาส์” ที่คิดว่า…ปลอดภัยจากสายตาทุกคู่แล้ว

สนนราคาของ “โสเภณี ชาย-ไทย” ถ้าเป็น “เซลส์” เกรดดีๆ จะคิดค่าบริการต่อครั้ง 3,500–5,000 บาทขึ้นไปแต่ถ้าพวก “เกรดต่ำ” หรือ “ไซด์ไลน์” สนนราคาก็จะถูกลงมา เหลือเพียงครั้งละ 500 บาทขึ้นไป ไม่รวม “ทิป” และค่าโรงแรม ที่ผู้ซื้อบริการจะต้องเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายเองหากเป็น “โสเภณีชาย-ไทย” ซึ่งส่วนมากจะเป็นพวก “ไซด์ไลน์” และหากินอยู่แถวๆ ย่านสุขุมวิทและนานาราคาต่อครั้งจะแพงมากๆ ตั้งแต่ระดับ 8,000 บาทขึ้นไป จนถึง “หลักหมื่น” หรืออาจจะกว่านั้น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการเจรจาว่ากันว่า…สินค้า “นิโกร” ยามนี้ เป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ สั่ง “อิมพอร์ต” เข้ามาเท่าไหร่…ก็ไม่พอ!!!เท่าที่ “บางกอกทูเดย์” รู้มานั้น มีชายชาวแอฟริกันหลายคน ที่เข้ามาขายบริการทางเพศในเมืองไทย บางคนเป็น…นักฟุตบอล หรือเคย “คัดตัว” เป็นนักฟุตบอลของสโมสรชื่อดังในลีกสูงๆ ของเมืองไทย มาแล้วแต่ต้องการหารายได้พิเศษ ที่ได้มากกว่า “ค่าจ้าง” จากการเตะฟุตบอลจึงหันเหเข้าสู่อาชีพนี้!!!ย่านที่ “นิโกร” กลุ่มนี้รวมกลุ่มพำนักอาศัย มีตั้งแต่…สุขุมวิท นานา ทองหล่อ เพชรบุรีตัดใหม่ จากนั้น ก็ขยับขยายออกไปใน ย่านอ่อนนุช และ ศรีนครินทร์ ฯลฯ

คนพวกนี้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีมากๆ เพราะรายได้ดี แถมไม่มี “ตำรวจ” ในพื้นที่ และ “ทีมเฉพาะกิจ” มาคอยกวนใจ เพราะมี “น้ำเลี้ยงดี” จ่ายกันทุกระดับ…ประทับใจผู้รับ ระดับ “คนโต”ปัญหานี้…ยิ่งใหญ่และกำลังจะส่งผลกระทบไปยังหลายๆ ครอบครัว กระนั้น ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนและรัฐบาลชุดใด ประกาศความรับผิดชอบอย่างจริงๆ จังๆ เสียที!!!

ทั้งๆ ที่ข้อมูลหลายๆ อย่าง ก็มีการเปิดเผยไปก่อนหน้านี้แล้ว???ก็เป็นหน้าที่ของ “บางกอกทูเดย์” ที่จะไปประมวลและสรุปปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา รวมถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า…ได้เตรียมการแก้ไขอะไร ไว้อย่างไรกันบ้างแล้วเรื่องนี้…คงต้องหยิบมาพูดถึงกันอีกสักวัน!!!
ที่มา บางกอกทูเดย์

One thought on “โสเภณีชาย”

Leave a Reply