เสี่ยงเอดส์เพราะเที่ยว

เสี่ยงเอดส์เพราะเที่ยว
ผมเสี่ยงเอดส์ เพราะเที่ยวหญิงขายบริการ
สวัสดีครับทุกท่าน และแล้ววันที่ผมได้ไปตรวจเลือดก็มาถึงจนได้
เท้าความเดิมก็คือผมไปเที่ยว อาบ อบ นวด มาครับ แต่ซวยจัดครับ ถุงยางขาด เลยรีบไปกินยาต้านหลังเสี่ยง 13 ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะมีอะไรรับประกันได้ 100% ครับ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ผมก็ไม่สบายใจตลอด 98 วันที่เสี่ยงมา เพราะบางที่ก็บอกยาต้านช่วยได้ บางที่ก็บอกว่าช่วยไม่ได้ มันอาจช่วยได้ระดับหนึ่งปรึกษาแล้วหลายที่ ยิ่งทำให้เครียดมาก คิดถึงอนาคตที่กำลังจะวาดหวังไว้มันช่างท้อแท้ อ่อนใจ เหนื่อยใจ ไม่รู้ว่า วันข้างหน้าเราจะเป็นยังไงถ้าเราติดเอดส์ขึ้นมา ไม่กล้าจะบอกใครเลย ไม่รู้จะอยู่ต่อไปยังไง พ่อแม่คงเสียใจมาก เราก็คงรู้สึกว่าบาปอย่างมหันต์

ถึงแม้ว่าเราจะป้องกันแล้ว ทำดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่คนเราถ้าถึงคราวซวยมันก็ซวย อย่างผมนี่ไงครับ ป้องกันแล้วแท้ๆ แต่ดันถุงมาขาดจนได้ ถึงแม้จะมีใครบอกว่ามันเสี่ยงน้อย แต่จะน้อยจะมากยังไง ถ้าเรารู้ว่ามันยังมีโอกาสเป็นไปได้อยู่ ยังไงเราก็ไม่สบายใจอยู่ดีนั่นแหละครับ ถึงแม้จะบอกว่า มีเซ็กส์กับคนที่เป็นเอดส์ 1 ครั้งมีโอกาสติดเชื้อเพียง 0.0000000000000000000000001% นั้น ถ้าเรารู้ว่ามันยังมีโอกาสอยู่ มันย่อมทำให้เราคิดต่อไปต่างๆ นาๆ แหละครับว่า……ถ้าเราเป็นคนที่โชคร้ายในนั้นล่ะ เราจะทำยังไง เพราะตราบใดที่บอกว่ามีโอกาสไม่ว่าจะน้อยนิดยังไง มันก็น่าจะย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรือครับ
พูดไปคิดไปก็เหนื่อยใจครับ คิดถึงช่วง 98 วันที่ผ่านมามันช่างทรมานใจจริงๆ ไม่กล้าคิดถึงอนาคตเลย ได้แต่คิดแต่ว่าถ้าตูติดขึ้นมาตูจะทำยังไงวะ เครียดมากครับช่วง นั้น ไม่ว่าจะพยายามทำอะไรทดแทน ยังไงมันก็อดคิดไม่ได้เลย มันวนมันเวียนอยู่ในหัวตลอดมา บางทีก็เผื่อใจไว้แล้วกับผลตรวจว่าถ้าเราติดขึ้นมา เราก็ต้องทำใจยอมรับมัน เพราะยังอยู่ได้อีกหลายปี ไม่ได้ตายทันที อาจจะไปบวชเพื่อไปถึงนิพพานเลย ก็คิดไปต่างๆนาๆแหละครับ คนมันเครียดนี่ครับจะให้ทำไง คิดไปคิดมาก็ปลงครับ ปลงว่ายังไงเราก็ต้องไปตรวจให้ได้ เพราะถ้าเราไม่ติดเราก็จะได้สบายใจเสียที ก็ปลอบใจตัวเองมากมายแหละครับช่วงนั้น เพราะยังไงเราก็ต้องไปตรวจอยู่ดี ช้าเร็วก็รู้ผลอยู่ดีครับ

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึงจนได้ วันที่ครบ 98 วันหลังเสี่ยงมา รู้สึกใจสั่น ใจหาย กังวลมาก ในทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็พยายามปรับใจให้นิ่งให้ได้ เพราะยังไงเราก็ตัดสินใจแล้ว เอาวะตายเป็นตาย อย่ากลัวเลย คนเรายังไงมันก็ต้องตายสักวัน ไม่ช้าก็ เร็ว
ใจเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ คิดมาก สับสนวุ่นวายในหัวไปหมด มือเท้าเย็น หน้าชา หัวมืด เข่าอ่อน เพราะเคยมาตรวจครั้งนึงแล้วที่นี่ ยังจำความรู้สึกนั้นได้ ตอนนี้เป็นครั้งที่ 2 และครั้งนี้ก็เสี่ยงมากกว่าครั้งแรกอีก ซึ่งครั้งแรกนั้นใส่ถุงยางแต่ไม่แน่ใจว่าตรงโคนมีแผลหรือเปล่า เลยไปตรวจ ปรากฎว่าไม่ติด แต่คราวนี้ใส่ถุงยางแล้วครับ แต่ถุงมันขาด หนักกว่าครั้งแรกมาก เลยต้องคิดหนักกว่าครั้งแรกเป็นหลายเท่า

ผมเดินเข้าไปที่ตรวจ ไปพบเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าของผมที่ไม่ค่อยดีนัก เขาเลยถามเรื่องราวพอควร บอกเขาว่าตอนนี้ผ่านมา 98 วันพอดีครับ เขาก็บอกว่าโอ้โหจำได้ขนาดนั้นเลยรึ เขายิ้มนิดๆ ผมก็พอเข้าใจว่าเขาคงจะอยากให้ผมผ่อนคลาย เพราะเห็นสีหน้าผมไม่ค่อยดี
ผมก็เล่าให้เขาฟังในเรื่องของผมทั้งหมด เขาฟังแล้วก็ส่ายหน้า เฮ้อ!!! คราวที่แล้วก็มาตรวจไปทีนึงแล้วคราวนี้จะเป็นยังไงก็ไม่แน่นะครับ เพราะยาต้านถึงแม้จะกินเข้าไปแต่มันก็ไม่แน่เสมอนะครับ ต้องลองตรวจดู ผลเลือดเท่านั้นที่จะบอกได้ เจ้าหน้าที่พูดกับผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง เคร่งเครียด

ผมเริ่มรู้สึกว่าอ้าว ตะกี้ยังจะทำให้ตูหายเครียดอยู่เลย คราวนี้จะเครียดหนักกว่าเดิมอีก ทำไงดีวะ เอาวะ ยังไงก็มาถึงที่นี่แล้ว ยังไงก็ต้องตรวจล่ะวะ สู้ตาย
ผมเดินเข้าไปเจาะเลือดกับคนเจาะเลือดเขาก็ยังถามผมอยู่เลยว่า กินข้าวรึยังค่ะ ผมก็ตอบว่า ยังครับ ขอใหรอผลเลือดออกก่อน เขาก็ยิ้มแล้วบอกต่อว่า รอผลประมาณ 20 นาทีนะคะ

ผมก็ภาวนาให้มันรู้ผลใน 20 นาที เพราะถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีการตรวจซ้ำอีกเพื่อให้แน่ใจว่า ผลเลือดเป็นบวกแน่หรือเปล่า
เวลาผ่านไป 20 นาทีเจ้าหน้าที่ยังไม่มาเรียก ผมเริ่มใจหาย แขนขาไม่มีแรง ปากแห้งมาก คิดว่าเราจะรอดหรือเปล่าวะ หรือเจ้าหน้าที่อาจจะเอาเลือดเราไปตรวจช้าก็ได้ผลเลยออกมาช้า ยิ่งนานไปใจยิ่งไม่ดี

สักพักน้องพนักงานบอก พี่คะเชิญด้านในค่ะ แต่ตอนที่มาบอกนี่มันปาเข้าไป 30 นาทีแล้วสิครับ ผมก็พยายามจะลุกจากเก้าอี้ แต่ทำไมก็ไม่รู้ เพราะมันรู้สึกไม่ดีเลย เหมือนมีลางไม่ดีอะไรบางอย่าง ผมลุกจากเก้าอี้ได้สัก 2-3 ก้าว พื้นที่นั่นลื่นบวกกับขาผมที่ไม่มีแรง ทำให้ผมลื่นตกลงพื้นดังสนั่น แต่ผมก็พยายามลุกขึ้นให้ได้ก่อนจะเข้าไปฟังผล แล้วผมก็ก้าวต่อไปในห้องฟังผล
ผมเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือเจ้าหน้าที่คนนั้นทำหน้าจริงจัง แล้วเอามือปิดที่ผลเลือดไว้ แล้วก็เอามือลูบหน้า แล้วกุมขมับ ผมจ้องหน้าเขาสักพักแล้วผมก็ถามเขาว่า พี่ครับ ผลเลือดผมล่ะครับ ขอดูตอนนี้เลยได้ไหมครับ พี่เขาก็ถามผมว่า พร้อมแล้วใช่ไหมครับ ถ้าผลเลือดมันออกมาแบบไหน แล้วเราค่อยคุยกันต่อไปในขั้นตอนต่อไปละกัน น้องจะมาตรวจซ้ำอีกหรือไม่ก็ได้ แต่พี่แนะนำว่าควรจะมาตรวจเพื่อความชัวร์นะ

ผมทำใจแล้วครับ ไหนจะตรวจนานกว่าปกติไหนพี่เขาจะบอกผลช้าอีก ผมคงติดแน่ล่ะคราวนี้คงถึงคราววซวยของผมแน่นอน
และในทันทีทันใดนั้นพี่ เขาเปิดผลเลือดให้ผมดู ผมเห็นผลเลือดผม ผมแทบจะตกเก้าอี้อีกครั้ง กำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกที่คับแน่นในอกไปหมด ตอนนั้นมันพูดอะไรไม่ถูกจริงๆ ไม่มีอะไรอยู่ในความคิดเลย ได้แต่คิดว่า มันจบลงแล้ว เวลาที่เราเหนื่อยมาตลอด 98 วัน มันได้จบลงแล้ว เพราะความจริงได้เปิดเผยตรงนี้แล้ว เราควรจะยอมรับมันสักที จบกันที่วันเวลาที่ผ่านมา เราเหนื่อยมานานแล้ว ทำไมนะ เราต้องมาทำตัวเองให้ต้องมาคิดมาก มาเหนื่อยใจตลอดมา กับความสนุกแค่ชั่วคราว แต่เราต้องมาทนทุกข์ขนาดนี้ อยากย้อนเวลา ไม่อยากให้มีเหตการณ์แบบนี้เกิดขึ้น อยากให้มันเป็นความฝัน

แต่ในวันนี้ความจริงเกิดขึ้นแล้ว เห็นกับตาตัวเองแล้ว มองผลเลือดแล้ว มองซ้ำอีกหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าตาเราไม่ฝาดแน่นอนนะกับการที่เราเห็นผลเลืลอดเวลานี้ ตบหน้าตัวเองหลายที ขยี้ตาอีกหลายหน แล้วเอาผลเลือดมาดูให้มันเห็นใกล้ๆ และให้ชัดมากที่สุด เพื่อที่เราจะได้แน่ใจในผลเลือดนี้
ผลหลับตาลงและเริ่มมีน้ำตาคลอออกมา ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ในตอนนี้ ในหัวว่างเปล่า

ผมถอนหายใจแล้วบอกกับตัวเองว่า คราวหน้าเราอาจไม่โชคดีแบบนี้อีกแล้วนะ
ใช่แล้วครับ ผลเลือดผมเป็น NEGATIVE ครับ

ผมดีใจแบบไม่เคยดีใจมาก่อน เจ้าหน้าที่ก็บอกผมว่า คราวนี้คุณอาจโชคดี แต่คราวหน้าคุณอาจไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้นะครับ ระวังตัวด้วยละกันนะครับ
เจ้าหน้าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คงรู้ว่าทำให้ผมใจหายสักเล็กน้อยได้แล้ว คราวหน้ามันจะได้เข็ดอีก แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์จะโกรธใครแล้วตอนนั้น ผมก็เลยอกเขาว่าครางหน้าผมจะไม่เสี่ยงอีกแล้วครับ เขาก็ตอบกลับว่า ขอเถอะน่า เห็นมาหลายคนแล้ว ตอนแรกก็บอกแบบนี้แหละ แต่พอผ่านไปสัก 1 ปี เดี๋ยวก็มาตรวจอีก เพราะมันย่ามใจซะแล้ว อดใจกันไม่ได้ พี่ก็ไม่รู้จะห้ามยังไงนะ เรื่องกิจกรรมทางเพศนี่ มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ เหอะๆ

(เคล็ด)ลับ สุดยอด!!! เรื่อง XXX
ที่มา สสส.

Leave a Reply