เสียตัว ภัยมืด ใครต้องขับรถ

เสียตัว ภัยมืด ใครต้องขับรถ
เสียตัว ภัยมืด ใครต้องขับรถ..หรือ
ผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอยู่บนสถานีตำรวจก้มหน้านิ่งตลอดเวลาใบหน้าเธอซีดขาว
บางครั้งก็เหม่อลอยแววตาหมดหวังและบางครั้งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต

ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตี 2 แล้วท่าทางของเธอสะดุดในผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย
จนอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสเข้าไปพูดคุยด้วยความสงสัยผู้หญิงทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
แต่เหตุที่ต้องมาอยู่บนสถานีตำรวจในเวลาเดียวกัน
ก็เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนกัน!เป็นการเฉี่ยวชนแล้วพยายามขับหนี
แต่ไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้
เธอซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จนเมื่อถึงเวลาสอบปากคำอีกฝ่าย เธอพยายามเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความสงสัย
ตอนแรกคิดว่าอาจจะกลัวหรือตกใจที่แฟนตัวเองพยายามหลบหนี
หรือกังวลกับคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงบอกว่า ถ้าชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะไม่เอาความใดๆ
แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าตกใจ
พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย
อากัปกริยาเช่นนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมและยิ่งทำให้ต้องปลอบโยน
เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกันทำให้ใช้เวลาไม่นาน

เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมา เธอบอกว่ากำลังถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไว้เหมือนกัน
เธอกลัวมากและอายมากและกำลังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเธอเล่าจบ ทำให้ผู้ฟังรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมชายคนนั้นไว้ทันที
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้โชคร้าย ความจริงบ้านของเธออยู่ที่จังหวัดนครปฐม
ในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้านเป็นเวลา 3 ทุ่ม ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาชนท้าย
ผู้ขี่จักรยานยนต์เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รีบจอดรถลงมาดูความเสียหาย
และขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งบอกว่า ไม่ต้องกังวลจะชดใช้ค่าเสียหายให้
และพร้อมจะไปตกลงที่สถานีตำรวจด้วยท่าทางที่สุภาพนอบน้อม

ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัวและยินดีที่จะไม่เอาเรื่อง หากชดใช้ค่าซ่อมรถที่มีรอยบุบเพียงเล็กน้อย
ชายคนนั้นบอกให้เธอขับรถตามเข้าไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ไม่ไกล
เพื่อให้ช่างตีราคาและตกลงค่าซ่อม แต่ระหว่างทางขอนำรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปเก็บที่บ้านก่อน
เพราะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหา เธอก็ขับรถตามไปจนถึงปากทางเข้าบ้าน
และนั่งคอยอยู่ที่รถ ชายคนนั้นกลับออกมาพร้อมชายคนหนึ่ง
เปิดประตูและขึ้นนั่งประกบทันที ดันตัวเธอไปนั่งตรงกลาง ใช้มีดบังคับให้นั่งเฉยๆ
และขับรถเข้ามากรุงเทพฯ ถึงธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณงามวงศ์วาน
ก็จี้ตัวเธอลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ได้เงินจำนวนที่ธนาคารกำหนดให้กดจากตู้ในวงเงินเท่านั้น

แต่เมื่อเห็นเงินในบัญชียังมีเหลืออีกมากจึงยังไม่ปล่อยตัวไปง่ายๆ กันตัวไว้
รอเวลาให้เลยเที่ยงคืน แล้วจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง ในช่วงการรอคอยเวลา
ก็ขับรถมาแถวถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด และผลัดกันข่มขืนเธอหลายครั้ง
แล้วก็สั่งอาหารรวมทั้งเบียร์มาดื่มกินในห้อง จนมีอาการมึนเมา
แล้วก็ข่มขืนอีก จนกระทั่งตี 2 ชายคนหนึ่งจึงขับรถพาเธอมาบังคับให้กดเงินให้อีก
โดยให้สัญญาจะปล่อยตัวไป หากได้เงินที่ต้องการแล้ว ยังไม่ทันที่จะถึงธนาคาร

ชายคนนั้นก็ขับรถชนท้ายรถคันหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเสียก่อน
แล้วพยายามหลบหนีจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่นอนคอยอยู่ในโรงแรมได้
และพาตัวมาสอบสวน ทั้งคู่รับสารภาพว่าทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนใหญ่จะตระเวนมองหารถที่มีผู้หญิงขับเพียงคนเดียว
และมักจะหาเหยื่อตามจังหวัดที่อยู่รอบๆกรุงเทพฯ ผู้หญิงส่วนใหญ่อายไม่กล้าแจ้งความ
กลัวเสียชื่อเลย ทำให้ยิ่งได้ใจ
ที่มา ประไพพัตร โขมพัตร นิตยสารดิฉันภัยมืด

Leave a Reply