วิจัยตีแผ่ชายไทยนิยมฟันแล้วทิ้ง

ฟันแล้วทิ้ง +++ วิจัยตีแผ่ชายไทยนิยมฟันแล้วทิ้ง +++ อ่าน ความคิดเห็น ตอบกระทู้ วิจัยตีแผ่ชายไทยนิยมฟันแล้วทิ้ง +++ ไม่อายมั่วเซ็กส์บ้าดารา พร้อมแย้ม “ดาราชายขี้เมาตัวดำ” ที่ฟันแล้วทิ้งจนท้องโย้ คือพ่อของลูกตัวจริง!!! +++ ประสบการณ์ครั้งแรก คือหลังจากที่เค้าได้เราในครั้งแรกแล้วเค้าก็ไม่ทิ้งเรา เค้าไม่ฟันแล้วทิ้งอะ +++ ระบายความในใจ » ผู้ชายฟันแล้วทิ้งทุกคนป่ะ +++

+++ ผู้ชาย เปิด-ซิง เป็นงี้ป่ะ ราก็มีอะไรกับแฟนต่างคนต่างเป็นคนแรกของกันและกัน พอเลิกกันมันกลายเป็น ฟันดะเลย ฟันแล้วทิ้ง ไม่ยอมหยุดเลย +++ แฟนชวนเข้าม่านรูด +++ ฟันแล้วทิ้ง เมื่ออยากได้เรา เอาใจไส่ พอใด้ไปแม้ความห่วงใยนั้นมองไม่เห็น+++ ถูกฟันแล้วทิ้งทัมไงดีอ่ะ คนบ้าเอ้ยเราอุตส่ารักทัมมัยทัมกับเราแบบนี้นะ +++ ถูกฟันแล้วทิ้งทัมไงดีอ่ะ คนบ้าเอ้ยเราอุตส่ารักทัมมัยทัมกับเราแบบนี้นะ +++

+++ ผู้ชายฟันแล้วทิ้ง เพื่อน ๆ จะทามยังงัยดีเมื่อคนที่รักมากกกกก มาฟันแล้วทิ้ง จะทามยังงัยดี +++ วัยรุ่นหญิงยุคใหม่หน้าตาเฉยถูกฟันแล้วทิ้งเรื่องเล็ก +++ 5ขั้นตอนก่อนจา__เสียตัว ตอนเป็นวัยรุ่น ผมมีเพื่อนผู้ชายมากมายหลายคนที่เป็นสมาชิก “หน่วยล่าพรหมจรรย์” จีบแล้วฟัน ฟันแล้วทิ้ง +++ แก้เผ็ด ผู้ชายฟันแล้วทิ้ง +++ เวอร์จิ้นสำคัญไหม รบกวนขอถามความคิดเห็นหน่อยนะครับ +++

+++ แค่ฟันแล้วทิ้ง!! เท่านั้นเองเหรอ 3 เดือนที่ผ่านมา คุณตามจีบฉัน เป็นเพื่อนคุย เป็นผู้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ +++ ความรักและการจากลา(หลอกกันให้รักแล้วจากไป…) เพราะไม่ใช่เค้าที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ แต่เป็นคุณต่างหากที่มโนภาพมันขึ้นมาเพื่อปลอบใจคุณเอง อย่าลืมนะว่า “เค้าทิ้งคุณ” “เค้าทิ้งคุณไปแล้ว” และ “คุณถูกทิ้ง” “ฟันแล้วทิ้ง” บทความเกี่ยวกับ ฟันแล้วทิ้งมากมาย ทั้งหมดอ่านได้ที่นี่ครับ

วิจัยตีแผ่ชายไทยนิยมฟันแล้วทิ้ง
เผยงานวิจัยน่าตกใจตีแผ่ชายไทยร้อยละ 73.2 นิยมฟันแล้วทิ้ง
แถมชอบอ้างเหตุผลผู้หญิงโง่เอง หรือท้องกับผู้ชายอื่น
ในขณะที่ผู้หญิงตั้งท้องนอกสมรสเป็นเด็กระดับมัธยมถึง 43%
โดยใช้บ้านเช่าเป็นสถานที่มีเซ็กซ์กันมากที่สุด
สวช.เตรียมระดมนักวิชาการช่วยกันคิดหาทางแก้ไขปัญหาก่อนลุกลามหนัก

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล
เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยว่า
ขณะนี้สถานการณ์ของเด็กและเยาวชนไทยกำลังน่าเป็นห่วงมาก
โดยเฉพาะปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
โดยข้อมูลจากงานวิจัยเรื่อง
“การตัดสินใจดำรงครรภ์และการปรับตัวของมารดานอกสมรสในเขตกรุงเทพมหานคร”
ของน.ส.ภาสนันทน์ อัศวรักษ์ คณะศิลปศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอม
เกล้าธนบุรี
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.)ให้ทุนอุดหนุน
โดยเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจากกลุ่มตัวอย่างหญิงอายุ
14-20 ปี 121 ราย ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 5
เดือนขึ้นไปและที่คลอดบุตรแล้วในบ้านฉุกเฉินดอนเมือง
บ้านพักเด็กและครอบครัว ราชเทวีและมูลนิธิสมาคมต่าง ๆ
พบว่ามารดา นอกสมรสร้อยละ 43 เป็นเด็กที่กำลังศึกษาอยู่
ในระดับมัธยม ประถมศึกษา ร้อยละ 34.7 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.) ร้อยละ 7.4 อุดมศึกษา ร้อยละ 6.6
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ร้อยละ 3.3 ไม่เคยศึกษาร้อยละ 3.3
และอื่น ๆ เช่น วุฒิบัตรวิชาชีพ ร้อยละ 1.7

นางปริศนา กล่าวต่อไปว่า สำหรับสาเหตุของการตั้งครรภ์
พบว่าร้อยละ 43 ไม่ได้ตั้งใจ แม้จะมีวิธีคุมกำเนิด รองลงมาคือ
ความยินยอม รักใคร่ชอบพอ ร้อยละ 38 ถูกล่อลวง ข่มขืนร้อยละ 14
และต้องการนำไปสู่การสมรส ร้อยละ 5
และเมื่อท้องแล้วมีความคิดที่จะทำแท้งหรือไม่ พบว่าร้อยละ 55.4
ไม่ทำ เพราะกลัวบาป กลัวเจ็บ หมอไม่ให้ทำ ไม่มีเงิน อายุครรภ์มาก
รองลงมา ร้อยละ 23.1 ไม่ทำแท้งเพราะสงสารลูก รักและผูกพันกับลูก
กลัวอันตราย และตั้งใจให้เกิด
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวคือการที่พบว่า
กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.5 เคยพยายามทำแท้งด้วยวิธีกินยา ฉีดยา
ไปดึงเด็กแต่ไม่ออก เสพยาเสพติด ทำร้ายร่างกาย เช่น ตีท้อง
หรือพยายามตกบันได

ส่วนสถานที่ที่ใช้มีเพศสัมพันธ์ พบว่าร้อยละ
46.3 เป็นบ้านเช่า รองลงมาคือ บ้านตนเอง ร้อยละ 20.7 และอื่น ๆ
เช่น หอพัก บ้านญาติ ร้อยละ 15.7

เลขาธิการ กวช. กล่าวอีกว่า
“ในงานวิจัยยังได้ระบุถึงข้อมูลจากสหทัยมูลนิธิ
และสายด่วนของมูลนิธิคุ้มครองเด็กที่พบว่า
มีนักเรียนโทรศัพท์มาปรึกษาปัญหาทางจิตใจและเครียดค่อนข้างมากถึงกว่า
3,200 ราย โดยมีสาเหตุจากเพื่อนชายปฏิเสธความรับผิดชอบ
ส่งผลให้เด็ก