นักศึกษาขายตัวมากขึ้น

ตีแผ่นักศึกษาขายตัวมากขึ้น
เฮ้อ! – นักเรียนและนักศึกษาขายบริการกันมากขึ้น วัยรุ่นสาวในสถานศึกษาบางแห่งเก็บคลิปการมีเพศสัมพันธ์ของตนไว้เป็นแต้มสะสม เพื่ออวดเพื่อน รวมทั้งโชว์ลูกค้าที่จะมาซื้อบริการจากตน โอ๊ย!

ตีแผ่นักศึกษาขายตัวมากขึ้น
ตีแผ่นักศึกษาขายตัวมากขึ้น ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

ถ้าเด็กรุ่นใหม่การศึกษาสูงระดับปริญญาพากันเป็นเสียอย่างนี้ อีกยี่สิบปีผู้หญิงมิพากันทำอาชีพขายตัวกันหมดทั้งโลกหรอกหรือ? วิธีคิดเป็นเครื่องชี้ว่าใครกำลังบ่ายหน้าไปทางไหน ผู้หญิงยุคใหม่หลงประเด็นชีวิต เห็นว่าเงินคือความสุข และเซ็กซ์คือความกล้า ผลของการหลงประเด็นชีวิตในระยะยาว คือความรู้สึกแห้งแล้ง ว้าเหว่ คิดฟุ้งซ่านวกวน และมีครอบครัวเพื่อรอความล่มสลาย

เพราะเพศหญิงจะถูกมองเป็นวัตถุบำบัดความใคร่ ไม่ใช่หุ้นส่วนที่มาร่วมมือกันสร้างและรักษาครอบครัวอีกต่อไปการหลงประเด็น ชีวิตมาจากไหน? มาจากภาพลวงตา มาจากเสียงลวงหู โลกเรากำลังถูกห่อหุ้มไว้ด้วยภาพและเสียงจากซาตาน ที่ส่งมนต์มาล่อลวงและกระตุ้นอารมณ์เพศอย่างหนักหน่วงไปทุกหนทุกแห่ง ผ่านสิ่งที่เรียกกันว่า ‘สื่อบันเทิง’

เด็กเมืองรุ่นใหม่ ไม่ว่าประเทศไหนวัฒนธรรมแบบใด ล้วนโตขึ้นมาพร้อมกับการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต ถ้าใครไม่เกาะติดอินเตอร์เน็ต ก็แทบจะเหมือนไม่สามารถตามใครทัน ฉะนั้นมีอะไรอยู่มากในอินเตอร์เน็ต อะไรอย่างนั้นก็จะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของประชากรโลกในวันนี้และวันพรุ่ง

ถ้าคุณเป็นผู้หญิง รู้ตัวว่ารูปร่างหน้าตาดี วันหนึ่งเกิดโจทย์ขึ้นในใจ ว่าทำอย่างไรจะได้เงินเยอะๆอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อินเตอร์เน็ตมีคำตอบให้ เพียงเข้าไปที่แหล่งมั่วสุมของโคแก่กลัดมัน ก็อาจพบประกาศเรียกร้องหญ้าอ่อนแบบคุณให้ส่งรูปมา แล้วราคาล่อใจก็จะถูกเสนออย่างล้นหลาม จากนั้นคุณจะถูกดูดเข้าสู่หลุมดำแห่งธุรกิจค้ากามโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าเป็นวันไหน เวลาใด

ผู้หญิงเริ่มเป็นสาวและมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ในวัยไหน? ก็ในวัยที่ใส่ชุดนักศึกษานั่นเอง จะแปลกอะไรหากข่าวน่ากลุ้มชิ้นนี้ หมดสภาพความเป็นข่าว เพราะทุกอย่างกลายเป็นเรื่องปกติ และไม่มีใครกลัดกลุ้มกันอีกต่อไปในยุคอินเตอร์เน็ต

ที่ผ่านมามีแต่ภาพของความสุขอันเกิดจากเซ็กซ์กับเงินเผยแพร่มากเกินไป นั่นเพราะโลกเราเต็มไปด้วยแหล่งทุนสนับสนุน แต่ขาดแหล่งทุนในการแฉความทุกข์ทรมานและความตกต่ำอันเกิดจากเซ็กซ์กับเงิน จึงแทบไม่มีใครรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าการมีจิตใจด้านชา ไม่อาจมีความรักได้ตลอดชีวิตนั่นแหละ คือบทลงโทษที่โหดเหี้ยมสาหัสที่สุดของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้หญิงยุคอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก ไม่มีกรรมเก่าบีบคั้นให้ต้องขายตัว แต่ก็เลือกที่จะเริ่มเส้นทางโสเภณี เพียงเพราะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบหมู่พวกที่น่าท้าทาย เห็นพวกเพื่อนๆต่างก็ทำกัน ทั้งได้เงินเร็ว ทั้งได้ความสนุก ทั้งได้เอาแต้มมาแข่งกับเพื่อน ใครมันจะเห็นเป็นเรื่องเสียหาย?

หารู้ไม่ว่านั่นคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ตามหลักกรรมวิบากนั้น ถ้าไม่จำเป็นต้องขายตัวแล้วยังขืนทำ เพียงเพื่อหาเงินมาสนองความอยากซื้อของหรูฟุ่มเฟือย จะนับเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางกรรมสายใหม่ แม้ทางเส้นเดิมจะเสวยภพที่มีเกียรติอยู่ดีๆ ก็ได้ชื่อว่าเปลี่ยนมาสู่ภพของความตกต่ำ ไร้เกียรติ และเน่าเหม็นเสียแล้ว ผลไม่ได้เกิดขึ้นแค่รู้สึกผิดหรือเฉยๆ แต่เป็นเรื่องของภพหรือ ‘กรงขัง’ ที่คุณจะต้องเข้าไปติดอยู่ทีเดียว!

ต้องหมายเหตุไว้หน่อย ความจริงแม้เลือกขายตัว ก็ไม่ใช่ว่าผลจะเหมือนกันหมดนะครับ ทุกคนต้องเอาตัวรอด และคนเรามีวิธีเอาตัวรอดต่างกัน บางคนแค่มาเดินเป็นพนักงานร้านไอศกรีมหรือขายตั๋วหนัง รับเงินวันละไม่กี่ร้อย ก็พอจะส่งตัวเองเรียนได้

แต่บางคนใช่จะมีภาระแค่ส่งตัวเองเรียนอย่างเดียว แต่ยังต้องเลี้ยงพ่อแม่อีก เมื่อไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีกว่าเลยทำๆแบบที่เห็นๆ ซึ่งก็คือไม่ได้ทำเอามัน ไม่ได้เอาเงินไปซื้อของ แต่เอาเงินมาแสดงความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ พวกที่ใช้กายแลกทรัพย์เพื่อเลี้ยงพ่อแม่ และตั้งใจเลิกเด็ดขาดเมื่อเก็บเงินได้นั้น นับว่ายังเป็นผู้มีเกียรติอยู่ แม้ต่อไปยังติดกรรมให้ต้องเสวยภพของหญิงผู้ขายกายแลกทรัพย์ ก็จะเกิดในยุคสมัยหรือท้องถิ่นที่ยกให้คนสวยเป็น ‘หญิงงามเมือง’ ซึ่งมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเท่ากับหรือเหนือกว่าหญิงชาวบ้านทั่วไป ซึ่งเกียรตินั้นก็มาจากการยอมรับ การให้สิทธิ์ทำอาชีพของสังคมนั่นเอง

สรุปคือให้กลุ้มกับข่าวแค่ไหน ให้เสียดายชีวิตดีๆของเด็กรุ่นใหม่เพียงใด ก็ไม่มีใครทำให้โสเภณีในคราบนักศึกษาหมดไปจากโลกได้ แต่เราบอกกับพวกเขาได้ว่าให้ดูใจตัวเองดีๆ เรื่องนี้ไม่มีผิดหรือถูกชัดเจน มีแต่ว่าจิตใจตกต่ำหรือไม่ตกต่ำเป็นสำคัญ ถ้ายังรักษาใจไว้ให้พร้อมยกระดับไปจากหล่มแห่งการขายกายแลกเงินได้ ก็นับว่าดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว
ที่มา jozho.net

วิพากษ์นักศึกษาขายตัว ไม่ได้มาจากความยากจน
กรณีนักศึกษาขายบริการทางเพศ หาเงินเที่ยว แต่งตัว นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกล นคร (มรสน.) วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างน่าสนใจ

นาย วัลลภ รูปเหมาะ อายุ 19 ปี ชั้นปีที่ 1 โปรแกรมวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีมรสน. กล่าวว่า ปัญหา เด็ก นักเรียนนักศึกษาขายบริการทางเพศนั้นยอมรับว่าทำให้ได้รับผลกระทบพอสม ควร เพราะจะทำให้มองว่าเด็กผู้หญิงผู้ชายเหล่านั้นขายตัว ยอมรับว่า การขายบริการทางเพศของนักเรียนนักศึกษานั้นมีจริง เพราะเคยเห็นหลายครั้งนั้นไม่ได้หมายถึงสถาบันแห่งนี้ แต่มีแทบทุกสถาบัน

” เด็กเหล่านั้นไม่ได้เป็นลูกคนจนหรือทางบ้านยากจน แต่เมื่อเด็กมาพักอยู่หอหรือบ้านพักขาดการเอาใจใส่ดูแลจากผู้ปกครอง ประกอบกับการให้อิสระมากเกินไป เมื่อเด็กไม่มีเงินหรือเงินขาดมือจึงเสนอขายบริการทางเพศกับผู้ใช้บริการ โดยค่าตัวแล้วแต่ตกลงกัน ส่วนใหญ่สถานที่นัดพบหรือเจอตัวจะเป็นตามหน้าห้างสรรพสินค้า คาราโอเกะ ร้านอาหาร แล้วแต่จะบอกกัน ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีรถยนต์หรือรถเก๋งมาคอยจอดรับ จึงเป็นเรื่องที่อดสูหัวใจมาก เด็กเหล่านั้นจากการติดตามพบว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่ทำไปเพราะความสนุกและมีเงินใช้เท่านั้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการลง โทษกับผู้ใช้บริการนั้นอย่างเด็ดขาดและโทษสูง เพราะถือว่าเป็นผู้ทำลายวัฒน ธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศด้วย” นายวัลลภกล่าว

น.ส.จริยา ต้นสา อายุ 19 ปี ชั้นปีที่ 1 โปรแกรมวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การขายบริการทางเพศของนักเรียนหญิงหรือนักศึกษานั้นมีจริง เพราะเคยเห็นการแสดงพฤติกรรมเหล่านั้น ซึ่งบางทีก็ดูออกด้วยสายตา ซึ่งมองว่าเด็กเหล่านั้นบางคนอาจมีปัญหา มีความจำเป็น แต่คิดว่าอย่างไรก็ไม่ควรทำ ถึงแม้เรื่องแบบนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ภาพพจน์ของนักเรียนนักศึกษาจะถูกมองว่าเป็นแบบนี้

“แนวทางแก้ไข ก็อยากให้รัฐบาลเอาจริง มีความจริงใจในการแก้ปัญหามาก กว่านี้ บางทีทำให้มองว่า คนที่ได้เปรียบทางสังคม คือมีหน้าที่การงาน มีเงิน มีทอง กลับเป็นผู้ที่ทำลายสังคมเสียเอง ปากเขาบอกว่าทำเพื่อส่วนรวม แต่จริงๆ แล้วเมื่อเงินเดือนเขาออกหรือได้รับเงินทองมาก็จะเดินทางไปร้านอาหาร สั่งหาเด็กๆ มาคอยบริการ เขาเหล่านี้เองผู้มี หน้าตาทางสังคมกลับเป็นผู้ทำลายสังคมเสียเอง หากไม่ มีพวกนี้อยู่เด็กๆ ก็จะไม่ขายตัว บทลงโทษทางกฎหมายน่าจะมีขั้นประหารชีวิตด้วย การเรียนฟรี 12-15 ปี ก็ไม่มีความหมาย หากรัฐไม่มาแก้ปัญหาในส่วนนี้” น.ส. จริยากล่าว

น. ส.สุดธิดา หล้าหิบ อายุ 19 ปี โปรแกรมวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตรเทคโนโลยี เปิดเผยว่า เรื่องการขายตัวของเด็กนักเรียนนักศึกษานั้นคิดว่ามีจริง ซึ่งแม้จะมีความจำเป็นเพียงใดก็ไม่ควรทำแบบนี้ ในส่วนที่เป็นสถานที่ติดต่อของเด็กเหล่านี้ก็น่าจะเป็นตามร้านอาหาร คาราโอเกะ และมีนายหน้าเป็นคนติดต่อ ซึ่งนายหน้าจะมีเบอร์ของเด็กที่ต้องการขายบริการไว้แทบทุกคน ซึ่งนายหน้าบางคนเป็นกะเทยในกลุ่มผู้หญิง และบางรายก็เป็นร้านอาหารหรือคาราโอเกะก็มี ซึ่งผู้ที่ต้องการเด็กเหล่านั้นจะไปติดต่อจากตัวแทนนั้น หลังจากนั้นก็โทร.ให้เด็กมาเดินผ่านหน้าร้านหรือไปร้องเพลงในคาราโอเกะ และบอกราคาไปตั้งแต่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งนายหน้าจะหักเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 30 ที่เหลือจะเป็นของเด็ก จากนั้นเมื่อได้เงินก็จะนำมาแต่งตัว ซื้อยาเสพติดมาเสพ หรือไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มต่อ

นายศิวะ มีลาดคำ อายุ 18 ปี ชั้นปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มรสน. บอกว่า มีเพื่อนบางคนมาชวนไปใช้บริการจากเพื่อนนักศึกษาบางแห่งที่ขาย ตัว โดยบางคนจะเลือกแขกเช่นกัน จะเลือกเฉพาะรายที่ดูภูมิฐานและมีรถยนต์มารับ ค่าบริการสนนราคาตั้งแต่ 1,500 -2,000 บาทต่อครั้ง โดยมีนายหน้าติดต่อจากนั้นก็จะนำรถมารับหลังเลิกเรียนนัดไปเที่ยวดิสโก้เธค จากนั้นก็เลี้ยงอาหาร เสร็จแล้วก็เข้ารีสอร์ตหรือโรงแรมหลับนอนแล้วก็จ่ายเงินตามสมควรที่ตกลงกัน ซึ่งแต่ละครั้งนายหน้าก็จะได้ตามที่ตกลงกัน บางคนบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่เสียหาย เพราะหลายคนก็ทำกัน และมีเงินใช้ด้วย ซึ่งฟังแล้วทำให้เกิดความสมเพชเวทนามาก

นายเตชทัต หล้าหิบ อายุ 19 ปี ชั้นปี 1 โปรแกรมภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีจริงและเพื่อนเคยชวนไปพิสูจน์มาแล้วแต่ไม่กล้า ปัญหานี้ไม่ได้มาจากเด็กนักเรียนนักศึกษา ปัจจุบันเรื่องนี้มีประกาศทางเว็บไซต์ มากมาย ประกาศรับสมัครเด็กหางานทำ ที่แท้ก็คือการขายตัว มีการส่งเบอร์โทรศัพท์ให้ ข้อความสนใจจากผู้อ่าน ซึ่งทำให้เด็กเข้าไปดู และเมื่อเห็นว่ามีเงินค่าตอบแทนสูงจึงทดลองทำที่สุดก็เป็นอย่างที่ว่า ในส่วนตัวนั้นเคยมีการติด ต่อให้ไปขายเหมือนกัน แต่ไม่ทำเพราะว่ายังไม่มีความจำเป็น หากมีความจำ เป็นอาจหาวิธีอื่นทำเพื่อให้ได้เงิน

ปัญหาเหล่านี้อยากให้ทางรัฐบาล หรือส่วนที่เกี่ยวข้องจัดการด้วย โดยเฉพาะเด็กบางคนไม่ขายตัวธรรมดากลายเป็นเด็กติดยาเสพติดไปด้วย ร้านขายยาเสพติด (ยาบ้า) พวกนี้มีทั้งร้านขายบะหมี่ หรือรถเข็นที่เปิดดึกๆ บางรายขายจนสว่างก็มี ยอมรับว่าตอนนี้การขายบริการทางเพศในกลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษายังมีให้เห็น และยาเสพติดก็มีมากมายหาซื้อง่ายยิ่งกว่าของอย่างอื่น

อาจารย์ประ ทุมทิพย์ ม่านโคกสูง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรสน. กล่าวว่า ปัญหาเด็กนักเรียนนักศึกษาขายตัวนั้นยอมรับว่ามีจริง ทั้งนี้ เพราะไม่เกิดกับเด็กที่ยากจนเท่านั้น ลูกคนมีฐานะและหน้าตาทางสังคมก็มี บางรายเสียคนตั้งแต่เริ่มขึ้นชั้น ม.1 มองว่าเป็นลัทธิเอาอย่างกัน และสบายด้วย วันนี้สังคมเริ่มเป็นอย่างนี้ เนื่องมาจากผู้ปกครองก็ไม่มีเวลามาดูแลบุตรตนเอง ส่งมาอยู่หอพักแล้วก็ไม่ตามมาดู ครูอาจารย์ก็เพียงได้แต่สั่งสอนและห้ามปรามเท่านั้น เมื่อเห็นคนหนึ่งทำก็ทำตามกัน น่าเสียดายอนาคตของชาติ บางคนเมื่อเจอหน้ากันมักถามกันว่า “มาจากกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ มีกี่คนแล้ว ที่ถามว่ามีกี่คนแล้วนั้นไม่ได้หมายถึงว่ามีลูกกี่คน แต่หมายถึงมีผัวแล้วกี่คน” ซึ่งมองว่าเหมือนเป็นเรื่องปกติของชีวิตเขา

” เรื่องนี้ยอมรับว่ามีจริง เพราะมีเด็กบางคนก็มาปรึกษาด้วย ไม่ได้หมาย ความว่าสถานศึกษาทุกแห่งและบางแห่งเท่านั้น แต่มีมากมายจนน่าตกใจ บางคนแทบไม่อาย สิ่งที่อยากแนะนำก็คือผู้ปกครองควรเอาใจใส่ดูแลบ้าง อย่าให้เงินเด็กแล้วส่งมาอยู่หอพัก ควรหาโอกาสมาพบบุตรหลานตนเองบ่อยๆ เพราะบางทีเขาอาจไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน แต่เขาถูกเพื่อนชักชวนในที่สุดก็ทดลองก็กลายเป็นเรื่องที่สายไปเสียแล้ว” อาจารย์ประทุมทิพย์กล่าว

ในส่วนของทางราชการเองโดยเฉพาะรัฐบาลจะทำ อย่างไรกับสถานการณ์ที่เด็กผู้หญิงผู้ชายกลายเป็นสินค้าขายดีและตัวสินค้า เองก็ไม่ละอายที่จะขายตัวเอง
ที่มา ข่าวสด

นักศึกษาขายบริการ
ปัจจุบันมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษามากมายทั้งในด้านดี และอีกด้านที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะในยุคปัจจุบันมีสิ่งที่มายั่วยวนใจนักศึกษามากมายที่จะนำไปสู่การกระทำ ผิด เช่น กระเป๋าแบรนเนม เครื่องสำอางยี่ห้อดัง หรือแม้แต่การมีรถยนต์หรูๆขับ เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองทันสมัย หรือการมีอะไรที่เหมือนๆคนอื่น โดยที่ไม่สนใจว่าฐานะของตัวเองเป็นเช่นไร
เมื่อ ความต้องการเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในความคิดของคน จึงทำให้นักศึกษาที่มีฐานะที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีเหมือนคนอื่นที่เขามี และแน่นอนว่าการเลือกขายบริการทางเพศ หรือการหาเสี่ยที่มีฐานะดี หรือถึงกับดีมาก มาเป็นคู่ครองนั้น ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นเป้าหมายแรกของนักศึกษาเช่นกัน และนี่ก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันจะพบนักศึกษาสาวขายบริการทางเพศตามสถานบันเทิงต่างๆ หรือแม้แต่อาบอบนวด ฯลฯ เพราะนักศึกษาเหล่านั้นจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการต่างๆนาๆ ของเขา แต่บางครั้งเขาเหล่านั้นไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะขัดกับกฎหมายบ้าน เมือง หรือจารีตประเพณีเก่าแก่หรือไม่ นอกจากว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นจะนำไปสู่ความสุขและการมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขา ต้องการ
ซึ่งดิฉันคิดว่า บุคคลที่เป็นนักศึกษา ไม่น่าจะนำความเป็นนักศึกษามาเป็นเครื่องมือในการขายบริการทางเพศ ขณะที่บางคนใช้ “Hi5” เป็นช่องทางหนึ่งในการขายบริการ หรือหาเสี่ยที่เลี้ยงเขาด้วย ซึ่งจะสร้างความน่าอับอายในภาพลักษณ์ของหญิงไทยด้วยเช่นกัน จนทำให้พวกเขาเหล่านั้น เข้าใจว่า การขายบริการเป็นเรื่องที่ถูกต้องใครๆก็ทำได้ แต่ในอีกแง่หนึ่ง พวกเขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียของสังคม และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนเช่นกัน จากการกระทำของนักศึกษาเหล่านั้น ตามบัญญัติกฎหมาย ส่วนที่2 กำหนดไว้ในมาตรา6 แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539ว่า
“มาตรา6 ผู้ใดจะมั่วสุมในสถานค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเอง หรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
สุดท้าย ดิฉันฝากบอกคนที่ไม่พอเพียงทั้งหลายให้ยึดหลักความพอเพียง ตามพ่อหลวงเราจะดีกว่านะค่ะ
ที่มา กระทู้จากเน็ต

เตรียมออกมาตรการคุมนักเรียนนักเลง ประสานไอซีที เอาผิดเว็บเผยแพร่ นักศึกษาขายบริการ
ศธ. เตรียมออกประกาศมาตรการป้องกันนักเรียน นักศึกษา ทะเลาะวิวาท หากยังเกิดเหตุอีกต้องมีผู้รับผิดชอบ ส่วนปัญหา นศ.ขายบริการทางเว็บไซต์ มอบเลขาฯ สกอ.ประชุมรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา กำหนดแนวทางแก้ไข พร้อมประสาน ก.ไอซีที เอาผิดเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลไม่ถูกต้อง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก ว่า ได้หารือปัญหานักศึกษาทะเลาะวิวาท โดยกระทรวงจะออกประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันการทะเลาะวิวาทและทำร้ายกัน ของนักเรียน นักศึกษา เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว โดย ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยให้ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด และหากเกิดปัญหาจะต้องมีผู้รับผิดชอบ จนถึงระดับผู้บริหาร สำหรับเนื้อหาหลักของประกาศฯ จะเป็นไปตามมาตรการ 8 ข้อ ซึ่งเป็นผลการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอก จากนี้ ยังกำชับให้ดูแลสถานการณ์ช่วงนี้เป็นพิเศษ เพราะสถานศึกษามีการจัดทัศนศึกษาและการแข่งขันกีฬาหลายแห่ง เกรงจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน

นายจุ รินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือปัญหานักศึกษาขายบริการทางเพศทางเว็บไซต์ โดยมอบหมายให้ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เรียกประชุมรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา กำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหา เช่น การรณรงค์ค่านิยมชีวิตพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และ มอบ หมายให้ ปลัด ศธ.ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอทีซี) ในการตรวจสอบเว็บไซต์ และดำเนินการทางกฎหมายแก่เว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาไม่ถูกต้องเผยแพร่ นอกจากนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษาหรือสารวัตรนักเรียน ช่วยสอดส่องดูแลด้วย

ส่วน โครงการเรียนฟรี 15 ปี นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจำนวนมาก จะเปิดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมในส่วนภูมิภาคอีก 1-2 ครั้ง โดยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ที่ จ.ชลบุรี แต่ยืนยันจะดำเนินการให้สามารถเริ่มใช้ได้ในปีการศึกษา 2552 นี้ หรือในเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

นศ.สาวขายตัว แฉตร.ตัวดี ลูกค้ารายใหญ่
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ที่อาคาร 11 ห้อง 11703 สถาบันราชภัฏสวนดุสิต คณะนักศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารการ-ศึกษา จัดสัมมนาปัญหาการศึกษา กรณีนักเรียน นักศึกษาขายตัว โดยมีการเชิญนักเรียนนักศึกษาที่ขายบริการ ผู้ใช้บริการจากนักเรียนนักศึกษา และแม่เล้าที่เกี่ยวข้อง มาเล่าถึงประสบการณ์จริง โดยในส่วนของนักเรียนนักศึกษาที่มาขายบริการ มีผู้มาเล่าถึงประสบการณ์เกือบ 10 ราย

ซึ่ง น.ส.หน่อย (นามสมมติ) นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เล่าถึงสาเหตุที่ต้องมาขายบริการว่า เพราะพ่อแม่แยกทางกันและต้องการ หาเงินใช้เป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ต้องการมีเงินและของใช้ราคาแพงเหมือนเพื่อน เช่น โทรศัพท์มือถือ น้ำหอม ประกอบกับเพื่อนแนะนำให้ทำเพราะได้เงินง่าย ส่วนอนาคตคิด ว่าจะเลิกแล้วหางานบริสุทธิ์ทำ แม้จะได้เงินน้อยก็ตาม

คนต่อมาคือ น.ส. แอน (นามสมมติ) นักศึกษาระดับปริญญาตรี ที่เพิ่งเข้าสู่อาชีพขายบริการได้ ประมาณ 2-3 เดือน เปิดเผยว่า เกิดจากปัญหาครอบครัว พ่อแม่แยกกันอยู่ โดยตนอยู่กับพ่อ ซึ่งระยะแรกๆ พ่อดูแลเอาใจใส่อย่างดี แต่ต่อมาพ่อไปมีภรรยาใหม่ ไม่ดูแลเหมือนเดิม ขณะที่ตนต้องการเงินเป็นค่าใช้จ่ายและค่าเล่าเรียน เคยขอทุนการศึกษาแต่ไม่ได้ ต่อมาได้รู้จักกับแม่เล้า ซึ่งเป็นนักศึกษาสถาบันเดียวกันและอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกัน ชักชวนให้มาขายบริการ บอกว่าจะได้เงินง่ายและไม่ได้เสียหายอะไร จึงตัดสินใจทำ เพราะมีเพื่อนนักศึกษาทำกันมาก

ด้านน้องฝน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ปวช. ปี 2ได้เล่าถึงเทคนิคการให้บริการทางเพศกับลูกค้าว่า เทคนิคจะอยู่ที่เรือนร่าง ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ เป็นธรรมชาติไม่ดัดจริตเสแสร้ง ลูกค้าจึงจะชอบ และติดใจกลับมาใช้บริการบ่อยๆ ส่วนเรื่องการรักษาความสะอาด ต้องมาเป็นอันดับแรก โดยจะต้องไปตรวจเลือดทุก 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยก็จะไม่ร่วมหลับนอนด้วย อาชีพของผู้ใช้บริการมากที่สุดคือ ตำรวจ ส่วนทหารกับนักธุรกิจรองลงมา แต่ให้เงินดีกว่า สุภาพ นิสัยดี ไม่ก้าวร้าว พูดเพราะ “–ขณะนี้ต้องผ่อนชำระค่าเล่าเรียนเดือนละ 3,000 บาท ไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน มีแต่ต้องขายบริการที่จะได้เงินเร็วและง่าย โดยจะทำในช่วงบ่ายถึงค่ำ เพราะหลังจากนั้นจะออกจากบ้านไม่ได้ เนื่องจากอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งไม่รู้ว่าตนทำงานขายบริการทางเพศ–”

ขณะที่ นายสิงห์ (นามสมมติ) อาชีพผู้จัดหานักเรียน นักศึกษา ขายบริการ กล่าวว่า ตนไม่ใช่พ่อเล้า แต่เป็นนายหน้าจัดหางานให้แก่นักเรียน นักศึกษา ที่เดือดร้อน และต้องการเงินโดยจะทำหน้าที่ ประสานงานหาลูกค้า ซึ่งมีตั้งแต่นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ นายแบงก์ โดยนักเรียน นักศึกษา ที่ขายบริการจะทิ้งเบอร์เพจหรือเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ ถ้ามีลูกค้ามาติดต่อและต้องการแบบ ใดหรือสถาบันไหน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ก็จะติดต่อให้ไปพบกันที่ศูนย์การค้าหรือห้องอาหาร สำหรับนักศึกษาที่ขายบริการเป็นครั้งคราวจะสามารถเรียกตัวได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง แต่ถ้านักศึกษาทำประจำจะสามารถเรียกได้ภายในครึ่งชั่วโมง ส่วนราคาแล้วแต่จะตกลงกันเอง โดยตนจะได้เปอร์เซ็นต์จากลูกค้าที่มาขอใช้บริการ ถ้าลูกค้าบอกสเปกมาว่าต้องการแบบไหน ขนาดใด เรียนสถาบันไหน แล้วสามารถจัดหาให้ได้ ก่อนหน้านี้ลูกค้าจะเน้นนักศึกษา แต่ปัจจุบันเริ่มมี การขอใช้บริการกับนักเรียนมัธยม โดยเฉพาะอายุ 13-15 ปี ซึ่งเท่าที่สามารถเรียกได้มีอยู่ 10 กว่าคน ซึ่งบางส่วนเป็นเด็กจากโรงเรียนชั้นนำในกรุงเทพฯ ในราคาประมาณ 3,000-8,000 บาท โดยลูกค้าเชื่อว่า เด็กที่อายุน้อยจะมีความต้องการทางเพศน้อย ทำให้มีความเสี่ยงต่อ การติดโรคน้อยเช่นกัน

ต่อมา น.ส. เอ๋ (นามสมมติ) มามาซัง บาร์อะโกโก้แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า มีนักศึกษาอายุประมาณ 20-21 ปี เข้ามาสมัครขายบริการทางเพศเยอะ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม โดยขอให้ช่วยหาชาวต่างชาติมา เปิดบริสุทธิ์ในราคาครั้งละ 15,000-30,000 บาท ซึ่งเห็นแล้วก็รู้สึกสลดใจ อยากเตือนพ่อแม่ว่า ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตนมีครอบครัวที่แตกร้าวให้เอาใจใส่ลูกบ้าง อย่าหาแต่เงิน คิดว่าจะเป็นคำตอบของทุกสิ่งได้ซึ่งไม่จริงเสมอไป

ด้าน นายไมตรี (นามสมมติ) ผู้ใช้บริการทางเพศกับนักเรียนนักศึกษาเปิดเผยว่า ติดต่อใช้บริการทางเพศนักเรียนนักศึกษาจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ สถานที่ติดต่อ และราคาค่าตัว ซึ่งถ้าเป็นแบบชั่วคราวประมาณ 1,000- 2,000 บาท แต่ถ้าค้างคืน ประมาณ 4,000 บาท ก่อนจะนัดเจอกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์การค้าหรือร้านอาหาร แล้วจะพาไปบ้านร่วมหลับนอน เช้าก็จะไปส่งที่หอพัก ส่วนที่ชอบใช้บริการกับนักเรียน นักศึกษา เพราะนิสัยดี เป็นกันเอง พูดจาดี ไม่งอแง มีการศึกษาไม่ได้ทำทุกวัน ปลอดจากโรคมากกว่า ต่างจากผู้หญิงขายบริการทั่วไป ที่ผ่านมาใช้บริการทางเพศ จากนักศึกษาทั้งสถาบันรัฐ และเอกชนไปแล้ว 6 คน

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลได้เปิดเผยผลการสำรวจข้อมูลประกอบการสัมมนาโดยสอบถาม จากผู้ขายบริการ ผู้ใช้บริการ ผู้จัดการ (แม่เล้า-มามาซัง) ผู้บริหารการศึกษา และประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนนักศึกษาขายตัวรวมทั้งสิ้น จำนวน 3,197 คน ระบุว่า

– สภาพปัญหา นักเรียนนักศึกษาขายตัว อันดับ 1 เป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง 34.75%
– อันดับ 2 เป็นปัญหาที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น 25.61%

ส่วนสาเหตุสำคัญที่สุดในการขายตัว อันดับ 1 ต้องการเงินใช้จ่ายเพื่อครอบครัวและค่าเล่าเรียน 38.83%

– อันดับ 2 ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ ซื้อของฟุ่มเฟือย 28.55%
– อันดับ 3 มาจากปัญหาครอบครัว 14.54%

สำหรับสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด กรณีนักเรียน นักศึกษาขายตัว

– อันดับ 1 โรคติดต่อและเอดส์ 48.62%
– อันดับ 2 ความล้มเหลวของชีวิต อนาคตการเรียน 16.99%

วิธีป้องกันและแก้ไข ปัญหานักเรียน นักศึกษาขายตัว

– อันดับ 1 ควรเริ่มจากครอบครัว การให้ความรักความอบอุ่น 37.01%
– อันดับ 2 ปลูกฝังศีลธรรม จริยธรรมตั้งแต่เด็ก 26.38%
– อันดับ 3 หน่วยงานของรัฐ รัฐบาลควรให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง 13.78%
ที่มา…หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Leave a Reply